diy Voltage Stabilizer

**สายฟ้า นพรัตน์** · 19-04-2009, 23:48

มันคงไม่สเตบิไลเชอร์หรอกครับ เพราะคาปาซิเตอร์ไม่ได้ทำตัวเป็นสเตบิไลเชอร์
แต่ถ้าเดินสายจากแบตไปใช้งานด้วยสายไฟเส้นเล็ก ๆ เป็นระยะทางไกล ๆ และโหลด ( อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการกระชากไฟเป็นช่วง ๆ ( กระชากต่อเนื่องใช้ไม่ได้ )) เจ้า คาปาซิเตอร์ชุดนี้ช่วยได้ครับ
และต้องต่อ คาปาซิเตอร์ให้ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้มากที่สุดเท่าท่จะ ทำได้

เช่น ต่อเข้ากับขั้วไฟเข้าของถาคขยายเสียง ( เพาเวอร์แอม ) จะทำให้เสียงเบสแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ( แต่ถ้าสายไฟใหญ่มาจากแบตแล้วจะไม่เห็นความแตกต่างแน่ นอน )

ถ้าต้องการสเตบิไลเซอร์จริง ทำได้ แต่ต้องไม่ถึง 12 v

ไฟเข้า 12 - 17 v ไฟออก 9 v คงที่ ทำได้ง่าย ๆ เลยครับ
แต่ถ้าไฟเข้า 12 - 17 v ไฟออก 12 v คงที่ ต้องออกแรงเพิ่มอีกนิดหน่อย กล่าวคือ ต้องแปลงไฟ 12 - 17 v ให้สูงขึ้นประมาณ 15-20 v แล้ว ทำให้ออก 12 v คงที่ พอทำได้ครับ ถ้าต้องการกระแสใช้งานไม่มากมีทำขายแล้วครับ

แล้วจะเอาไปทำอะไร ตรงไหนละครับ เพราะจุดที่จำเป็น ที่ ecu เขาก็ทำมากับ ecu เรียบร้อยแล้ว

**FoRDeZ** · 28-05-2009, 18:51

พี่ๆลองไปดูลิ้งนี้ก่อนครับ

พอดีไปเจอมา

http://www.fortuner-club.com/webboar....asp?QID=52730

มีวีดีโอให้ดูด้วยว่าต่อแล้วมันเห็นผลยังไงครับ

**taoii** · 30-05-2009, 23:09

ดูจาก คลิปแล้วสร้างความเชื่อมั่นได้ดีเลยล่ะครับ..จะได้ลด ข้อสงสัยของการติด Volt Stabilizer ไปได้มากเลย ถ้ามีการทดลองของ Ground wire ด้วย ก็ยิ่งดีเลยครับ..

ขอบคุณครับ

**sakda_** · 19-08-2010, 04:50

up ครับ

**nye-noei** · 31-05-2009, 10:24

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ สายฟ้า นพรัตน์

มันคงไม่สเตบิไลเชอร์หรอกครับ เพราะคาปาซิเตอร์ไม่ได้ทำตัวเป็นสเตบิไลเชอร์
แต่ถ้าเดินสายจากแบตไปใช้งานด้วยสายไฟเส้นเล็ก ๆ เป็นระยะทางไกล ๆ และโหลด ( อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการกระชากไฟเป็นช่วง ๆ ( กระชากต่อเนื่องใช้ไม่ได้ )) เจ้า คาปาซิเตอร์ชุดนี้ช่วยได้ครับ
และต้องต่อ คาปาซิเตอร์ให้ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้มากที่สุดเท่าท่จะ ทำได้

เช่น ต่อเข้ากับขั้วไฟเข้าของถาคขยายเสียง ( เพาเวอร์แอม ) จะทำให้เสียงเบสแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ( แต่ถ้าสายไฟใหญ่มาจากแบตแล้วจะไม่เห็นความแตกต่างแน่ นอน )

ถ้าต้องการสเตบิไลเซอร์จริง ทำได้ แต่ต้องไม่ถึง 12 v

ไฟเข้า 12 - 17 v ไฟออก 9 v คงที่ ทำได้ง่าย ๆ เลยครับ
แต่ถ้าไฟเข้า 12 - 17 v ไฟออก 12 v คงที่ ต้องออกแรงเพิ่มอีกนิดหน่อย กล่าวคือ ต้องแปลงไฟ 12 - 17 v ให้สูงขึ้นประมาณ 15-20 v แล้ว ทำให้ออก 12 v คงที่ พอทำได้ครับ ถ้าต้องการกระแสใช้งานไม่มากมีทำขายแล้วครับ

แล้วจะเอาไปทำอะไร ตรงไหนละครับ เพราะจุดที่จำเป็น ที่ ecu เขาก็ทำมากับ ecu เรียบร้อยแล้ว

ประมาณนี้นะครับ ถ้าต้องการให้ สเตบิไล ต้องเอาไปไว้ใกล้ๆอุปกรณ์ที่เราใช้งาน

เคยเห็น Capa 1 Farad ตัวเท่ากระบอกข้าวหลาม ที่ใช้ในเครื่องเสียงไหมครับ

เห็นไหมครับเขาติดใกล้อุปกรณ์ที่ใช้งาน อย่างนี้ครับ สเตบิไล ชัดเจน

ส่วนเรื่องผลการลดการลบกวนของความถี่สูง เกิดแค่ C แบบ ไมล่า ตัวเท่าปลายก้อยครับ

โดยปกติในระบบรถยนต์ มีให้อยู่ที่เกือบทุกอุปกรณ์ ส่วนใหญ่ช่างตัดออกบอกไม่ใช้

( ไม่ใช้แล้วมันใส่มาให้เปลืองทำไม )

**sit fishing** · 25-06-2009, 20:30

ความคิดผมนะครับไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไหนก็ตามที่เราติ ดตั้งเพิ่มเข้าไปควรเดินสายใหญ่ๆหน่ยละกันแค่ให้เหมา ะสมกับกระแสที่มันต้องการและลงกราวด์แน่นๆดีแค่นี้ไฟ ก็เหลือเฟือครับเพราะเรามีแบตเตอร์รี
ที่เป็นตัวจำกัดแรงดัน ดี ซี อยู่แล้ว ส่วน ตัวไม่ล่าร์หรือเซรามิก ใช้บายพาสความถี่สูงลงกราวด์เท่านั้นเพื่อป้องกันเสี ยงหวีดในระบบเครื่องเสียงและป้องกันการรบกวนอย่างอื่ นด้วย
ใช้สายใหญ่ๆ ลงกราวด์แน่นๆดีๆเยอะๆแค่นี้ก็จบครับ ฟันธง...

คำสั่งเพิ่มเติม
แสดงผลสำหรับที่จะ Print ส่งหัวข้อนี้ให้เพื่อนทางอีเมล์
เรียบเรียงคำตอบ
เปลี่ยนสู่แบบตามยาว Hybrid Mode Switch to Threaded Mode

19-04-2009, 23:48	#1
สายฟ้า นพรัตน์ ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Nov 2008 กระทู้: 7 Thanks: 0 Thanked 5 Times in 3 Posts คะแนน: 0	มันคงไม่สเตบิไลเชอร์หรอกครับ เพราะคาปาซิเตอร์ไม่ได้ทำตัวเป็นสเตบิไลเชอร์ แต่ถ้าเดินสายจากแบตไปใช้งานด้วยสายไฟเส้นเล็ก ๆ เป็นระยะทางไกล ๆ และโหลด ( อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการกระชากไฟเป็นช่วง ๆ ( กระชากต่อเนื่องใช้ไม่ได้ )) เจ้า คาปาซิเตอร์ชุดนี้ช่วยได้ครับ และต้องต่อ คาปาซิเตอร์ให้ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้มากที่สุดเท่าท่จะ ทำได้ เช่น ต่อเข้ากับขั้วไฟเข้าของถาคขยายเสียง ( เพาเวอร์แอม ) จะทำให้เสียงเบสแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ( แต่ถ้าสายไฟใหญ่มาจากแบตแล้วจะไม่เห็นความแตกต่างแน่ นอน ) ถ้าต้องการสเตบิไลเซอร์จริง ทำได้ แต่ต้องไม่ถึง 12 v ไฟเข้า 12 - 17 v ไฟออก 9 v คงที่ ทำได้ง่าย ๆ เลยครับ แต่ถ้าไฟเข้า 12 - 17 v ไฟออก 12 v คงที่ ต้องออกแรงเพิ่มอีกนิดหน่อย กล่าวคือ ต้องแปลงไฟ 12 - 17 v ให้สูงขึ้นประมาณ 15-20 v แล้ว ทำให้ออก 12 v คงที่ พอทำได้ครับ ถ้าต้องการกระแสใช้งานไม่มากมีทำขายแล้วครับ แล้วจะเอาไปทำอะไร ตรงไหนละครับ เพราะจุดที่จำเป็น ที่ ecu เขาก็ทำมากับ ecu เรียบร้อยแล้ว

28-05-2009, 18:51	#2
FoRDeZ ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: May 2009 Car Brand: Mighty X Engine Type: 2L-T ที่อยู่: Bangkok กระทู้: 5 Thanks: 0 Thanked 2 Times in 2 Posts คะแนน: 0	พี่ๆลองไปดูลิ้งนี้ก่อนครับ พอดีไปเจอมา http://www.fortuner-club.com/webboar....asp?QID=52730 มีวีดีโอให้ดูด้วยว่าต่อแล้วมันเห็นผลยังไงครับ

30-05-2009, 23:09	#3
taoii Junior Member วันที่สมัคร: May 2007 กระทู้: 7 Thanks: 9 Thanked 3 Times in 2 Posts คะแนน: 0	ดูจาก คลิปแล้วสร้างความเชื่อมั่นได้ดีเลยล่ะครับ..จะได้ลด ข้อสงสัยของการติด Volt Stabilizer ไปได้มากเลย ถ้ามีการทดลองของ Ground wire ด้วย ก็ยิ่งดีเลยครับ.. ขอบคุณครับ

19-08-2010, 04:50	#4
sakda_ ClubJZ Full Member 2555 วันที่สมัคร: Jun 2008 Car Brand: Toyota Engine Type: 2JZ-เดิมๆ ที่อยู่: 8 ริ้ว กระทู้: 429 Thanks: 250 Thanked 390 Times in 122 Posts คะแนน: 17	up ครับ

25-06-2009, 20:30	#6
sit fishing Senior Member วันที่สมัคร: Dec 2008 กระทู้: 101 Thanks: 113 Thanked 69 Times in 44 Posts คะแนน: 17	ความคิดผมนะครับไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไหนก็ตามที่เราติ ดตั้งเพิ่มเข้าไปควรเดินสายใหญ่ๆหน่ยละกันแค่ให้เหมา ะสมกับกระแสที่มันต้องการและลงกราวด์แน่นๆดีแค่นี้ไฟ ก็เหลือเฟือครับเพราะเรามีแบตเตอร์รี ที่เป็นตัวจำกัดแรงดัน ดี ซี อยู่แล้ว ส่วน ตัวไม่ล่าร์หรือเซรามิก ใช้บายพาสความถี่สูงลงกราวด์เท่านั้นเพื่อป้องกันเสี ยงหวีดในระบบเครื่องเสียงและป้องกันการรบกวนอย่างอื่ นด้วย ใช้สายใหญ่ๆ ลงกราวด์แน่นๆดีๆเยอะๆแค่นี้ก็จบครับ ฟันธง...