เรื่องความร้อนคับ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Chili

ลุงน้ามูนครับ

ผมวิ่งปรกติอยู่ที่ประมาณ 84 - 87 ลากยาวจะอยู่ที่ประมาณ 90 ไม่เกิน ฝังเซ็นเซอร์ตรงล่างสุดของหม้อน้ำครับ ประมาณนี้ถือว่าสูงหรือต่ำไปไหมครับ ขอบคุณครับ

ประมาณนี้ก็ดีแล้วครับ (แต่จะเรียกลุง/น้า ก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ )

กฏของเรื่องการระบายความร้อน ก็คือ ต้องควบคุมประสิทธิภาพของการระบายความร้อนได้ในช่วงว ิกฤตไว้ได้ครับ

ช่วงวิกฤต ของ การระบายความร้อนอยู่ช่วงไหน?

• ช่วงกลางวัน ที่มีการสะสมความร้อน เช่น รถติดจนต้องหยุดอยู่เฉยๆนานๆ ใช้แอร์มาก
• กดคันเร่งมาก รอบเครื่องขึ้นสูง เป็นเวลานาน ถึงแม้ว่า จะวิ่งเร็วก็ตาม โดยเฉพาะการเร่งเทอร์โบ
• ขึ้นเขาสูงชัน โดยไม่สามารถใช้ความเร็วได้ เช่น จราจรติดขัด ในระหว่างขึ้นเขา หรือมีเลี้ยวหักข้อศอกมากๆ
• ต้องวิ่งรถในเส้นทางขรุขระมากๆ โดยเฉพาะพวกที่ใช้ 4WD

พวกนี้คือ ช่วงวิกฤตของระบบระบายความร้อน ถ้าสามารถผ่านกฏนี้ได้ ก็จบเรื่องการระบายความร้อนครับ

[toomiceman]

ลุงมูล ครับ แล้วถ้าแรงดันน้ำมันเครื่องมันตก มันจะมีผลกับความร้อนขึ้นเวลาขับแช่ทางไกลบ้างรึเปล่ าครับ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ toomiceman

ลุงมูล ครับ แล้วถ้าแรงดันน้ำมันเครื่องมันตก มันจะมีผลกับความร้อนขึ้นเวลาขับแช่ทางไกลบ้างรึเปล่ าครับ

ถ้าคุณขับรถทางไกล ใช้รอบเครื่องสูงระดับหนึ่ง แรงดันน้ำมันเครื่องจะตกได้ไงครับ ยกเว้นแต่น้ำมันเครื่องพร่องหาย หรือ น้ำมันเครื่องหมดสภาพ หรือกรองน้ำมันเครื่องตันครับ

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อถามมา ก็ต้องขอตอบกลับครับ ว่า เป็นไปได้ครับ เพราะว่า น้ำมันเครื่องเป็นตัวแปรตัวหนึ่งด้วยครับ ที่ช่วยระบายความร้อนได้ระดับหนึ่งครับ

พอกล่าวถึงตัวแปรของการระบายความร้อน ทำให้ผมนึกไปถึงอีกตัวหนึ่ง ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่ที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น เพราะว่ามีเหตุผลอยู่ครับ
นั่นคือ ปั๊มน้ำ

ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงมันเลย เพราะว่า ตัวนี้ ถึงเป็นตัวแปรสำคัญก็จริง แต่ว่า เป็นตัวที่ สึกหรอยาก และอยู่ภายในเครื่อง ไม่เหมาะสมกับ ผู้ใช้รถทั่วๆไปอย่างเราๆ จะเข้าไปซ่อมแก้ไขครับ ต้องพึ่งช่างเท่านั้นครับ จึงไม่ได้กล่าวไว้เป็นประเด็นให้ตรวจสอบแก้ไขคร ับ

[toomiceman]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight

ถ้าคุณขับรถทางไกล ใช้รอบเครื่องสูงระดับหนึ่ง แรงดันน้ำมันเครื่องจะตกได้ไงครับ ยกเว้นแต่น้ำมันเครื่องพร่องหาย หรือ น้ำมันเครื่องหมดสภาพ หรือกรองน้ำมันเครื่องตันครับ

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อถามมา ก็ต้องขอตอบกลับครับ ว่า เป็นไปได้ครับ เพราะว่า น้ำมันเครื่องเป็นตัวแปรตัวหนึ่งด้วยครับ ที่ช่วยระบายความร้อนได้ระดับหนึ่งครับ

พอกล่าวถึงตัวแปรของการระบายความร้อน ทำให้ผมนึกไปถึงอีกตัวหนึ่ง ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่ที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น เพราะว่ามีเหตุผลอยู่ครับ
นั่นคือ ปั๊มน้ำ

ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงมันเลย เพราะว่า ตัวนี้ ถึงเป็นตัวแปรสำคัญก็จริง แต่ว่า เป็นตัวที่ สึกหรอยาก และอยู่ภายในเครื่อง ไม่เหมาะสมกับ ผู้ใช้รถทั่วๆไปอย่างเราๆ จะเข้าไปซ่อมแก้ไขครับ ต้องพึ่งช่างเท่านั้นครับ จึงไม่ได้กล่าวไว้เป็นประเด็นให้ตรวจสอบแก้ไขครับ

น้ำมันเครื่องผมใช้ FULL syn และไม่พร่อง แต่อาการของผม ขับในเมืองรถติดแดดร้อนยังไงความร้อนก็ไม่ขยับเลยอยู ่ 90 ความร้อนน้ำมันเครื่อง 95 แต่ถ้าขับเกิน 120 ความร้อนหม้อน้ำ 92 แต่ความร้อนน้ำมันเครื่อง 110-120+ มันหลอนอะครับ ทุกวันนี้ขับไม่เกิน120 เลย ข้อมูลเพิ่มเติมผมใช้รถวีโก้ หม้อน้ำเดิม พัดลมดูด 12นิ้ว 2ตัว พัดลมแอร์ไม่มีแต่แอร์เย็นปรกติ หม้อน้ำผมคิดว่าไม่น่าจะตัน เพราะผมใช้มา27000โลแล้วก็วางเครื่อง ในคลับนี้ก็มีวีโก้ หม้อน้ำเดิมกันเยอะ ความร้อนก็ปรกติกันดี ซัดได้แช่ได้ ผมก็เลยมาสงสัยเรื่องแรงดันน้ำมันเครื่อง เพราะปัญหามันมาอยู่ที่ความร้อนน้ำมันเครื่องมันขยับ เร็วกว่าความร้อนน้ำหม้อน้ำ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ toomiceman

น้ำมันเครื่องผมใช้ FULL syn และไม่พร่อง แต่อาการของผม ขับในเมืองรถติดแดดร้อนยังไงความร้อนก็ไม่ขยับเลยอยู ่ 90 ความร้อนน้ำมันเครื่อง 95 แต่ถ้าขับเกิน 120 ความร้อนหม้อน้ำ 92 แต่ความร้อนน้ำมันเครื่อง 110-120+ มันหลอนอะครับ ทุกวันนี้ขับไม่เกิน120 เลย ข้อมูลเพิ่มเติมผมใช้รถวีโก้ หม้อน้ำเดิม พัดลมดูด 12นิ้ว 2ตัว พัดลมแอร์ไม่มีแต่แอร์เย็นปรกติ หม้อน้ำผมคิดว่าไม่น่าจะตัน เพราะผมใช้มา27000โลแล้วก็วางเครื่อง ในคลับนี้ก็มีวีโก้ หม้อน้ำเดิมกันเยอะ ความร้อนก็ปรกติกันดี ซัดได้แช่ได้ ผมก็เลยมาสงสัยเรื่องแรงดันน้ำมันเครื่อง เพราะปัญหามันมาอยู่ที่ความร้อนน้ำมันเครื่องมันขยับ เร็วกว่าความร้อนน้ำหม้อน้ำ

ความร้อนของน้ำมันเครื่อง 110 - 120 องศา เป็นความร้อนสูงน้ำมันเครื่องที่ยังพอรับได้ครั บ ถ้ากลัวว่า น้ำมันเครื่องจะร้อนเกินไป ก็ติดตั้ง ออยคูลเลอร์ สำหรับน้ำมันเครื่องได้ครับ (จริงๆแล้ว น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ทนความร้อนได้สูงกว่านั้นนิดหน่อยครับ ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 130 องศาเซลเซียส) การติดตั้งออยคูลเลอร์ให้กับน้ำมันเครื่อง มีแต่ดีกับเสมอตัวครับ ข้อเสียก็คือ เสียเงิน ครับ

ถ้าคอยล์ร้อนแอร์ของคุณติดตั้งอยู่หน้ารถ (อยู่หลังกระจังหน้ารถ แต่อยู่หน้าหม้อน้ำ) ก็ควรติดตั้งพัดลมแบบเป่า ไว้หน้าคอยล์ร้อนนะครับ จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้น และมีส่วนช่วยการระบายความร้อนของหม้อน้ำดีขึ้นด้วยค รับ

ผมสงสัย ข้อมูลที่คุณให้ผมมา อยู่ 3 ข้อครับ

1. อุณหภูมิน้ำมันเครื่องนั้น ปกติของรถทั่วๆไป จะไม่ได้ติดเกจ์วัดเอาไว้ คุณติดตั้งเพิ่มใช่มั้ยครับ แล้วติดตั้งเทอร์โมเอาไว้ที่ไหนของตัวเครื่องคร ับ
2. คุณบอกผมแต่เฉพาะอุณหภูมิหม้อน้ำ ที่วัดออกมาได้ 90 องศา วิ่ง 120 กม./ชม.ได้ 92 องศา ครับ แล้วคุณติดตั้งเซนเซอร์วัดอุณหภูมิไว้ส่วนไหนของหม้อ น้ำครับ
3. คุณสามารถบอกอุณหภูมิของน้ำในหม้อน้ำให้ผมได้ แล้วคุณทราบอุณหภูมิของน้ำในเครื่องยนต์ หรือเปล่าครับ (ค่าความร้อนของ THW)

ที่ผมถามนั้น เพราะว่าผมสงสัยบางประการครับ ถ้าอุณหภูมิความร้อนของน้ำในหม้อน้ำ คุณวัดได้เท่าที่บอกผมนั้น ถ้าคุณติดตั้งไว้ด้านล่างหม้อน้ำ มันสูงไปหน่อยนะครับ แต่ถ้าติดตั้งไว้ด้านบน ก็ถือว่า OK ครับ

อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า อุณหภูมิน้ำมันเครื่องที่ได้นั้น สูงไปนิด ไม่ทราบว่า ที่บอกว่า น้ำมันเครื่องไม่พร่องนั้น เวลาเครื่องเย็นที่ก้นแคร้งมีปริมาณน้ำมันเครื่องเท่ าไหร่ครับ (ต่ำกว่า 5 ลิตรหรือเปล่าครับ)

คนที่ติดตั้งเครื่องแคร้งหน้า แล้วใช้วิธีปาดแคร้ง ทำให้ปริมาณน้ำมันเครื่องน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จะเกิดปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องน้อยเกินไป อุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูงกว่าปกติ เพราะว่าการหมุนเวียนใช้งานของน้ำมันเครื่องจะถี่กว่ าปกติที่เขาไม่ได้ปาดแคร้งครับ และช่วงที่จำเป็นต้องใช้กำลังแรงบิดสูงๆ รอบเครื่องสูง หรือขึ้นเขาสูงชัน อาจจะมีปัญหาเครื่องน๊อคได้ครับ ซึ่งพอจะมีวิธีแก้ไข ก็คือ ติดตั้ง ออยคูลเลอร์เพิ่มขึ้นมา ทำให้มีปริมาณเนื้อที่ของน้ำมันเครื่องเพิ่มขึ้ น และออยคูลเลอร์ ยังเป็นตัวช่วยระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องด้ วย ทำให้ได้ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องครับ

[tantan]

ผมสงสัยนิดนะครับ ถ้าหากว่า Thw รายงานว่าอุณหภูมิประมาณ 90 องศา แล้วโดยปกติแล้วอุณหภูมิน้ำมั้นเครื่องจะประมาณเท่าไ หร่ครับ ในกรณีเครื่องปกตินะครับคือแคร้งเดิมๆ ผมกำลังคิดว่า

ถ้าหากเราวัดอุณหภูมิที่ Thw ปกตินั่นแสดงว่าอุณหภูมิของน้ามันเครื่องย่อมปกติด้ว ยเช่นกันใช่หรือไม่ครับ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ tantan

ผมสงสัยนิดนะครับ ถ้าหากว่า Thw รายงานว่าอุณหภูมิประมาณ 90 องศา แล้วโดยปกติแล้วอุณหภูมิน้ำมั้นเครื่องจะประมาณเท่าไ หร่ครับ ในกรณีเครื่องปกตินะครับคือแคร้งเดิมๆ ผมกำลังคิดว่า

ถ้าหากเราวัดอุณหภูมิที่ Thw ปกตินั่นแสดงว่าอุณหภูมิของน้ามันเครื่องย่อมปกติด้ว ยเช่นกันใช่หรือไม่ครับ

โดยปกติแล้ว อุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูงกว่า อุณหภูมิน้ำระบายความร้อนในเครื่องหน่อยนึงครับ (จำตัวเลขส่วนต่างไม่ได้ครับ) เพราะว่า ตัวน้ำมันเองทนสภาพความร้อนได้สูงกว่าน้ำ (กว่าโมเลกุลจะขาดกลายเป็นไอ) และจากสภาพการวนไปเข้าคูลเลอร์ แล้วไปผสมกับน้ำมันเครื่องที่รอการถูกดูดไปใช้ในแคร้ งน้ำมัน (น้ำมันเครื่องก็มีคูลเลอร์ตัวเล็กๆ เช่นกันครับ แต่ที่บอกให้ต่อคูลเลอร์ที่ Reply ที่แล้ว นั่นคือ คูลเลอร์แยกต่างหากนะครับ) และอีกประเด็นก็คือว่า เครื่องยนต์มีน้ำเป็นตัวระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ จึงทำให้เกิดการควบคุมอุณหภูมิอยู่แล้ว ดังนั้น น้ำมันเครื่องจึงมีโอกาสน้อยมากที่จะอุณหภูมิสูงกว่า อุณหภูมิของน้ำในเครื่องมากนักครับ

ผมกำลังคิดว่า

ถ้าหากเราวัดอุณหภูมิที่ Thw ปกตินั่นแสดงว่าอุณหภูมิของน้ามันเครื่องย่อมปกติด้ว ยเช่นกันใช่หรือไม่ครับ

คุณคิดถูกแล้วครับ แต่ประเด็นเงื่อนไข มันต้องอยู่ที่ ปริมาณน้ำมันเครื่องต้องได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดนะครับ ถ้ามันน้อยเกินไป น้ำมันเครื่องก็จะถูกใช้งานวนรอบเครื่องมากขึ้น มันก็จะระบายความร้อนไม่ทัน และยังมีผลข้างเคียงทำให้เครื่องตัวร้อนเพิ่มขึ้นได้ ด้วยครับ

ในภาวะปกติ อุณหภูมิของน้ำในเครื่องและน้ำมันเครื่อง จะขึ้นลงตามๆกันไปครับ ดังนั้น ในรถทั่วๆไปในปัจจุบัน จึงไม่มีเกจ์วันอุณหภูมิน้ำมันเครื่องติดมาให้จากโรง งานครับ เพราะถือว่า ถ้าทุกอย่างเหมือนที่มาจากโรงงาน อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ ขึ้นลงตามอุณหภูมิของน้ำในเครื่องยนต์ครับ

แต่เนื่องจาก มีกรณีพิเศษ เช่น รถออกจากโรงงาน เป็น รถกรณีพิเศษ (รถแข่ง รถหรูราคาแพง ใช้เครื่องยนต์ดีเป็นพิเศษ) โรงงานจึงจะติดตั้งมาให้ครับ หรือ ผู้ใช้รถ ต้องการดูแลเครื่องยนต์เป็นพิเศษ ก็จะติดตั้งเพิ่มเติมครับ แต่สำหรับผู้ใช้รถทั่วๆไป ถ้าเติมน้ำมันเครื่องคุณภาพดี ใส่ปริมาณที่ตามโรงงานกำหนด และใช้ขับรถแบบทั่วๆไป ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่องครับ ขอเพียงแค่ดูแลรักษา และระวังเรื่องระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ด้วยน้ำใ ห้ดีๆก็เพียงพอแล้วครับ

[toomiceman]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight

ความร้อนของน้ำมันเครื่อง 110 - 120 องศา เป็นความร้อนสูงน้ำมันเครื่องที่ยังพอรับได้ครับ ถ้ากลัวว่า น้ำมันเครื่องจะร้อนเกินไป ก็ติดตั้ง ออยคูลเลอร์ สำหรับน้ำมันเครื่องได้ครับ (จริงๆแล้ว น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ทนความร้อนได้สูงกว่านั้นนิดหน่อยครับ ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 130 องศาเซลเซียส) การติดตั้งออยคูลเลอร์ให้กับน้ำมันเครื่อง มีแต่ดีกับเสมอตัวครับ ข้อเสียก็คือ เสียเงิน ครับ

ถ้าคอยล์ร้อนแอร์ของคุณติดตั้งอยู่หน้ารถ (อยู่หลังกระจังหน้ารถ แต่อยู่หน้าหม้อน้ำ) ก็ควรติดตั้งพัดลมแบบเป่า ไว้หน้าคอยล์ร้อนนะครับ จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้น และมีส่วนช่วยการระบายความร้อนของหม้อน้ำดีขึ้นด้วยค รับ

ผมสงสัย ข้อมูลที่คุณให้ผมมา อยู่ 3 ข้อครับ

1. อุณหภูมิน้ำมันเครื่องนั้น ปกติของรถทั่วๆไป จะไม่ได้ติดเกจ์วัดเอาไว้ คุณติดตั้งเพิ่มใช่มั้ยครับ แล้วติดตั้งเทอร์โมเอาไว้ที่ไหนของตัวเครื่องครับ
2. คุณบอกผมแต่เฉพาะอุณหภูมิหม้อน้ำ ที่วัดออกมาได้ 90 องศา วิ่ง 120 กม./ชม.ได้ 92 องศา ครับ แล้วคุณติดตั้งเซนเซอร์วัดอุณหภูมิไว้ส่วนไหนของหม้อ น้ำครับ
3. คุณสามารถบอกอุณหภูมิของน้ำในหม้อน้ำให้ผมได้ แล้วคุณทราบอุณหภูมิของน้ำในเครื่องยนต์ หรือเปล่าครับ (ค่าความร้อนของ THW)

ที่ผมถามนั้น เพราะว่าผมสงสัยบางประการครับ ถ้าอุณหภูมิความร้อนของน้ำในหม้อน้ำ คุณวัดได้เท่าที่บอกผมนั้น ถ้าคุณติดตั้งไว้ด้านล่างหม้อน้ำ มันสูงไปหน่อยนะครับ แต่ถ้าติดตั้งไว้ด้านบน ก็ถือว่า OK ครับ

อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า อุณหภูมิน้ำมันเครื่องที่ได้นั้น สูงไปนิด ไม่ทราบว่า ที่บอกว่า น้ำมันเครื่องไม่พร่องนั้น เวลาเครื่องเย็นที่ก้นแคร้งมีปริมาณน้ำมันเครื่องเท่ าไหร่ครับ (ต่ำกว่า 5 ลิตรหรือเปล่าครับ)

คนที่ติดตั้งเครื่องแคร้งหน้า แล้วใช้วิธีปาดแคร้ง ทำให้ปริมาณน้ำมันเครื่องน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จะเกิดปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องน้อยเกินไป อุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูงกว่าปกติ เพราะว่าการหมุนเวียนใช้งานของน้ำมันเครื่องจะถี่กว่ าปกติที่เขาไม่ได้ปาดแคร้งครับ และช่วงที่จำเป็นต้องใช้กำลังแรงบิดสูงๆ รอบเครื่องสูง หรือขึ้นเขาสูงชัน อาจจะมีปัญหาเครื่องน๊อคได้ครับ ซึ่งพอจะมีวิธีแก้ไข ก็คือ ติดตั้ง ออยคูลเลอร์เพิ่มขึ้นมา ทำให้มีปริมาณเนื้อที่ของน้ำมันเครื่องเพิ่มขึ้น และออยคูลเลอร์ ยังเป็นตัวช่วยระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องด้วย ทำให้ได้ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องครับ

ตอบ
*1. ผมติดเกจ์เพิ่มโดยฝังเซนเซอร์ ที่กรองน้ำมันเครื่องโดยใช้อะแดปเตอร์
*2. ผมฝังเซนเซอร์ ที่ท่อน้ำบน ที่ออกจากเครื่อง
*3. ผมไม่ทราบอุณหภูมิน้ำในเครื่องครับ ช่วยบอกวิธีวัดหน่อยครับ(ทำไม่เป็น)
(สมมุติ) เดิมเครื่องเป็นเครื่องแคร้งหลัง แต่ถ้าเกิดมีการสลับแคร้งโดยเอาแคร้งหน้ามาใส่แทนมัน จะมีผลบ้างรึเปล่าครับ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ toomiceman

ตอบ
*1. ผมติดเกจ์เพิ่มโดยฝังเซนเซอร์ ที่กรองน้ำมันเครื่องโดยใช้อะแดปเตอร์
*2. ผมฝังเซนเซอร์ ที่ท่อน้ำบน ที่ออกจากเครื่อง
*3. ผมไม่ทราบอุณหภูมิน้ำในเครื่องครับ ช่วยบอกวิธีวัดหน่อยครับ(ทำไม่เป็น)
(สมมุติ) เดิมเครื่องเป็นเครื่องแคร้งหลัง แต่ถ้าเกิดมีการสลับแคร้งโดยเอาแคร้งหน้ามาใส่แทนมัน จะมีผลบ้างรึเปล่าครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ซึ่งคำตอบของคุณนั้น ผมก็ได้ตอบในสมมุติฐาน (คาดเดา) ของผมไว้ในคำตอบของคุณที่แล้ว น่าจะทำให้คุณสบายใจได้ว่า ระบบระบายความร้อนของคุณปกตินะครับ

ผมจะตอบข้อ 3 และที่สมมุติมานะครับ

เซนเซอร์ THW ที่ไว้วัดอุณหภูมิน้ำในเครื่องยนต์นั้น จะส่งสัญญาณไปที่กล่อง ECU เป็นกระแสไฟ ซึ่งจะแปลงออกมาเป็นตัวเลขได้ครับ วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ได้ค่อนข้างตรงมากทีเดียวครับ ซึ่งปัจจุบัน มีคนขายมาตรวัดเป็นตัวเลข โดยต่อสายออกมาจาก ECU ครับ หรือถ้าหาซื้อไม่ได้ และอยากได้ ก็ลองเข้าไปใน Forums Classified ดูกระทู้เกี่ยวกับ OBD ติดต่อซื้อกับคุณโต้งครับ เจ้าเครื่องนี้ จะบอกมาตรอะไรหลายๆอย่างครับ หาศึกษาอ่านในกระทู้นั้นเองครับ

ที่คุณสมมุตมาเกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนแคร้งนั้น มีคนทำมากมายครับ เพราะว่าติดคานบ้าง ติดคันชักคันส่งบ้าง แต่ส่วนใหญ่ เครื่องเดิมจะเป็นแคร้งหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นแคร้งหลัง ครับ จึงต้องตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไร หรือไม่มีผลกระทบใดใดครับ การบรรจุปริมาณน้ำมันเครื่องจะต้องเท่าเดิมครับ เพียงแต่ว่า ตอนที่เปลี่ยนนั้น ต้องแก้ไขจุดวางฝักบัวที่ดูดน้ำมันเครื่อง ตำแหน่งท่อที่เสียบเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องก็จะเป ลี่ยนไป ก็เพียงแค่นั้นครับ (ถ้าเดิมเป็นแคร้งหลัง แล้วต้องการเปลี่ยนเป็นแคร้งหน้านั้น ตัวแคร้งหน้ามีเกลื่อนเมือง ไม่มีราคา หาง่ายครับ ส่วนถ้าจะหาแคร้งหลังสิครับ หายาก จึงมีการโก่งราคาให้สูงเข้าไว้ครับ บางคนไม่สู้ราคา จึงใช้วิธีปาดแคร้ง (ทุบ หรือปาดตัดต่อ) ซึ่งก็ทำได้ครับ แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำมันที่หดหายไป สมควรที่จะต้องทำส่วนต่อเพิ่มเนื้อที่อคร้งครับ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันเครื่องได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดครับ)