ClubJZ Forums

ClubJZ Forums (http://www.ClubJZ.net/index.php)
-   ClubUZ ! Talk (http://www.ClubJZ.net/forumdisplay.php?f=13)
-   -   มาช่วยกันรวบรวมข้อมูลเครื่อง Uz กันดีกว่า (http://www.ClubJZ.net/showthread.php?t=32936)

ttongtae 17-05-2009 18:18

1 ไฟล์แนบ
อ่ะ 1uz มาแว้ว

ttongtae 17-05-2009 18:27

1 ไฟล์แนบ
หลังจากแท่นเครื่องเสร็จก้อมะด้ายจับมันเรย

ttongtae 17-05-2009 18:29

1 ไฟล์แนบ
This Now เริ่มขยับแระ

ttongtae 20-05-2009 12:49

2 ไฟล์แนบ
กะลังล็อกจิ๊กคานหน้าไว้ครับ รุมกันใหญ่เรย

ttongtae 24-05-2009 14:51

1 ไฟล์แนบ
วันนี้คั่นรายการด้วยการนำเอามิติเครื่องมาฝาก เริ่มจากด้านหน้าก่อน

ttongtae 24-05-2009 14:54

1 ไฟล์แนบ
แล้วต่อด้วยด้านข้าง รูปภาพจากเวป BenzOwner ขอบคุณครับ

ttongtae 26-05-2009 21:13

1 ไฟล์แนบ
จับเกียร์ชนเครื่องยกเข้าเลย แปลงขาแท่นเครื่อง ใหม่เอายางแท่นเครื่องของ vx80 ใหญ่กว่าเยอะเลย

ttongtae 26-05-2009 21:17

2 ไฟล์แนบ
ยางหน้ากว้าง 19.5 ขอบ15 ออฟเซ็ตลึกได้ใจ มาแว๊วค้าบ bogger 44inch

Godzela 26-05-2009 21:19

ว้าว น่าสนใจมากเลยครับ โปรเจ็คนี้ :smile:

ICE-VIGO 27-05-2009 08:19

สุดๆ ไปเลย คับ พี่ ..:biggrin:

ttongtae 27-05-2009 21:24

1 ไฟล์แนบ
มาอีกรูป

ttongtae 27-05-2009 21:26

1 ไฟล์แนบ
เอาให้ได้ยั้งงี้นะช่างเต่าแหล่มๆ

ttongtae 30-05-2009 22:21

1 ไฟล์แนบ
ข้อมูลนี้น่าสนใจเลยคัดลอกมาให้อ่านเป็นความรู้กันคร ับ

ก่อนที่จะตัดสินใจวางเครื่อง เมื่อถึงตอนนี้คงยังไม่สายหากจะเปลี่ยนใจ เครื่องเก่ายังไม่ได้ขายไป เครื่องใหม่ยังไม่ได้ลงวาง ลองมาศึกษาเรื่องค่าอาหลั่ยของเครื่องรหัสนี้กันดูก่ อนและชั่งใจดูนะครับ

1. ยางแท่นเครื่อง สามารถใช้ของเครื่อง 1J 2J มือสอง ลูกสวยๆลูกละ 500-700 เดินถามหาได้ตามร้านขายเครื่อง J ทุกเชียงกง

2. กรองน้ำมันเครื่อง ใช้กรองเครื่องของ Vigo ยี่ห้อ DENSO ของเทียบราคา 70 บาท ของแท้ 250-270 บาทหาซื้อได้ตามรานอะไหล่ทั่วไป

3. วาล์วน้ำฝาสูบ สตาร์ด้า 2800 K67 รหัส ME191593 ตัวละ750 บาท หาซื้ได้ตามรานอะไหล่ทั่วไป (เปิดน้ำที่อุณหภูมิ 76 องศา ซึ่งดีกว่าของเดิมที่เปิดที่ 82 องศา)

4. สายพานหน้าเครื่องยี่ห้อ Mitsuboshi (6PK2365) ราคา 1020 บาท เซียงกงปทุมวัน ซอยจุฬา30 ร้านนี้ตัวแทนใหญ่ของ Mitsuboshi มีความยาวสายพานทุกเบอร์ ขึ้นอยู่กับตอนแปลงตำแหน่งไดชาร์ท หรือใช้ยี่ห้ออื่นๆก็ได้ ความยาวสายพานจะยาวพอๆกับ Benz W124 ร้านขายอะไหล่รถยุโรปก็น่าจะมีพวก Gater Contitech

5. สายพาน Timing ของเดิมจะเป็นยี่ห้อ KKK ถ้าเอาชัวร์ก็ต้องเบิก Store TOYOTA ใหญ่ที่บางนาโดยสั่งผ่านร้านอะไหล่ เดี๋ยวเขาโทรสั่งให้เอง หรือไม่ก็ถอดไปเทียบ ร้านที่ซอยจุฬา 30 มีแน่นอน เส้นนึงตก 2000-3000 บาท

6. ลูกรอกสายพาน Timing เบิก Store หรือเทียบเอาได้

7. ปะเก็นชุดใหญ่ เบิก Store หรือที่วรจักร (เฉพาะปะเก็นฝาสูบซ้าย 3000 กว่าบาท ปะเก็นฝาสูบขวา 2000 กว่าบาท**ราคาแยกซื้อ)

8. ใบพัดปั๊มน้ำ(เฉพาะใบ ใช้เสื้อเดิม)ใช้ของ 4เจบี ได้เลยครับ ปั่นน้ำได้ดีกว่าเดิม น้ำพุ่งทะลัก สนนราคาหลักร้อย

9. ไดชาร์จ ใช้ของ1 - 2 เจ ได้ เทียบแอมป์ได้ครับ ราคาเบาๆ

10. ปะเก็นเครื่อง ทั้งชุด (ชุดใหญ่ ราคา 12000 บาท)เบิงห้าง หรือ ร้านอาหลั่ยวรจักร ราคาไกล้เคียงกัน

11. ชุดหม้อน้ำ พัดลมไฮดรอลิกส์ หรืออื่นๆ หากต้องการใช้ สนนราคาที่ ชิ้นละพันกว่าบาท

12. ราคาเครื่องยนตร์ ทั้งเครื่อง+เกียร์ +กล่อง+อื่นๆ (ไม่มีเลข) กรณีต้องการเปลี่ยนอาหลั่ยชิ้นใหญ่ๆ เช่น ฝา เสื้อ วาล์ว ลูก หรือเกียร์พังเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก หรืออื่นๆ สนนราคาเชียงกง อยู่ที่ 15000-18000 (ต่อรองได้ตามความสามารถ)



ทั้งหมดนี้เป็นราคาที่สืบจากร้านขายอาหลั่ยมือสอง เป็นราคาหน้าร้านที่บอกขายโดยทั่วไป การต่อรองราคา ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล

ttongtae 09-06-2009 22:03

1 ไฟล์แนบ
Project 126 กิน 1UZ เริ่มแล้วครับบบ คัดลอกมาจากเว็บ sklasseclub ไม่ใช่รถผมนะครับ

เริ่มเล่าด้วยภาพกันเลย เริ่มด้วยถอดออกก่อนครับ

ttongtae 09-06-2009 22:05

1 ไฟล์แนบ
ถอดแล้วเป็นแบบนี้ นี่เอง

ttongtae 09-06-2009 22:06

1 ไฟล์แนบ
ไปดูเครื่องเดิมกันหน่อย นี่เครืองเบนซ์นะ

ttongtae 09-06-2009 22:08

ราคาเครื่องรวมเกียร์เรียบร้อย บวกอุปกรณ์ครบ ราคา 23,000 บาท
เครื่องมี 3 ตัว ฝาขาว ปลั๊กบาง ฝาขาว ปลั๊กหนา แล้วก็อเป็นตัวฝาดำ
รหัสเครื่องของผมเป็นรหัส 0411 ไม่แน่ใจว่าอยู่ในบอดี้ตัวไหน แต่ปัญหาแรกที่เจอคือ ต้องไปสับเขา เป็นเขาแคบ
เพราะว่าเฮดเดอร์มี 3 รุ่น เขาแคบ กับเขาอ้วน ถ้าเปลื่ยนใส่เขาแคบก้อเเปลงน้อยหน่อยคับ
รายละเอียดอื่นๆเดี๋ยวเอาไว้รอไวล์ลิ่งสายไฟเสร็จก่อ นคั

ttongtae 11-06-2009 21:04

2 ไฟล์แนบ
เอาเครืองหย่อนลงไปเลย

ttongtae 11-06-2009 21:09

เบื่องต้นยังไม่พบปัญหามีก็แต่
เรื่องท่อที่ติดนิดหน่อยกำลังดูอยู่ว่าจะปรับยังไงดี ส่วนเรื่องอื่นยังไม่มีไรน่าห่วง เท่าที่ดูเรื่องงบไม่น่าบานกว่าที่บอกไว้จะห่วงก็เรื ่อง เฟืองท้าย ไม่แน่ใจว่าของติดรถ 126 500sel เดิมเบอร์อะไร เพราะถ้าแมทกับ Uz น่าจะ 3.9 /4.1 / 4.3 น่าห่วงเรื่องน้แหละครับ

สงสัยคงต้องแปลง 4.1 ใส่ละครับเท่าที่ถามมันลงตัวที่สุด ฦ ว่าแต่ว่าใครมี 3.9 ของ300d ขายก็น่าสนใจครับ ถามผู้รู้นิดครับว่าถ้าใส่เป็น 3.69 จะ Ok ป่าวครับจะได้ไม่ต้องแปลงครับ

แท่นเกียร์+แท่นเครื่องห่างจากของเดิมเล็กน้อย ซึ่งยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว รับได้
แค็งหน้าเว้ารับกับคานพอดี+แค็งเกียร์ที่หลบคานพอดีอ ีกต่างหาก
อุโมงเกียร์เหลือเฟือ พอยกฮ้อยดูใต้ท้องเหมือนกับเป็นเครื่องตรงรุ่นว่าอย่ างนั้นได้เลย (อย่าเชื่อนะต้องดูเอง)
ตอนนี้รอท่อพร้อมติดเครื่อง และรูปแบบของท่อจะเอามาให้ดูที่หลังนะครับ

กิติพัฒน์ พรรณประสาทน์ 11-06-2009 21:10

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ttongtae (338567 กระทู้)
เอาเครืองหย่อนลงไปเลย

ทำไหมรุ่นแรงจังเลยคานบนดูไม่ได้เลยหรือว่าเป็นมาแบบ นั้นครับ:frown:

ttongtae 12-06-2009 21:33

1 ไฟล์แนบ
พรุ่งนี้จะเอาไปทำท่อไอเสีย กับแอร์แล้วอะครับ ซักสองวันน่าจะลงพื้นสะทีครับ
แล้วจะรีบอัพเดชต่อเรื่อยๆๆครับ

เสร็จแล้วขอชม และ ขอให้ทีมงานไปถ่ายรูปนะครับ

ได้เลยครับบบบ ล่าสุดพอใส่ท่อแบบรุ่นแคบติดแค่ฝั่งเดียวตรงกระปุกแค ่นั้นเองครับ
แต่ตอนนี้มีปัญหาว่าตอนรองเครื่องก่อนใส่ท่อ สตาทรเครื่องแล้วติดแล้วก็ดับมีควันขาวนิดหน่อย
ไม่แน่ใจว่าซีนนำมันรั่วหรือป่าว งง สงสัยต้องรอจนใส่ท่อเสร็จแล้วค่อยลุ้นทีเดียว

ใส่ท่อไอเสียเสร็จเรียบร้อยครับ
ไม่ต้องแปลงมากอย่างที่คิดครับ แนะนำคือต้องเป็นรุ่นท่อแคบเท่านั้นจะติดฝั่งเดียวด้ านกระปุก
แก้โดยปกติทางลงของท่อจะรวมกันที่สูบ 3 แล้วม้วนลงด้านล่าง แต่ของเราจะต้องรวมกันที่สูบ 2 แล้วจึงมุดลงก็
จะทำให้หลบกระปุกได้ครับ
พอติดเครื่องเดินเรียบมากกกๆๆๆๆเลยครับ เครืองนิ่งดี แต่ได้ประมาณ 15 นาทีก็สั่นเพราะ คอยสตาร์เสื่อม
พอเอามาเปลียนที่เซียงกงก็นิ่งเหมือนเดิม
พรุ่งนี้ทำแอร์+เก็บงานน่าจะออกวันเสาร์พอดีอ่ะครับ เดียวรีบมาเหลาให้ฟังต่อครับ

ttongtae 13-06-2009 21:00

เสร็จแล้วครับ เล่นเอาเหนื่อยพอได้นะ แต่จบอ่ะนะ
ว่าแต่อยากรู้กันแล้วละซิครับว่าเป็นไง 55
ขอ Sample รูปก่อนข้อมูลเดียวตามมานะหะ

ttongtae 13-06-2009 21:02

1 ไฟล์แนบ
เหมาะเหม๋ง ^^ น่าใช้มากๆเลยครับ

ttongtae 13-06-2009 21:07

1 ไฟล์แนบ
ข้อมูลและรายละเอียด + ราคาค่าวางเครื่องมาแล้วคับ
1. ราคาเครื่อง + เกียร์ 22000 บาท
2. กล่องคลุมพัดลมไฮโดรลิก 1500 บาท
3. ปั้มติ๊กบอสนอกถัง รหัส 910 ราคา 2800 บาท
4. กลองเปลีอย + ท่อปีเนียม รวมติดตั้ง 2000 บาท
5. ค่าแปลงเฟืองท้าย 4.1 ราคา 9000 บาท
6. ค่าวางเครื่องที่อู่ รวมเบ็ดเสร็จ แอร์ แท่นเครื่อง แท่นเกียร์ เพลากลาง สายไฟ ราคา 19000 บาท
7. กล่องแปลงสัญญาณวัดรอบเครื่อง + ติดตั้ง 2000 บาท

ข้อควรรูในการวางเครื่อง UZ
1. ควรเลือกอู่ที่มีความชำนาญในการวางเครื่อง UZ
2. อุปกรณืที่สำคัญที่ควรตรวจเช็ค คือ คอมเเอร์, ไดร์ชาร์จ, คอยน์สตาร์ท, ท่อไอเสียแบบรุ่นแคบ(เพราะจะทำให้แปลงน้อยมาก) พัดลมไฮโดรลิก, สายย้ำหัวพัดลมไฮโดรลิก, กระปุ๊กน้ำมันไฮโดรลิก ควรจะตรวจเช็คให้ครบจะได้ไม่เสียเวลาไปหลายครั้ง
3. สร้างจุดยึดจากแท่นเครื่องห่างประมาณ 1 นิ้ว แค๊งเครื่อง แค๊งเกียร์ จะเว้าหลบคานพอดี สามารถวางได้ง่าย
4. คันเกียร์ของเครื่อง 1 UZ นำมาตัดต่อเพื่อใช้กับแผงเกียร์เดิมของ Benz
5. เฟืองท้าย 2.2 อืดมากๆคับ ออกตัวลำบากมาก ยังงัยก้อต้องเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม แต่พละกำลังเครื่อง + กับเฟืองท้ายที่เหมาะสมพละกำลังเหลือเฟือแน่นอนคับ ฟันธง มีหลังติดเบาะแน่
6. อัตราบริโภคเฟืองท้ายเดิม 2.2 อยู่ที่ 4-5โล/ลิตร ไม่เกิน แปลงเฟืองท้าย 4.1 อยู่ที่ 6.5-7.5 โล/ลิตร

ผมวางเครื่องแถวบางใหญ่ แปลงเฟืองท้ายที่อู่ช่วงล่างพี่อ้วนวัดลาดพร้าว ตรงปั้มบางจาก หวังว่าคงเป็นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจได้นะคับ รับลองว่าเป็นทางเลือกที่ดีและไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ยังงัยถ้ามีข้อสงสัย หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ตลอดนะคับ

สำหรับท่านที่กำลังจะวางเครื่อง ก้อขอให้โชคดีนะคับ ขอบคุงคับ

ttongtae 13-06-2009 21:13

2 ไฟล์แนบ
แบบเต็มๆ w126 เสร็จแล้วครับ รอภาค 2 การใช้งาน การบริโภค จะได้ติดตามมานำเสนอต่อไป

keaw3000cc 13-06-2009 22:46

ร้านที่ซื้อเครื่องมาเค้าให้ fule pump control กับ gear resistance มาด้วยป่าวครับ ผมเพิ่งไปเอามา 2ตัวนี้ราคารวมกัน 1500 บาทครับ

fule pump control ทำให้เครื่องเราเดินเบา 4สูบ ครับ ถ้าใช้แก๊สก็ไม่จำเป็น

gear resistance ทำให้จังหวะการเข้าเกียร์นุ่มขึ้น

*ปล 2ตัวนี้ ช่างที่เชียงกงเค้าบอกมา :?

ttongtae 14-06-2009 04:52

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ keaw3000cc (339789 กระทู้)
ร้านที่ซื้อเครื่องมาเค้าให้ fule pump control กับ gear resistance มาด้วยป่าวครับ ผมเพิ่งไปเอามา 2ตัวนี้ราคารวมกัน 1500 บาทครับ

fule pump control ทำให้เครื่องเราเดินเบา 4สูบ ครับ ถ้าใช้แก๊สก็ไม่จำเป็น

gear resistance ทำให้จังหวะการเข้าเกียร์นุ่มขึ้น

*ปล 2ตัวนี้ ช่างที่เชียงกงเค้าบอกมา :?

ขอบคุณครับ มีสมาชิกมาร่วมแจมข้อมูลกับผมแล้ว ผมต้องถามเจ้าของรถก่อนไม่รู้ได้มาหรือเปล่า

ttongtae 14-06-2009 20:09

Update อัตตราบริโภคนำมันหลังจากใช้มา1-2 อาทิตย์ครับ
เติมเต็มถังครับ วิ่งไป 350 กม แล้วเติมเต็มอีกรอบใช้ไป 52 ลิตร = 6.7 กม/ลิตร ไม่ติด Slow Pump tik
( กดตลอดที่มีโอกาศ + ในเมืองรถติดพอประมาณ ) ครับ
ใว้กลับจากพัทยาแล้วจะ Up ข้อมูลทางไกลให้อีกที่ครับ + Slow Pump Tik ด้วยน่าจะประหยัดพอสมควรครับ

ttongtae 19-06-2009 21:48

วันนี้เก็บตกสาระดีๆมารวมไว้ หยุดเรื่อง UZ สักวันก่อนนะครับ

28 เรื่อง การเข้าใจผิดของคนใช้รถ
เขียนโดย Paiboon80
จันทร์, 16 มีนาคม 2009 23:06
ผิด 1. "สตาร์ทแล้วออกรถได้เลยไม่ต้องอุ่นเครื่อง"
ที่ถูกคือ...อุ่นเครื่องยนต์สักหน่อยก่อนออกรถจะดีกว ่า เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่ยัง "เย็น" อยู่ เช่น ขณะออกรถจากบ้านไปทำงานตอนเช้า หรือติดเครื่องยนต์เมื่องานเลิกเพื่อกลับบ้าน ไอของเชื้อเพลิงที่เข้มข้นจะเกาะผนังกระบอกสูบ และละลายปนกับฟิล์มน้ำมันเครื่องที่ฉาบผนังอยู่ ทำให้การหล่อลื่นแหวนลูกสูบกับผนังกระบอกสูบไม่เพียง พอ สร้างความสึกหรอในเครื่องยนต์มากกว่าปกติ นอกจากนี้ทั้งเชื้อเพลิงที่ระเหยไม่หมด และไอน้ำที่เกิดจากการเผาไหม้ขณะเครื่องยังเย็นนี้ ยังละลายปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย


ผิด 2. "รถใหม่สมัยนี้ ไม่ต้อง รันอิน"
ที่ถูกคือ...รถใหม่ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ต้องรันอิน รถรุ่นใหม่ๆ แม้จะมีการควบคุมคุณภาพอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เครื่องยนต์ใหม่ควรต้องผ่านการรันอิน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสักครั้งก่อนที่จะใช้งาน อย่างเต็มที่ เพราะเศษโลหะที่ตกค้างอยู่ในระบบจะได้ถูกชะล้างออกไป การรันอินนั้นทำได้ไม่ยาก โดยในช่วง 1,000 กม. แรก ไม่เร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง หรือใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงมากๆ ถ้าใช้รอบเครื่องไม่เกิน 3,000 รตน. ได้ก็จะดี และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนด พูดถึงเรื่องนี้ เคยมีผู้ใช้รถบางคน ไม่นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเชค โดยให้เหตุผลว่า เสียเวลา เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทำที่ไหนก็ได้ อย่างนี้ "น่าเสียดาย" แทนจริงๆ เพราะถ้าเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์จะเรียกร้องเอ ากับใคร


ผิด 3. "ยกขาก้านปัดน้ำฝนขณะจอดช่วยยืดอายุใบปัด"
ที่ถูกคือ...สปริงในก้านที่ปัดน้ำฝนจะอ่อน และเสียเร็วขึ้น ส่วนสำคัญที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิ ทธิภาพประกอบด้วย ใบปัด แผ่นยางซึ่งทำหน้าที่รีดน้ำจากกระจกบังลมหน้า ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี หากใช้นานกว่านั้นเนื้อยางจะแข็งตัวหรือมีการฉีกขาด ไม่ว่าจะยกไว้หรือไม่ก็ตาม อีกส่วนคือ ก้านใบปัด ที่มีสปริงคอยดึงให้ใบปัดแนบสนิทกับกระจก ซึ่งรับแรงจากคันโยก และมอเตอร์ ตัวนี้มีราคาสูงกว่าใบปัด การยกก้านเมื่อจอดตากแดด สปริงจะถูกดึงให้ยืดออกตลอดเวลา อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหลายเท่าถ้าต้องเปลี่ยนทั้ง ชุด


ผิด 4. "รถติดไฟแดงค้างเกียร์ D ไว้ดีกว่าเปลี่ยนเกียร์ว่าง"
ที่ถูกคือ...หยุดรถก็โอเค แต่ถ้าติดไฟแดงนานก็ต้องระวังชนคันหน้า ในกรณีรถติดไฟแดง ผู้ขับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะปลดเกียร์ว่าง และเหยียบเบรคป้องกันรถไหล คงจะไม่มีใครเหยียบคลัทช์ และเบรค ใส่เกียร์คาไว้ ให้เมื้อยขา ขณะที่ผู้ขับรถเกียร์อัตโนมัติ กลับมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน กลุ่มแรก เหยียบเบรคโดยค้างเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง "D" กลุ่มที่ 2 เบรคเหมือนกัน แต่เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์มาที่เกียร์ว่าง "N" กลุ่มสุดท้าย ดันคันเกียร์มาอยู่ที่ "P" ไม่เหยียบเบรค ถ้าติดไฟแดงนานๆ กลุ่มแรก ต้องระวังมากที่สุด เพราะถ้าขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรค รถอาจพุ่งไปชนคันหน้า กลุ่มที่ 2 เบาหน่อยแค่เมื่อย ส่วนกลุ่มสุดท้าย สบายใจได้ แต่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้งาน วิธีดีที่สุด คือ ใช้เกียร์ว่าง และดึงเบรคมือ


ผิด 5. "เดินทางไกลลมยางอ่อนดีกว่าแข็ง"
ที่ถูกคือ...ลมน้อย ยางมีโอกาสระเบิดได้มาก คู่มือการใช้และดูแลรักษายางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน ก็แนะนำตรงกันว่า ผู้ใช้รถควรเติมลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหน ดไว้ และให้เพิ่มแรงดันลมยางให้สูงขึ้นอีก 2- 3 ปอนด์ เมื่อต้องเดินทางไกล ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานกำหนด นอกจากจะทำให้หน้ายางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับโครงสร้างยางได้ และมีโอกาสเกิด "ยางระเบิด" มากกว่าหรือใกล้เคียงกับยางที่มีแรงดันลมยางเกินกำหน ด เพราะอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี


ผิด 6. "ฝนตกใส่ขับ 4 ล้อเกาะกว่า...2 ล้อ"
ที่ถูกคือ...อย่าใช้ระบบขับเคลื่อนผิดประเภท จะได้ไม่ต้องเสียใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้นอาจจะช่วยให้รถเกาะถนนมากกว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่สำหรับรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์หรือ "ตามต้องการ" ในรถพิคอัพ หรือพีพีวี ที่มีชุดส่งกำลังแยกเพื่อส่งกำลังไปยังล้อหน้า กำลังจากล้อหลังจะถูกแบ่งมายังล้อหน้า อาการท้ายปัด หรือล้อหลังฟรีก็จะน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกาะถนนดี เมื่อต้องเลี้ยวในความเร็วสูง ล้อหน้าที่ถูกล็อคให้หมุนจะเลี้ยวได้น้อยลง ทำให้ต้องใช้วงเลี้ยวที่กว้างขึ้น จึงมีรถประเภทนี้หลุดโค้งให้เห็นกันเป็นประจำระบบขับ เคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์มีไว้เพื่อช่วยให้รถสามารถผ่านทางทุร กันดานได้ง่ายขึ้น ต่างกับพวกที่เป็นฟูลล์ไทม์หรือ "ตลอดเวลา" ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการยึดเกาะถนน


ผิด 7. "ตั้งศูนย์ล้อหน้าอย่างเดียวก็พอ"
ที่ถูกคือ...ทุกล้อมีความสำคัญ ตั้งศูนย์ล้อควรทำทั้ง 4 ล้อ เชื่อหรือไม่ว่า ศูนย์ล้อหลังมีความสำคัญพอๆ กับศูนย์ล้อหน้า หรืออาจจะมากกว่า เพราะมุมที่ล้อหลังเอียงไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้รถเสียสมดุลเมื่อเบรค หรือเลี้ยว และทำให้รถเลี้ยวไปมากกว่าที่คิด รถยนต์ส่วนใหญ่จะปรับตั้งศูนย์ล้อได้หน้า/หลัง ยกเว้นรถขับเคลื่อนหน้าบางรุ่นที่ปรับได้แต่เฉพาะล้อ หน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถตั้งศูนย์ล้อหลัง ก็ต้องทำใจ


ผิด 8. "ต้องเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเวลาข้ามแยก"
ที่ถูกคือ...เวลาข้ามแยก รอให้รถว่าง และไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ถ้าคุณเปิดไฟฉุกเฉิน รถทั้งด้านซ้าย/ขวา ต่างก็จะเห็นสัญญาณไฟเลี้ยวเพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่า นั้น รถทางขวาอาจจะจอดให้ไป แต่สำหรับทางซ้ายอาจคิดว่าคุณจะเลี้ยวซ้ายจึงไม่หยุด ให้ อุบัติเหตุ จึงเกิดขึ้น ด้วยความเข้าใจผิด จากการใช้สัญญาณไฟแบบผิดที่...ผิดทาง


ผิด 9. "ฝนตกหนัก หรือหมอกลงจัดต้องเปิดไฟฉุกเฉิน"
ที่ถูกคือ...อาจสร้างความสับสนให้ผู้ร่วมทาง ไฟฉุกเฉินใช้เวลาจอดฉุกเฉิน ในสภาพอากาศที่ไม่ดี และมีทัศนวิสัยแย่มาก จนมองแทบไม่เห็นรถคันหน้า การชะลอความเร็ว เปิดไฟหน้า และทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน ทำให้ที่วิ่งสวนทางมาเข้าใจผิดคิดว่ามีรถจอดเสียอยู่ ทางซ้ายริมถนน และหักหลบไปทางขวา ซึ่งเป็นไหลทาง กว่าจะเห็นอาจจะสายเกินไป ไม่ลงไปข้างทางก็อาจพุ่งข้ามช่องทางมาชน หรือถ้าหยุดรถก็ขวางทาง และเกิดอุบัติเหตุ การใช้ สัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่าหมาก ควรใช้เฉพาะเวลาที่รถเสีย และต้องจอดอยู่ริมถนน เพื่อบอกให้เพื่อนร่วมทางที่สัญจรผ่านไปมา ใช้ความระมัดระวัง และชะลอความเร็วในจุดที่รถจอดเสียอยู่

ttongtae 20-06-2009 18:12

คงต้องหยุดเรือง Uz ต่ออีกหลายวัน เอาจนครบทุกข้อก่อนนะครับ ค่อยเข้าเรือง Uz

ผิด 10. "ผ้าเบรคแข็ง หรือ ผ้าเบรคเนื้อแข็ง ไม่ดี"
ที่ถูกคือ...ไม่แน่เสมอไป ขึ้นอยู่กับความต้องการ ความเข้าใจผิดๆ เรื่อง "ผ้าเบรค" ที่ว่าผ้าเบรคอ่อนดีกว่าแข็ง เกิดจากบรรดาช่างซ่อมรถที่ไม่ได้อธิบายให้เจ้าของรถเ ข้าใจ การผสมเนื้อผ้าเบรคให้ใช้งานได้ดี เป็นศาสตร์ชั้นสูง ใช้วัสดุนานาชนิด และมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีผลต่อคุณสมบัติของผ้าเบรค และมักจะขัดแย้งกันเอง ถ้าเน้นข้อดีข้อใดขึ้นมา ก็มักจะมีข้ออื่นด้อยลงไป เช่น การใช้ส่วนผสมที่เบรคหยุดดี ก็จะกินเนื้อจานเบรคมาก หรือร้อนจัด หรือไม่เนื้อผ้าเบรคก็สึกเร็ว พอทำให้สึกช้า ก็แข็ง เบรคไม่ค่อยอยู่ หรือมีเสียงรบกวน ส่วนผ้าเบรค "เนื้ออ่อน" ที่มีจุดเด่นเรื่องไม่กัดกินเนื้อจานเบรค ก็จะมีข้อด้อยตรงจุดอื่น


ผิด 11. "เอนนอนขับแบบนักแข่ง...สบายที่สุด"
ที่ถูกคือ...นั่งขับแบบไม่ต้องชะเง้อ จะได้ไม่เมื่อย และไม่อันตราย ท่าขับแบบนักแข่ง ตัวจริง ต่างกับการปรับเบาะเอนนอนขับมาก การนั่งท่านี้จะรู้สึกว่าจะหลุดจากเบาะนั่งทุกครั้งท ี่เบรคแรงๆ แขนที่เหยียดตึงตลอดเวลา นอกจากจะทำให้เมื่อยล้า ยังต้องยกตัวขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลี้ยว เพราะไม่มีแรงหมุนพวงมาลัย และมองทางข้างหน้าไม่เห็น เช่นเดียวกับเวลาถอยหลังจอด สายเข็มขัดนิรภัยที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าการนั่งขับแ บบปกติ อาจจะรั้งคอแทนที่จะเป็นไหล เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ท่านั่งที่ถูกต้องเอาหลังพิงพนักจนสนิทแล้วเหยียดแขน ข้างใดข้างหนึ่ง ไปวางบนส่วนบนสุดของพวงมาลัยแล้ว ตรงกับข้อมือ ขาต้องสามารถเหยียบแป้นคลัทช์จนจม โดยไม่ต้องเหยียดข้อเท้าสุดแบบนักบัลเลท์ ส่วนใต้ของขาอ่อนดันกับเบาะนั่งส่วนหน้า จนรู้สึกว่าน้ำหนักตัวที่ลงตรงสะโพกพอดี และยังสัมผัสกับพนักพิง


ผิด 12. "นั่งชิดพวงมาลัยเพื่อให้มองเห็นหน้ารถ"
ที่ถูกคือ...อันตราย ตัวอาจกระแทกกับพวงมาลัยบาดเจ็บ ผู้ที่นั่งใกล้พวงมาลัยเกินไป มักเป็นผู้ที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับรถนัก และได้รับการสอนท่านั่งมาแบบผิดๆ ลำตัวที่อยู่ชิดกับพวงมาลัย นอกจากจะทำให้หมุนพวงมาลัยไม่ถนัดเพราะแขนงอมากเกินไ ป ยังเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตัวผู้ขับ ที่อาจจะบาดเจ็บจากการที่ลำตัวกระแทกกับพวงมาลัย และแรงระเบิดจากถุงลมนิรภัย


ผิด 13. "สอดมือหมุนพวงมาลัยถนัด เบาแรง และปลอดภัย"
ที่ถูกคือ...ไม่ถนัดจริง และอันตรายไม่ควรทำ การหงายมือล้วงหรือสอดมือจับพวงมาลัย เพื่อเลี้ยวรถ เป็นการออกแรงดึงเข้าหาตัว จึงทำให้รู้สึกว่าออกแรงน้อยกว่าการจับแบบคว่ำมือหมุ น แต่การทำแบบนั้นมี "อันตราย" มาก ถ้าหากล้อหน้าเกิดสะดุดก้อนหิน และเกิดมือหลุดจากพวงมาลัย ดึงมือออกมาไม่ทันก้านพวงมาลัยจะตีมืออย่างแรง การจับพวงมาลัยที่ถูกต้องควรจับในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ซึ่งแขนจะงออยู่เล็กน้อย และเพียงพอที่หมุนพวงมาลัยได้จนครบรอบ เมื่อต้องเลี้ยวรถมากกว่าหนึ่งรอบ จะปล่อยมือที่อยู่ด้านหลัง เพื่อมาจับในตำแหน่งเดิม โดยทำในลักษณะนี้ทั้งเลี้ยวซ้าย/ขวา


ผิด 14. "เกียร์ ซีวีที ขับยากและกินน้ำมันกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป"
ที่ถูกคือ...ขับง่ายและประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์อัตโน มัติทั่วไป การไม่สามารถเข้าใจเหตุผล ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ ผู้ที่ขับรถใช้เกียร์ ซีวีที บอกว่าขับแล้วรู้สึกเหมือนขับรถที่เกียร์ หรือระบบขับเคลื่อน "มีปัญหา" ให้ความรู้สึกที่ไม่ดี โดยเฉพาะตอนที่ขับด้วยความเร็วคงที่แล้วกดคันเร่งเพิ ่ม เกียร์จะเลือกอัตราทดที่เหมาะ ทำให้ความเร็วเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นทันที แต่ความเร็วรถยังเท่าเดิม ให้ความรู้สึกเหมือนรถคลัทช์ลื่น การขับแบบประหยัดเชื้อเพลิง ให้เหยียบคันเร่งไม่ลึกนักขณะออกรถและรักษาระยะที่เห ยียบไว้ ช่วงแรกเครื่องยนต์จะส่งกำลังผ่านทอร์คคอนเวอร์เตอร์ พอล้อรถหมุนเร็วพอสมควร และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากทอร์คคอนเวอร์เตอร์แล้ ว ระบบต่อตรงส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังจานทรงกรวยตัว ขับก็จะทำงาน จากนั้นระบบควบคุมจะลดระยะห่างของจานทรงกรวยคู่ที่เป ็นตัวขับ เป็นการลดอัตราทด เพื่อเพิ่มความเร็วรถ โดยที่ความเร็วของเครื่องยนต์ค่อนข้างคงที่ ยกตัวอย่างเช่น ประมาณ 1,800 รตน. ความเร็วจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนเดียวกับที่อัตราทดของ เกียร์ลดลง จนได้ความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดของการเหยียบคันเร่งของเราเท่ านี้ เยี่ยมไหมครับ ?

ttongtae 21-06-2009 20:48

ผิด 15. "ต้องเปลี่ยนไส้กรองทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื ่อง"
ที่ถูกคือ...ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกครั้ง แต่ถ้าเปลี่ยนได้ก็ดี ผู้ผลิตรถยนต์จากยุโรป แนะนำให้เปลี่ยนพร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทุกครั้ง แต่โรงงานผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น จำนวนไม่น้อย แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรอง หรือหม้อกรองทุกๆ ครั้งที่ 2 ของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ้าคำนึงถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่องยุคปัจจุบันแล้ว น้ำมันเครื่องหมดอายุแล้ว ในหม้อกรองน้ำมันเครื่องจำนวนหนึ่งปนเปื้อน ไม่ถึงกับให้โทษในด้านการหล่อลื่นหรือทำความสะอาดภาย ในเครื่องยนต์ แต่เมื่อคำนึงถึงราคาหม้อกรอง หรือไส้กรอง ซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันเครื่องแล้ว ควรเปลี่ยนทุกครั้งเพื่อให้น้ำมันเครื่องสะอาดที่สุด และทำหน้าที่รักษาเครื่องยนต์ของเราจะดีกว่า


ผิด 16. "ควรเติม หัวเชื้อน้ำมันเครื่องเพื่อถนอมเครื่องยนต์"
ที่ถูกคือ...อาจจะหนืดไป แค่ใช้น้ำมันเครื่องดี มีคุณภาพ ก็เพียงพอแล้ว เราแบ่งหัวเชื้อน้ำมันเครื่องได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ำมันเครื่อง และประเภทที่ช่วยเพิ่มความหนืดของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงในปัจจุบันมีส่วนผสมของสารต่า งๆ อยู่ในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม จึงไม่ควรใส่สารอื่นเข้าไปทำลายสัดส่วนสารเคมีเหล่าน ี้ให้เสียสมดุล และกลับให้โทษแก่เครื่องยนต์ ประเภทแรกจึงไม่จำเป็น ส่วนหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ช่วยเพิ่มความหนืด อาจช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ ที่หมดสภาพแล้วได้บ้าง แต่เมื่อคำนึงถึงราคาแล้ว ก็ไม่น่าจะช่วยประหยัดได้ และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วย วิธีที่ถูกต้องคือ การซ้อมใหญ่ หรือ โอเวอร์ฮอล เพื่อให้เครื่องยนต์กลับคืนสู่สภาพดีปกติ


ผิด 17. "เติมน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงปนกับน้ำมันเครื่องทั่วไป จะได้คุณสมบัติที่ดีขึ้น"
ที่ถูกคือ...การผสมไม่ได้ช่วยให้คุณภาพดีขึ้น ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพมาตรฐานจะดีกว่า การนำน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุดสักครึ่งลิตร มาผสมกับน้ำมันเครื่องคุณภาพปานกลาง ก็ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพขึ้นมาได้ เอาเงินส่วนนี้ไปทำประโยชน์ส่วนอื่นจะดีกว่า เช่นเดียวกับการเอาน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำมาเติมผสมล งไปน้ำมันเครื่องชั้นดี ราคาสูง ซึ่งจะทำให้ส่วนผสมของสารเพิ่มคุณภาพในน้ำมันเครื่อง เสียสมดุลไป เท่ากับน้ำมันเครื่องทั้งหมดคุณภาพต่ำไป การเติมน้ำมันเครื่องใหม่เมื่อน้ำมันเครื่องเดิมใกล้ จะถึงกำหนดเปลี่ยนถ่าย นั้น ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไ ปเพื่อแลกกับการใช้งาน เพียงระยะสั้น ทางที่ดีเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยจะคุ้มกว่า


ผิด 18. "ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ทุกๆ 5,000 กม."
ที่ถูกคือ...ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำมันเครื่องและความต ้องการของเครื่อง ยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละราย กำหนดมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เครื่องยนต์แต ่ละรุ่นต้องการใช้ อยู่ในคู่มือประจำรถ และกำหนดระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้แตกต่างก ันด้วย รถยนต์ของค่ายญี่ปุ่น จะมีกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นระยะทางที่สั้นกว่ ารถยุโรป เช่น ทุกๆ 5,000 กม. และ 10,000 กม. ส่วนรถค่ายยุโรปส่วนใหญ่ที่เครื่องยนต์ใหญ่ใช้รอบเคร ื่องยนต์ต่ำ และมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องไว้สูง เช่น ระดับ SJ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จะกำหนดระยะทางถึง 15,000 กม. หรือมากกว่านั้น ปัจจุบันกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่มีระยะมากที่สุ ด เป็นของรถ เปอโฌต์ คือ ทุกๆ 30,000 กม. แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนก่อนเวลาก็ไม่ได้ทำให้เสียหาย เพียงแต่เปลืองเงินกว่าที่ควร เท่านั้นเอง ผู้ใช้รถควรใช้วิจารณญาณในการร่นระยะเปลี่ยนน้ำมันเค รื่อง ตามสภาพการใช้งาน เช่น กรณีที่ใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดเป็นส่วนใหญ่ เหลือ 70 % ที่กำหนดในคู่มือ หรือถ้าต้องสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆ และ "รถติด" เป็นประจำด้วย เหลือเพียง 50 % ถ้าใช้น้ำมันเครื่อง "ธรรมดา" คุณภาพสูง แล้วใช้งานหนักมาก เปลี่ยนทุก 5,000 กม. ถ้าใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % เปลี่ยนทุก 10,000 กม. หากใช้งานเบากว่านี้ เพิ่มระยะทางได้ตามความเหมาะสม ไม่ใช่กำหนดที่ปั๊มน้ำมัน หรือศูนย์บริการ ฯ ลดทอน เพราะต้องการขายน้ำมันเครื่อง


ผิด 19. "เครื่องยนต์ดีเซลมีระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเท่าก ับเบนซิน"
ที่ถูกคือ...อุณหภูมิภายในไม่เท่ากัน อายุการใช้งานก็ต่างกันด้วย การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ก่อให้เกิดเขม่ามากกว่าในเครื่องยนต์เบนซิน ผงเขม่าขนาดเล็กสามารถลอดผ่านกระดาษกรองของหม้อกรองน ้ำมันเครื่องได้ เมื่อสะสมแขวนลอยอยู่ในน้ำมันเครื่องมากขึ้น จะทำให้น้ำมันเครื่องมีค่าความหนืดสูงขึ้น คุณสมบัติในการหล่อลื่นจึงลดลง เครื่องยนต์ดีเซลระบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ หรือไดเรคท์อินเจคชันยุคใหม่มีเขม่าน้อยกว่าแบบ พรีแชมเบอร์มาก เราจึงสังเกตได้ว่า กำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์แบบนี้ใกล้เ คียงกับเครื่องยนต์ เบนซินแล้ว


ผิด 20. "น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % คุ้มกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา"
ที่ถูกคือ...ราคาแพงกว่าใช้ได้นานกว่า แต่จะคุ้มหรือไม่อยู่ที่ใจ จุดเด่นแรกของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อยู่ที่ค่าความ หนืดต่ำที่อุณหภูมิต่ำ จึงไหลไปหล่อลื่นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มติดเครื่องยนต์ในสภาพเย็นจัด เช่น ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งสภาวะเช่นนี้ไม่มีในประเทศไทย ข้อดีประการที่ 2 คือทนต่อความร้อนสูงที่ผนังกระบอกสูบได้ดีกว่า จึงมีอัตราการระเหยเป็นไอได้น้อยกว่าน้ำมันเครื่อง "ธรรมดา" อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องอาจน้อยกว่าเล็กน้อย จุดเด่นอีกข้อของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ คือ การมีค่าดัชนีความหนืดสูง จึงไม่ "ใส" เกินไปเมื่อถูกความร้อนจัด น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีสารปรับดัชนีความหนืดผส มอยู่ในอัตราที่น้อย กว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา เนื่องจากสารปรับดัชนีความหนืดนี้เสื่อมสภาพได้ง่ายต ามอายุใช้งาน น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีอายุใช้งานยาวนานกว่าน้ ำมันเครื่องธรรมดามาก เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % กับราคาน้ำมันเครื่อง "ธรรมดา" ระดับคุณภาพสูงสุดน้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีราคาสู งกว่าราว 2 ถึง 4 เท่า จึงไม่สามารถกล่าวได้ว่า "คุ้มกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา" ยกเว้นพวกชอบใช้ของแพง ได้จ่ายเงินมากแล้วมีความสุข ผู้ที่ต้องการถนอมให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อยที่สุด โดยไม่คำนึงถึงราคาว่าคุ้มหรือไม่


ผิด 21. "ใช้น้ำมันเครื่องราคาถูกแต่เปลี่ยนบ่อยๆ ช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้ดีที่สุด"
ที่ถูกคือ...ถ้าเจอน้ำมันเครื่องปลอม หรือไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ไม่ควรนำน้ำมันเครื่องราคาถูกมาเปลี่ยนบ่อยๆ เช่น ทุก 3,000 หรือ 4,000 กม. แทนน้ำมันเครื่องมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนด เพราะในประเทศเราที่ไม่มีหน่วยงานควบคุม และตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันเครื่องอยู่เลย แม้น้ำมันเครื่องระดับคุณภาพสูงที่เราซื้อมา ก็อาจเป็นของปลอมที่กรองและฟอกสีมาจากกากน้ำมันเครื่ องใช้แล้วได้ วิธีถนอมเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด คือ เลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุด ก่อนอื่นต้องเลือก "ยี่ห้อ" และสถานที่จำหน่ายที่น่าไว้วางใจได้ เลือกระดับคุณภาพ แล้วจึงดูระดับความหนืด หรือความข้นของน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับอุณหภูมิเฉ ลี่ยของเมืองไทย เช่น 10W-40/15W-40/15W-50 หรือ 20W-50 ระดับคุณภาพที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศไทย คือ ระดับคุณภาพตามมาตรฐานของ API (AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE) ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน ควรใช้น้ำมันเครื่อง ระดับคุณภาพ SJ หรือ อย่างน้อย SH ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล ควรเลือกระดับ CG - 4 หรืออย่างน้อย CF - 4


ผิด 22. "เปลี่ยนแบตเตอร์รี่ให้ลูกใหญ่ จะได้สตาร์ทง่าย"
ที่ถูกคือ...แบตเตอร์รี่ขนาดไหนก็ใช้ไฟเท่าเดิม ใหญ่ไปก็หนักรถ การใช้แบตเตอร์รี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ ทั้งเครื่องยนต์ ไดสตาร์ท และไดชาร์จ ยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะเป็นความสิ้นเปลืองที่เกินกว่าความจำเป็น เพราะความต้องการไฟในการสตาร์ทเครื่องยนต์ยังเท่าเดิ มแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับไดชาร์จในอนาคต แบตเตอร์รี่ที่มีขนาดใหญ่มากเกินไป ไม่เพียงต้องทำให้เจ้าของรถต้องดัดแปลงแทนวางแบตเตอร ์รี่ใหม่เท่านั้น ยังอาจส่งผลให้ไดชาร์จทำงานเต็มกำลังตลอดเวลา เพื่อบรรจุไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอร์รี่ ซึ่งจะหยุดก็ต่อเมื่อไฟเต็ม


ผิด 23. "ดับเครื่องยนต์ก่อน และปิดพัดลมแอร์ จะช่วยให้แอร์ไม่เสียเร็ว"
ที่ถูกคือ...ควรปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยยืดอายุตู้แอร์ ระบบทำความเย็นทั้งภายในรถและอาคาร อาศัยหลักการถ่ายเทความเย็น และระบายความร้อน ซึ่งตู้แอร์ หรือคอยล์เย็น จะมีสารทำความเย็นบรรจุอยู่ภายใน โดยมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลม การปิดพัดลมหลังดับเครื่อง ความเย็นยังคงอยู่ภายในระบบ ตู้แอร์จึงชื้น และกลายเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ซึ่งจะทำให้ลมผ่านได้ไม่สะดวก เกิดการอุดตัน และตู้รั่ว การปิดคอมเพรสเซอร์ หรือปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 5 -10 นาที จะช่วยไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น นอกจากจะช่วยยืดอายุตู้แอร์ ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มักเกิดพร้อมๆ กับความชื้นอีกด้วย


ผิด 24. "แก๊สโซฮอลสิ้นเปลืองกว่าเบนซิน 95 เพราะแอลกอฮอล์ระเหยได้ง่ายกว่า"
ที่ถูกคือ...แอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน ต่ำกว่าของเบนซิน การที่แก๊สโซฮอลสิ้นเปลืองกว่าเพราะแอลกอฮอล์มีพลังง านสะสมในตัวมันน้อยกว่า เมื่อเทียบมวลเท่ากัน เช่น มีพลังงานกี่กิโลแคลอรีต่อมวลหนึ่งกิโลกรัมเท่ากัน หรือกล่าวได้ว่าแอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน หรือ ค่าความร้อน (HEATING VALUE) ต่ำกว่าของเบนซิน เกี่ยวกับการระเหยง่ายอย่างที่หลายคนคิด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ น้ำมันเบนซินซึ่งระเหยง่ายมาก และน้ำมันดีเซลซึ่งระเหยยากมาก แต่มีความหนาแน่นของพลังงานหรือค่าความร้อนพอๆ กัน และมากกว่าของแอลกอฮอล์ประมาณเท่าตัว


ผิด 25. "เติมน้ำยาหล่อเย็นจะทำให้หม้อน้ำรั่ว"
ที่ถูกคือ...น้ำยาเติมหม้อน้ำช่วยลดตะกอนและควบคุมอุ ณหภูมิของน้ำ น้ำยาเติมหม้อ หรือน้ำยาหล่อเย็น (COOLANT) ถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้หม้อน้ำและปั๊มน้ำรั่วอยู่เ สมอ นั่นก็เพราะผู้ใช้รถจะพบปัญหาเหล่านี้หลังจากที่ได้เ ติมน้ำยาหล่อเย็น ซึ่งในความเป็นจริงเกิดจากระบบหล่อเย็นของรถขาดการบำ รุงรักษามาเป็นเวลานาน หรือใช้น้ำที่มีค่าเป็นกรดเป็นด่างมากเกินไป จนเกิดการผุกร่อน ดังนั้นเราควรบำรุงรักษาหม้อน้ำด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ ำยาในระบบหล่อเย็นปีละ ครั้ง รวมทั้งทำความสะอาดถังพักน้ำด้วย ส่วนการผสมน้ำยาหล่อเย็น ควรทำตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตระบุไว้


ผิด 26. "รถที่ใช้จานเบรค 4 ล้อปลอดภัยกว่ารถที่ใช้ดุมเบรคหลัง"
ที่ถูกคือ...ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งาน หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าจานเบรคใช้ได้ดีกับรถทุกรุ่นทุ กขนาด แม้ว่าคุณสมบัติที่ดีของจานเบรคคือ ระบายความร้อนได้เร็ว ส่วนใหญ่ผู้ผลิตรถจึงใช้กับล้อหน้าที่ผ้าเบรคจับตัวจ านเบรคแทบจะตลอดเวลา ดุมเบรคที่ระบายความร้อนได้ช้ากว่าเพราะมีฝาครอบ แต่มีพื้นที่สัมผัสมากกว่าจานเบรคและไม่มีปัญหาเบรคล ็อคเหมือนจานเบรคใช้ใน ล้อหลัง รถที่ใช้งานแบบทั่วไป รวมทั้งรถที่มีระบบเอบีเอส ซึ่งวิศวกรผู้ผลิตรถยนต์จะเลือกใช้จานเบรคตามความเหม าะสม การที่เจ้าของรถนำรถไปดัดแปลงใช้จานเบรคในล้อหลัง ต้องระวัง เพราะหากล้อหลังหยุดก่อนล้อหน้าเมื่อเบรค อาจทำให้รถหมุนได้


ผิด 27. "เปลี่ยนกรองเปลือย และหัวเทียน ทำให้รถแรงขึ้น"
ที่ถูกคือ...ช่วยอะไรไม่ได้มาก ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป การเปลี่ยนกรองอากาศมาเป็นแบบกรองเปลือย ที่ไม่มีกล่องป้องกันฝุ่น และท่อนำอากาศ อาจจะช่วยให้อากาศเข้าได้สะดวกขึ้น แต่ความหนาแน่นของมวลอากาศน้อยลงเพราะอุณหภูมิความร้ อนภายในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งปริมาณอากาศกับห้องเผาไหม้เท่าเดิม จึงให้กำลังตกลงเมื่อเครื่องร้อน อีกทั้งมีฝุ่นละอองมาก ทำให้ต้องล้างหรือทำความสะอาดบ่อยๆ การใช้หัวเทียนใหม่ช่วยให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ แต่ไม่ได้เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้สูงกว่ามาตรฐานผู้ ผลิตรถยนต์ได้กำหนดไว้


ผิด 28. "ไส้กรองอากาศไม่ต้องเปลี่ยน แค่เป่าลมก็ใช้ได้แล้ว"
ที่ถูกคือ...เปลี่ยนใหม่ จะช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมันไปได้นับพันบาท การใช้ลมเป่าไส้กรองอากาศที่นิยมทำกัน เมื่อมีฝุ่นติดเต็ม จนมองไม่เห็นสีเดิม วิธีนี้ช่วยให้ฝุ่นละอองเบาบางลง อากาศไหลผ่านได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าเป่าแรงเกินไปแผ่นกรองอาจเสียหายจนใช้งานต่อไม ่ได้ เพราะมีรูกว้างจนฝุ่นขนาดใหญ่สามารถผ่านเข้าไปได้ คิดแล้วไม่คุ้ม ยอมจ่ายเงินซื้อของใหม่มาใส่จะคุ้มกว่า การล้างคาร์บูเรเตอร์ หรือหัวฉีด แถมยังประหยัดค่าน้ำมันทางอ้อม อีกด้วย

เครดิต.....www.3dmaniaclub.com

แก้ไขล่าสุด ( จันทร์, 16 มีนาคม 2009 23:08 )

กิติพัฒน์ พรรณประสาทน์ 22-06-2009 13:46

3 ไฟล์แนบ
เนียนมากสมบรูณ์วิ่งดี

ttongtae 28-06-2009 05:45

4 ไฟล์แนบ
วีทาร่า " ยาวที่สุดในประเทศไทย " หน้าซูซูกิวิทาร่า 5 ประตู + หลังกระบะโตโยต้า tiger มีทะเบียนครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
- วีทาร่า " ยาวที่สุดในเมืองไทย "
หน้าซูซูกิวิทาร่า 5 ประตู
หลังกระบะโตโยต้า tiger
- คัสซีคาริเบียน 2 คันมาต่อกัน
- เจ้าของ น้องโต้
- เครื่อง 1 UZ V8 + LPG Power
- ถังแก๊ส ขนาด 75 ลิตร
- ภายใน วีทาร่า หุ้มลายไม้
- หุ้มหนังใหม่หมด กับเครื่องเสียงชุดใหญ่
- ช่วงล่าง คานแข็ง เทินเพลา
- เสื้อเพลา หน้า + หลัง พราโด้ 78
- ยาง Super Swamper TSL 36 นิ้ว
- ทำสีช่วงล่าง โช๊คหน้าหลังทั้งหมด 8 ตัว

- เจ้าของ น้องโต้
- ดูด้านหลังนึกว่ารถกระบะธรรมดา
- ลองดูว่ายาวขนาดไหน กับ คัสซีคาริเบียน 2 คันมาต่อกัน

Nomercy 28-06-2009 17:02

พี่กิติพัฒน์ครับ พอจะบอกได้มั๊ยครับว่าช่างไฟที่พี่บอกว่ามารับจากชัย ภูมิ ไปทำให้อุปกรณ์ของพี่พังคือใคร ผมจะได้ไม่ต้องไปใช้บริการเค้าครับ..
ขอบคุณมากครับ..

กิติพัฒน์ พรรณประสาทน์ 28-06-2009 17:58

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Nomercy (349257 กระทู้)
พี่กิติพัฒน์ครับ พอจะบอกได้มั๊ยครับว่าช่างไฟที่พี่บอกว่ามารับจากชัย ภูมิ ไปทำให้อุปกรณ์ของพี่พังคือใคร ผมจะได้ไม่ต้องไปใช้บริการเค้าครับ..
ขอบคุณมากครับ..

อย่าให้บอกเลยเดี้ยวช่างจะว่าน้าได้แต่เข้าคงจะเข้าใ จแล้วเพราะเขาจะได้ไม่ได้เอาการวาวสายjมาปนกลับUเพรา ะคงยังไม่เคยต่อUZแต่ช่างที่ต่อของน้าคงบอกไปแล้วคงเ ข้าใจช่างจะได้มีงานทำต่อ คนเราผิดก็แก้ไขได้ศึกษามากขึ้นก็ทำได้ครับ:redface: :emo_toon08: :emo_toon24:

Nomercy 30-06-2009 09:07

ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ พอดีเจ้า B2200-UZ ของผมก็เจอเหมือนกันครับ กว่าจะจบก็แทบแย่ ตอนนี้เหลือแต่wire หน้าปัทม์ดิจิตอลอยู่ครับ

ttongtae 30-06-2009 20:40

5 ไฟล์แนบ
เครื่องยนต์
- รุ่น 1UZ FE
- จำนวนสูบ 8 สูบตัว V
- แบบฝาสูบ DOHC 32 V.
- กระบอกสูบxช่วงชัก 87.5x82.5
- ความจุ 3968 CC.
- เจาะรูกัน Backfire ป้องกัน Air flow
- แรงม้า 280 แรงม้าที่ 5400 รอบ
- แรงบิด 41/4000
- ซื้อเครื่องมาเอง วางเครื่องโดย ครอเซอร์
- เครื่องตัวนี้อยู่ในรถ Celsior, Crown Majesta
- กรองเปลือย HKS
- เกียร์เมน 1UZ
- หม้อต้ม เมจิกแก๊ส เล็กพริกขี้หนู
- อัตราการบริโภคแก๊ส กม.ละ 2 บาทกว่าๆ
- ออโต้ลูป
- ถังดักไอน้ำมันเครื่อง
- แบตเตอร์รี่ 2 ตัว 75 แอมป์ กับ 120 แอมป์
- ชุด Ground Wire
- ถังแก๊สขนาด 75 ลิตร ของ Metal Mate

ttongtae 30-06-2009 20:44

3 ไฟล์แนบ
- ชุด Ground Wire เพื่อให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ทำงานได้สมบูรณ์ ยิ่งขึ้น (สีฟ้า)


- ถังแก๊สขนาด 75 ลิตร ของ Metal Mate ดามจุดยึดอย่างดี

ttongtae 01-07-2009 22:08

4 ไฟล์แนบ
ชุดยกช่วงล่าง
- เทินเพลา คานแข็ง
- ทำสีช่วงล่าง แทบทุกชิ้น
- เสื้อเพลาหน้า พราโด้ 78
- แหนบหน้า LN 106 ครอเซอร์
- โตงเตง 3 เหลี่ยม
- กระปุกพวงมาลัย Prado
- เบ้ารับโช๊คหน้าใหม่
- โช๊คหน้า Rancho RS 9000 X ข้างละคู่
- กันสะบัด RANCHO RS 5000 2 ตัว
- คันชักคันส่ง จะอยู่ด้านหลังเสื้อเพลาหน้า
- ท่อไอเสีย ตัดสั้น
- ทอร์คอาร์มหลัง กันเพลาพลิก
- แหนบหลัง LN 106 สูงประมาณ 4.5 นิ้ว
- สร้างจุดจับโช๊คหลังใหม่
- โช๊คหลัง Rancho RS 9000 X 4 ตัว
- เกียร์สโล 1000 ซูซูกิ
- ถังแก๊ส หัวทองแดง
- หม้อหน้า พร้อมพัดลมไฟฟ้าวางใต้ท้องรถ
- ยอย 8 ทิศ LN 106 หน้า-หลัง
- เสื้อเพลาหลัง พราโด้ 78
- อัตราทดเฟือง 10.43
- โช๊คหลัง Rancho RS 9000 X 4 ตัว

ttongtae 01-07-2009 22:15

4 ไฟล์แนบ
ฟรีล๊อค ออโตเมติกเดิมติดคานพราโด้ 78
- กระทะล้อเหล็ก Rockcrawler 16/8/-70
- ยาง Super Swamper TSL
- ขอบ 16 หน้ากว้าง 13 นิ้ว ขนาด 36 นิ้ว
- สเปเซอร์ล้อ 1.5 นิ้ว


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:28

Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels