ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.
|
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ! |
1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป 2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ 3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ |
ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
|
![]() |
#1 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
ถ้าคอยล์ร้อนแอร์ของคุณติดตั้งอยู่หน้ารถ (อยู่หลังกระจังหน้ารถ แต่อยู่หน้าหม้อน้ำ) ก็ควรติดตั้งพัดลมแบบเป่า ไว้หน้าคอยล์ร้อนนะครับ จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้น และมีส่วนช่วยการระบายความร้อนของหม้อน้ำดีขึ้นด้วยค รับ ผมสงสัย ข้อมูลที่คุณให้ผมมา อยู่ 3 ข้อครับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า อุณหภูมิน้ำมันเครื่องที่ได้นั้น สูงไปนิด ไม่ทราบว่า ที่บอกว่า น้ำมันเครื่องไม่พร่องนั้น เวลาเครื่องเย็นที่ก้นแคร้งมีปริมาณน้ำมันเครื่องเท่ าไหร่ครับ (ต่ำกว่า 5 ลิตรหรือเปล่าครับ) คนที่ติดตั้งเครื่องแคร้งหน้า แล้วใช้วิธีปาดแคร้ง ทำให้ปริมาณน้ำมันเครื่องน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จะเกิดปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องน้อยเกินไป อุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูงกว่าปกติ เพราะว่าการหมุนเวียนใช้งานของน้ำมันเครื่องจะถี่กว่ าปกติที่เขาไม่ได้ปาดแคร้งครับ และช่วงที่จำเป็นต้องใช้กำลังแรงบิดสูงๆ รอบเครื่องสูง หรือขึ้นเขาสูงชัน อาจจะมีปัญหาเครื่องน๊อคได้ครับ ซึ่งพอจะมีวิธีแก้ไข ก็คือ ติดตั้ง ออยคูลเลอร์เพิ่มขึ้นมา ทำให้มีปริมาณเนื้อที่ของน้ำมันเครื่องเพิ่มขึ้ น และออยคูลเลอร์ ยังเป็นตัวช่วยระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องด้ วย ทำให้ได้ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องครับ
__________________
JZM - 5
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 06-03-2009 เมื่อ 01:40. |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#2 |
ClubJZ Web Register
วันที่สมัคร: May 2008
กระทู้: 145
Thanks: 125
Thanked 54 Times in 28 Posts
คะแนน: 0
![]() |
Nissan Frontier + 1UZ + Variable Mixer
ผมสงสัยนิดนะครับ ถ้าหากว่า Thw รายงานว่าอุณหภูมิประมาณ 90 องศา แล้วโดยปกติแล้วอุณหภูมิน้ำมั้นเครื่องจะประมาณเท่าไ หร่ครับ ในกรณีเครื่องปกตินะครับคือแคร้งเดิมๆ ผมกำลังคิดว่า
ถ้าหากเราวัดอุณหภูมิที่ Thw ปกตินั่นแสดงว่าอุณหภูมิของน้ามันเครื่องย่อมปกติด้ว ยเช่นกันใช่หรือไม่ครับ |
![]() |
![]() |
![]() |
#3 | ||
Super Moderator
|
อ้างถึง:
อ้างถึง:
ในภาวะปกติ อุณหภูมิของน้ำในเครื่องและน้ำมันเครื่อง จะขึ้นลงตามๆกันไปครับ ดังนั้น ในรถทั่วๆไปในปัจจุบัน จึงไม่มีเกจ์วันอุณหภูมิน้ำมันเครื่องติดมาให้จากโรง งานครับ เพราะถือว่า ถ้าทุกอย่างเหมือนที่มาจากโรงงาน อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ ขึ้นลงตามอุณหภูมิของน้ำในเครื่องยนต์ครับ แต่เนื่องจาก มีกรณีพิเศษ เช่น รถออกจากโรงงาน เป็น รถกรณีพิเศษ (รถแข่ง รถหรูราคาแพง ใช้เครื่องยนต์ดีเป็นพิเศษ) โรงงานจึงจะติดตั้งมาให้ครับ หรือ ผู้ใช้รถ ต้องการดูแลเครื่องยนต์เป็นพิเศษ ก็จะติดตั้งเพิ่มเติมครับ แต่สำหรับผู้ใช้รถทั่วๆไป ถ้าเติมน้ำมันเครื่องคุณภาพดี ใส่ปริมาณที่ตามโรงงานกำหนด และใช้ขับรถแบบทั่วๆไป ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่องครับ ขอเพียงแค่ดูแลรักษา และระวังเรื่องระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ด้วยน้ำใ ห้ดีๆก็เพียงพอแล้วครับ
__________________
JZM - 5
|
||
![]() |
![]() |
![]() |
#4 |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Dec 2006
กระทู้: 453
Thanks: 35
Thanked 422 Times in 176 Posts
คะแนน: 19
![]() |
ปรกติ อุณหภูมิน้ำมันเครื่องกะแรงดันน้ำมันเครื่องควรจะอยู ่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ และก็ถ้าติดเกจจ์วัดสองตัวนี้ เซ็นเซอร์ควรฝังไว้ตรงไหนครับ
ขอบคุณครับ |
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Chili For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
#5 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
![]() อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องที่ใช้งานปกติ จะอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียส (212 องศาฟาเรนไฮท์) แต่ถ้าใช้ความเร็วรอบเครื่องสูง อาจจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันเครื่องสูงถึง 125 องศาเซลเซียส (257 องศาฟาเรนไฮท์) แต่พยายามอย่าให้ถึงจะดีกว่าครับ เพราะว่า จะทำให้ระบบหล่อลื่นหมดประสิทธิภาพในการหล่อลื่นที่ด ีไปครับ ระบบการระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องมี 2 แบบครับ คือ
แรงดันน้ำมันเครื่อง แรงดันน้ำมันเครื่อง ในรอบเครื่องเดินเบาปกติ จะอยู่ที่ 0.3 กก.ต่อตารางเซนติเมตร หรือ 4.3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และถ้าความเร็วรอบสูง อาจจะได้สูงถึง 36 - 71 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือ 2.5 - 5.0 กก.ต่อตารางเซนติเมตร เครื่องยนต์ทุกคัน จะมีเซนเซอร์วักแรงดันน้ำมันมาให้อยู่แล้วครับแต่ส่ว นใหญ่ที่หน้าปัดจะเป็นแบบ warning lamp (ไฟเตือนแรงดันต่ำ) ซึ่งถ้าแรงดันต่ำระดับ 0.2 กก.ต่อตารางเซนติเมตร หรือ 0.84 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะมีไฟเตือนครับ สังเกตุได้จากตอนที่หมุนสวิทช์กุญแจ on ไฟโชว์แรงดันน้ำมันเครื่องจะเตือน แต่เมื่อไหร่ที่สตาร์ทรถไปแล้วสักครู่ ไฟเตือนจะต้องดับ ตำแหน่งสวิทช์แรงดันน้ำมันเครื่องจะอยู่แถวๆ กรองน้ำมันเครื่องนั่นแหละครับ (ห่างออกมาจากกรองน้ำมันเครื่อง ด้านซ้ายหรือด้านขวา ก็จำไม่ได้ ลองดูเอาเองครับ) และถ้าต้องการจะติดตั้งเกจ์ตัววัดแรงดันน้ำมันเครื่อ ง (เป็นเข็มหรือตัวเลข ไปที่หน้าปัด) ก็ติดตั้งได้จากจุดนี้ครับ โดยทำอแดปเตอร์ต่อแยกออกมาครับ
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Moonlight For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
#6 | |
Member
วันที่สมัคร: Jul 2007
กระทู้: 31
Thanks: 0
Thanked 12 Times in 10 Posts
คะแนน: 0
![]() |
อ้างถึง:
*1. ผมติดเกจ์เพิ่มโดยฝังเซนเซอร์ ที่กรองน้ำมันเครื่องโดยใช้อะแดปเตอร์ *2. ผมฝังเซนเซอร์ ที่ท่อน้ำบน ที่ออกจากเครื่อง *3. ผมไม่ทราบอุณหภูมิน้ำในเครื่องครับ ช่วยบอกวิธีวัดหน่อยครับ(ทำไม่เป็น) (สมมุติ) เดิมเครื่องเป็นเครื่องแคร้งหลัง แต่ถ้าเกิดมีการสลับแคร้งโดยเอาแคร้งหน้ามาใส่แทนมัน จะมีผลบ้างรึเปล่าครับ |
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to toomiceman For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
#7 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
ผมจะตอบข้อ 3 และที่สมมุติมานะครับ เซนเซอร์ THW ที่ไว้วัดอุณหภูมิน้ำในเครื่องยนต์นั้น จะส่งสัญญาณไปที่กล่อง ECU เป็นกระแสไฟ ซึ่งจะแปลงออกมาเป็นตัวเลขได้ครับ วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ได้ค่อนข้างตรงมากทีเดียวครับ ซึ่งปัจจุบัน มีคนขายมาตรวัดเป็นตัวเลข โดยต่อสายออกมาจาก ECU ครับ หรือถ้าหาซื้อไม่ได้ และอยากได้ ก็ลองเข้าไปใน Forums Classified ดูกระทู้เกี่ยวกับ OBD ติดต่อซื้อกับคุณโต้งครับ เจ้าเครื่องนี้ จะบอกมาตรอะไรหลายๆอย่างครับ หาศึกษาอ่านในกระทู้นั้นเองครับ ที่คุณสมมุตมาเกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนแคร้งนั้น มีคนทำมากมายครับ เพราะว่าติดคานบ้าง ติดคันชักคันส่งบ้าง แต่ส่วนใหญ่ เครื่องเดิมจะเป็นแคร้งหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นแคร้งหลัง ครับ จึงต้องตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไร หรือไม่มีผลกระทบใดใดครับ การบรรจุปริมาณน้ำมันเครื่องจะต้องเท่าเดิมครับ เพียงแต่ว่า ตอนที่เปลี่ยนนั้น ต้องแก้ไขจุดวางฝักบัวที่ดูดน้ำมันเครื่อง ตำแหน่งท่อที่เสียบเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องก็จะเป ลี่ยนไป ก็เพียงแค่นั้นครับ (ถ้าเดิมเป็นแคร้งหลัง แล้วต้องการเปลี่ยนเป็นแคร้งหน้านั้น ตัวแคร้งหน้ามีเกลื่อนเมือง ไม่มีราคา หาง่ายครับ ส่วนถ้าจะหาแคร้งหลังสิครับ หายาก จึงมีการโก่งราคาให้สูงเข้าไว้ครับ บางคนไม่สู้ราคา จึงใช้วิธีปาดแคร้ง (ทุบ หรือปาดตัดต่อ) ซึ่งก็ทำได้ครับ แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำมันที่หดหายไป สมควรที่จะต้องทำส่วนต่อเพิ่มเนื้อที่อคร้งครับ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันเครื่องได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดครับ)
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
#8 |
ClubJZ Full Member 2556
วันที่สมัคร: May 2007
กระทู้: 34
Thanks: 15
Thanked 44 Times in 9 Posts
คะแนน: 0
![]() |
ขออณุญาติแทรกคร้บ
ลุงมูนครับมาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่องในรถกระบะรุ่นไ มตี้เอ็กซ์ มีวิธีดูอย่างไรครับ เช่นเวลาเดินเบาเข็มมาตรวัดควรจะอยู่ตำแหน่งไหน
ขอบคุณมากครับ ปล.ไม่แน่ใจกับคำว่า เกย์ หรือ เกจ์ กลัวใจจะเขว แล้วจะเป็นปัญหาให้ลุงมุนไหวหวั่นซะอีก ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#9 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
เกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องแบบขดลวดความร้อน (Thermostatic Oil Pressure Gauge) รถทั่วๆไปในปัจจุบัน จะตัดทอนส่วนนี้ออกไป เพื่อลดต้นทุน และ เนื่องจากว่า ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นความสำคัญของเกจ์นี้เท่าไ หร่ (สังเกตุจากตัวคุณเอง ยังไม่ทราบเลยว่า ดูอย่างไร ใจจะไม่เขว ![]() เกจ์วัดแบบนี้จะมีโลหะไบมิทัลติดตั้งโดยตรงเข้ากับเข ็มวัดที่หน้าปัด และมีขดลวดความร้อนเป็นชุดเซนเซอร์ติิดตั้งอยู่ที่เค รื่องยนต์ โดยหน้าทองขาวภายในเซนเซอร์ จะอยู่ตำแหน่งเปิด เมื่อไม่มีแรงดันน้ำมันเข้ามา กระแสไฟจากสวิทช์กุญแจ จะไม่สามารถไหลผ่านลงกราวน์ให้ครบวงจรได้ ขดลวดความร้อนที่พันอยู่กับโลหะไบมิทัล ที่เซนเซอร์แรงดันน้ำมันและที่เกจ์วัดจะไม่งอตัว เข็มที่เกจ์ก็จะอยู่ที่ต่ำสุดครับ (กรณีเปิดสวิทช์กุญแจที่ on แต่ยังไม่สตาร์ท) เมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ไปแล้ว น้ำมันเครื่องก็จะเกิดแรงดัน ยิ่งรอบเครื่องสูง แรงดันน้ำมันยิ่งแรง แรงดันนี้ จะไปดันไดอะแฟรมในเซนเซอร์ให้หน้าทองขาวสัมผัสกันกับ ขดลวดความร้อนที่พันทับอยู่บนโลหะไบมิทัล กระแสไฟก็จะไหลครบวงจร เข็มวัดที่หน้าปัดก็จะเลื่อนไปตามกระแสไฟที่ผ่านขดลว ดไบมิทัลที่เกจ์วัดแรงดัน ยิ่งแรงดันสูง กระแสยิ่งแรง ก็จะทำให้ ขดลวดไบมิทัลที่เกจ์งอมากขึ้น เข็มก็จะเลื่อนไปทางมาตรวัดที่สูงขึ้นครับ ระบบแบบนี้ สามารถบอกได้เพียงว่า แรงดันสูงขึ้น เข็มก็จะไปที่สูงขึ้น แรงดันต่ำลง เข็มก็ตกลงมาครับ มีประโยชน์สำหรับให้รับรู้ถึงแรงดันน้ำมันครับ ซึ่งปกติ รอบเครื่องสูง แรงดันจะต้องสุดเกจ์ ส่วนรอบเครื่องเดินเบา แรงดันจะตกมาระดับ กลางหรือ 1/4 ของเกจ์ครับ รู้เพียงหยาบๆแค่นี้เองครับ (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรู้มากไปทำไมให้ใจเขวครับ ![]() เมื่อไหร่ก็ตาม ถ้ารอบเครื่องสูงแล้ว เข็มไม่ได้ชี้ไปสุด ให้สงสัยไว้ก่อนว่า คุณภาพน้ำมันเครื่องเริ่มย่ำแย่แล้วครับ ความหนืดน้ำมันเครื่องลดลง หรือ ปริมาณน้ำมันเครื่องหดหายไม่เพียงพอตามเกณฑ์ที่กำหนด ครับ
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
#10 |
ClubJZ Old Full Member
|
ขอบคุณลุงมูน และ คุณ toomiceman ด้วยครับ
รถผม ติดตั้งเกจต่างๆ ตำแหน่งเหมือนของคุณเลย ความร้อนน้ำมันเครื่องก็ไล่ขึ้นตามความเร็ว เหมือนของคุณเหมือนกัน ความร้อนหม้อน้ำ ก็พอๆ กัน แต่ควาร้อนน้ำมันเครื่องของผม เครื่องร้อนแล้ว เดินเบาปกติทั่วไป 100 องศา ขับเรื่อยๆ ใช้งานในเมือง 110 องศา +- ความเร็ว 120 = 112 องศา ความเร็ว 140 = 118 องศา ความเร็ว 150 = 120-122 องศา ความเร็ว 160 ขึ้นไป จะขึ้นไปเรื่อยๆ ถึง 125 องศา นิ่งๆ อยู่สักพักครับ ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ของผมเป็น 1J-GE + LPG แคร้งหลัง (แบบเหล็กสร้างใหม่ เดิมน้ำมันเครื่อง 5.5 ลิตร) ค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย ขอบคุณมากๆ ครับ กำลังนึกอยู่พอดีเลย ว่าเห็นมีแต่คนพูดถึงเรื่องความร้อนหม้อน้ำ ทำไมไม่มีคนพูดถึงเรื่องความร้อนน้ำมันเครื่องบ ้าง ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
#11 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Moonlight For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
|
|