ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.
|
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ! |
1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป 2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ 3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ |
ClubUZ ! Talk พูดคุย ถาม-ตอบ ปัญหาต่างๆของเครื่องยนต์ UZ! ครับ |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
|
![]() |
#1 |
ClubJZ Old Full Member
|
TOYOTA ENGINE Line up
เราคงจะได้ยินเครื่องที่มีนามสกุลต่าง ๆ กันไปของครื่องโตโยต้า เชน GE GTE GZE มาดูความหมายกัน ตัว T หมายถึง "เทอร์โบ" ตัว Z หมายถึง "ซูเปอร์ชาร์จ" ถ้าเป็นนามสกุลที่ขึ้นว่า "G" ก็จะหมายถึง "The Sport-Type Twin Cam Engine Line up" ก็ไม่ต้องแปลนะครับ ตรงตัวเลยว่า "เครื่องยนต์ที่เน้นไปในลักษณะสปอร์ต" ก็อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นแหละครับ เพราะมีหลายตัวที่บ้านเรานิยมเล่นกัน ตั้งแต่ 1-2JZ-GTE, 3S-GTE, 4A-GE พวกนี้แหละครับ... สำหรับเครื่องยนต์ที่เริ่มใช้ระบบ "DOHC 4 Valve" หรือ "ทวินแคม 4 วาล์ว ต่อ 1 สูบ" ก็จะเริ่มมาจากบล็อก "1G-GE" 6 สูบเรียง 2.0 ลิตร เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1982 (จริง ๆ TOYOTA ก่อนหน้านั้นก็มีเครื่องทวินแคมอยู่แล้ว พวก 2T-G หรือ 3T-GTE แต่ใช้แค่ "2 วาล์ว ต่อ 1 สูบ" เท่านั้นเอง) พอหลังจากนั้น ก็ตามมาด้วย "3S-G + 7M-G + 4A-G" ซึ่งเครื่องยนต์พวกนี้ ก็จะเน้นสมรรถนะไปในแนวสปอร์ต แรงม้าแรงบิดมารอบสูง อันนี้เราเคยพูดถึงไปแล้ว ว่าฝาสูบแบบ GE เป็นลักษณะยังไง ลงไปใน XO AUTOSPORT เล่ม 109 (November 2005) แล้วมาจบที่เล่ม 111 (January 2006) ลองไปหาย้อนอ่านดูได้ครับ... ในเรื่องเทคนิคเกี่ยวกับฝาสูบแบบต่าง ๆ ทั้ง "G และ F" ก็เคยลงไปในสองเล่มที่ว่ามาตะกี้แล้วเหมือนกัน ก็คงไม่ต้องพูดซ้ำกันบ่อย ๆ เพราะรู้อยู่แล้ว ว่า "ฝาสูบ" มันไม่เหมือนกัน (ส่วน E ต่อท้าย จะหมายถึงระบบ "หัวฉีดไฟฟ้า" นะครับ) แต่ในครั้งนี้ เรากำลังทำคอลัมน์เกี่ยวกับเครื่อง "1UZ-FE" เราก็อยากจะนำเสนอตรงที่ว่า "เครื่องยนต์ที่มีนามสกุล F มันมีประวัติอย่างไร" สำหรับเครื่องนามสกุล F เจตนาที่ผลิตขึ้นมาก็เพื่อ "เน้นการใช้งาน แรงบิดดีในรอบต่ำ ประหยัดเชื้อเพลิง" ทาง TOYOTA เรียกเครื่องสกุล F ว่าเป็น "High Efficiency Twin Cam Engine" ลักษณะโดยรวม ก็ยังคงเป็นฝาสูบแบบ "DOHC 4 Valve" อยู่นั่นเอง แต่มีการปรับปรุงลักษณะห้องเผาไหม้ใหม่ ให้เหมาะกับรอบต่ำและรอบกลาง โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ฝาสูบแบบ F รุ่นแรก ก็คือ "3S-F" เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1986 และยังใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน แต่พวกบล็อกอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีนามสกุล FE ตามออกมากันเกือบทุกรุ่นเหมือนกัน ถ้าจะพูดกันจริง ๆ ฝาสูบ F ก็เหมือนกับเป็นการ "ผสมผสาน" ระหว่าง "เครื่องแคมเดี่ยว" กับ "เครื่องแคมคู่" นั่นเอง เป็นการนำจุดดีระหว่างฝาสูบสองชนิดนี้มารวมกัน แต่จะอิงไปในทาง "ประหยัด" เป็นหลัก จากข้อมูลที่เอามาอ้างอิง ก็ได้บอกไว้ว่า เครื่องแบบ SOHC (Single Over Head Camshaft) จะมีข้อด้อยอยู่เหมือนกัน อันดับแรก จะต้องมี "กระเดื่องวาล์ว" ที่จะให้แคมเตะ เพื่อไปเปิด-ปิดวาล์วอีกทีนึง ก็จะทำให้มีชิ้นส่วนมาก แรงเฉื่อยเยอะ ตอนรอบสูง ๆ จะไม่ค่อยดีนัก อีกเรื่องก็คือ ห้องเผาไหม้จะเป็นแบบ "อสมมาตร" (Asymmetrical) หัวเทียนไม่อยู่ตรงกลางซะทีเดียว ทำให้การ Balance ในการจุดระเบิด สู้แบบหัวเทียนอยู่ตรงกลาง และห้องเผาไหม้แบบสมมาตรไม่ได้ |
![]() |
![]() |
The Following 19 Users Say Thank You to ttongtae For This Useful Post: | ball-08 (02-10-2009), bannawat (31-07-2011), CHAI-ENERGY-DEDE (14-09-2014), chpattana (02-06-2011), Dittapong (30-05-2013), E.TA. (12-04-2011), GENESIS1989 (07-04-2011), Jamisquatar (24-02-2013), membervip (26-02-2012), nom (11-10-2011), nueng5092 (16-11-2014), Redwater (03-08-2010), super41300 (12-07-2012), sutanon (04-11-2012), THE MASS (15-11-2010), TIGG@DAE (11-07-2014), WHEGA (14-11-2010), ชาติฉ. จรัสวงศ์ (08-11-2009) |
![]() |
#2 |
ClubJZ Old Full Member
|
TOYOTA ENGINE Line up ต่อ
พอเจอจุดอ่อนแบบนี้ ทาง TOYOTA ก็เลยออกแบบ "ระบบเปิด-ปิดวาล์วใหม่" โดยการเอาข้อดีของระบบ DOHC มาใช้ ซึ่งแคมทั้งสองแท่ง จะเปิด-ปิดวาล์วคนละฝั่ง แยกเอกเทศทั้งไอดี ไอเสีย ลูกเบี้ยวจะเตะไปบนวาล์วตรง ๆ หรือที่เรียกว่า "Direct Drive Valve Train" ก็จะทำให้ส่งกำลังได้เร็วกว่า ชิ้นส่วนน้อยลง ทำให้ "ลดภาระของเครื่องยนต์ในรอบสูง" ก็จะช่วยเรื่องเพิ่มแรงม้าได้ และการจุดระเบิดก็สมบูรณ์กว่า เนื่องจากหัวเทียนอยู่ตรงกลางพอดี และวาล์วก็วางได้เต็มพื้นที่ ก็ได้เรื่อง Flow ที่ดีเหมือนกัน...ไป ๆ มา ๆ ว่าจะไม่พูดถึงเรื่องฝาสูบแล้วนะ แต่ก็ต้องพูดซ้ำอีกครั้ง เพราะไม่งั้นคนที่ไม่เคยอ่านอาจจะ "เง็ง" ได้ ด้วยเหตุนี้เอง ทาง TOYOTA ก็เลยออกแบบฝาสูบแบบใหม่ จะทำยังไงได้ล่ะ ฝาสูบกว้างแบบเครื่องนามสกุล G ห้องเผาไหม้มันเป็นโดมครึ่งวงกลม วาล์วทั้งสองฝั่ง ทำมุมกัน "50 องศา" พวกนี้มัน "Flow ดี" แต่ในรอบต่ำที่อากาศไหลช้า มีจังหวะ Over lap เยอะหน่อย ไอดีที่เข้ามา มันก็ไหลตามไอเสียออกไปซะเยอะ ด้วยความที่มัน Flow ดี อีกเรื่องก็คือ ห้องเผาไหม้ที่กว้าง จะมี "หน้าสัมผัสระหว่างฝาสูบกับห้องเผาไหม้เยอะ" ตัวฝาสูบเอง ก็มี "น้ำ" มาระบายความร้อนอยู่มาก (มากที่สุดในทุกส่วนของเครื่องยนต์ เพราะเป็นส่วนที่รับแรงระเบิดเต็ม ๆ) เมื่อฝาสูบกว้าง เนื้อที่ในการระบายความร้อนก็เยอะ ดังนั้น ในช่วงรอบต่ำ ความร้อนน้อย เจอระบายความร้อนดีเกินไป ก็จะทำให้ "เย็นเกินไป" เป็นการสูญเสียพลังงาน อย่าลืมว่า "พลังงานเกิดจากความร้อน" นะครับ เพราะยังงี้นี่เอง ในช่วงรอบต่ำ จะมี "การสูญเสียพลังงาน" เกิดขึ้นเยอะ เลยทำให้ "ไม่ค่อยมีแรง" สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก แต่ในรอบสูง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็ว ต้องการ "ประจุอากาศมาก" ฝาสูบแบบนี้จะทำหน้าที่ได้ดี จาก Flow ที่เยอะของมันนั่นเอง เลยทำให้เครื่องสกุล G มีแรงม้าแรงบิดดีที่รอบสูง เหมาะกับ "รถสปอร์ต" ไงล่ะครับแต่เครื่องสกุล F จะออกแบบให้ตรงกันข้าม ห้องเผาไหม้จะเป็นทรง "แคบ" (หน้าจั่วแหลม) วาล์วจะทำมุม "ตั้ง" กว่าแบบ G คือทำมุมกันแค่ "22-25 องศา" เท่านั้น ฝาสูบแคบ ๆ ก็มีข้อดี "ตรงกันข้าม" กับฝาสูบแบบกว้าง แบบนี้จะ Flow ยากกว่า แต่มันก็จะดีตรงในรอบต่ำ "การสะสมความร้อน" จะดีกว่า วาล์วเล็ก พอร์ตแคบกว่า ก็จะ "ช่วยรีดอากาศ" ในรอบต่ำให้เร็วขึ้น เลยทำให้เครื่องมีแรงบิดดีในรอบต่ำ และรอบกลาง ๆ ส่วนรอบสูง ๆ การ Flow จะไม่ดีนัก แรงม้าก็จะไม่เยอะมาก แต่ไปได้เรื่องขับง่าย สบาย ประหยัดเชื้อเพลิง ก็เป็นทางของรถใช้งานทั่วไปนั่นเอง |
![]() |
![]() |
The Following 21 Users Say Thank You to ttongtae For This Useful Post: | CHAI-ENERGY-DEDE (14-09-2014), chpattana (02-06-2011), E.TA. (12-04-2011), GENESIS1989 (07-04-2011), halley (08-05-2011), Jamisquatar (24-02-2013), kim69 (08-09-2012), Kullasin Kiratisorn (16-04-2012), membervip (26-02-2012), nom (11-10-2011), nueng5092 (16-11-2014), pookza (10-01-2010), Singh (18-02-2012), somtao (19-09-2010), sukonnoy (23-04-2011), super41300 (12-07-2012), sutanon (04-11-2012), THE MASS (15-11-2010), TIGG@DAE (11-07-2014), WHEGA (14-11-2010), ชาติฉ. จรัสวงศ์ (08-11-2009) |
![]() |
#3 |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Mar 2008
Car Brand: W140/Vigo/Frontier
Engine Type: 1UZ fe vvt-i/1UZ fe/1JZ gte
ที่อยู่: www.jzengineservice.com/forum
กระทู้: 535
Thanks: 1
Thanked 19 Times in 8 Posts
คะแนน: 18
![]() |
ดีคับ แสดงว่าศึกษามาอย่างละเอียดแล้วคับ ขอบคุณสำหรับความรู้คับผม
![]() |
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Doraemon For This Useful Post: | Singh (22-04-2012) |
![]() |
#4 |
Member
วันที่สมัคร: May 2008
Car Brand: Isuzu D-Max Cab4
Engine Type: 1UZ FE Auto + LPG
ที่อยู่: Pattanee / Bangkok
กระทู้: 92
Thanks: 5
Thanked 4 Times in 6 Posts
คะแนน: 18
![]() |
สุดยอดมาก ขอบคุณครับ
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Pongthanit For This Useful Post: | WHEGA (14-11-2010) |
![]() |
#5 |
ClubJZ Old Full Member
|
ท่อร่วมมากับเครื่องเห็นแปลกดีเลยเก็บมาไว้เป็นข้อมู ล
|
![]() |
![]() |
The Following 13 Users Say Thank You to ttongtae For This Useful Post: | chpattana (02-06-2011), E.TA. (12-04-2011), gameboy (24-01-2013), GENESIS1989 (07-04-2011), halley (08-05-2011), Jamisquatar (24-02-2013), membervip (26-02-2012), nueng5092 (16-11-2014), phuketracing (13-01-2018), Singh (22-04-2012), somtao (09-06-2014), THE MASS (15-11-2010), WHEGA (14-11-2010) |
![]() |
#6 |
ClubJZ Old Full Member
|
แคตาลิติกต้องเป็นคู่แบบนี้นะ
|
![]() |
![]() |
The Following 11 Users Say Thank You to ttongtae For This Useful Post: | chpattana (02-06-2011), GENESIS1989 (07-04-2011), Jamisquatar (24-02-2013), membervip (26-02-2012), nueng5092 (16-11-2014), phuketracing (13-01-2018), Singh (22-04-2012), somtao (09-06-2014), sutanon (04-11-2012), THE MASS (15-11-2010), WHEGA (14-11-2010) |
![]() |
#7 |
ClubJZ Old Full Member
|
1UZFE ECC/ECU Wiring Diagram Part 1
1990 lexus LS400 |
![]() |
![]() |
The Following 10 Users Say Thank You to ttongtae For This Useful Post: | E.TA. (12-04-2011), GENESIS1989 (07-04-2011), Jamisquatar (24-02-2013), membervip (26-02-2012), nueng5092 (16-11-2014), Singh (22-04-2012), super41300 (12-07-2012), sutanon (04-11-2012), THE MASS (15-11-2010), WHEGA (14-11-2010) |
![]() |
#8 |
Junior Member
วันที่สมัคร: Mar 2009
Car Brand: Benz w124 300E
Engine Type: 1uz fe
ที่อยู่: nakonpathom
กระทู้: 11
Thanks: 0
Thanked 9 Times in 5 Posts
คะแนน: 0
![]() |
1uz ตัวที่280แรงม้านี่คือตัว vvti อย่างเดียวใช่ม่ะครับ
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to keaw3000cc For This Useful Post: | chpattana (02-06-2011) |
![]() |
#9 |
ClubJZ Old Full Member
|
ข้อมูลเท่าที่มีตอนนี้นะครับ
CROWN MAJESTA 1UZ-FE VVTI 5 SPEED AUTO DISPLACMENT: 4 LITERS POWER: 290HP TOURQE: 407Nm / 300ft lbf of torqueIn 1997, Toyota's VVT-i variable valve timing technology was introduced to the 1UZ-FE along with a further CR increase to 10.5:1 bumping power and torque to 216 kW (290 hp) and 407 N·m (300 ft·lbf). |
![]() |
![]() |
The Following 11 Users Say Thank You to ttongtae For This Useful Post: | chpattana (02-06-2011), dhol4982 (28-02-2012), E.TA. (12-04-2011), Jamisquatar (24-02-2013), membervip (26-02-2012), muudkung (22-01-2011), nueng5092 (16-11-2014), somtao (09-06-2014), super41300 (12-07-2012), WHEGA (14-11-2010), ชาติฉ. จรัสวงศ์ (08-11-2009) |
![]() |
|
|