เล็กซัส SC แรกรุ่น (SC 300, SC 400)
เรียกอีก โตโยต้า Soarer
การผลิต 1991-2000
ผู้สืบสายโลหิต เล็กซัส SC 430
ร่างกายสไตล์ (รายการ) 2-ประตู รถกูบ
เครื่องยนต์ (รายการ) 3.0 ลิตร 2JZ-จีอี I6
4.0 ลิตร 1UZ FE-V8
ส่ง (รายการ) 4-ความเร็ว อัตโนมัติ
5 ความเร็ว อัตโนมัติ (1998-00 SC 400)
5 ความเร็ว คู่มือ (1992-97 SC 300)
Wheelbase ใน 105.9 (2690 มม.)
ความยาว 191.3 ใน (4859 มม.) (1992-97)
192.5 ใน (4890 มม.) (1998-00)
ความกว้าง 70.5 ใน (1791 มม.) (1992-97)
70.9 ใน (1801 มม.) (1998-00)
ความสูง 52.4 ใน (1331 มม.) (1992-94 SC 300)
52.6 ใน (1336 มม.) (1995-97 & 1992-97 SC 300 SC 400)
53.2 ใน (1351 มม.) (1998-00 SC 300/400)
น้ำหนักเครื่องเหนี่ยวรั้ง £ 3,506 (1,590 กิโลกรัม) (1992 คู่มือ SC 300)
£ 3,505 (1,590 กิโลกรัม) (1992 SC 300 อัตโนมัติ)
£ 3,604 (1,635 กิโลกรัม) (1992 SC 400)
เชื้อเพลิงจุ 20.6 สหรัฐอเมริกาแกลลอน (78.0 ลิตร; 17.2 แทตย์มาณวิกา)
ที่เกี่ยวข้อง

ในฤดูร้อนของปี 1990 ตามที่สำเร็จการแสดงตัวครั้งแรกของ เล็กซัส ปีก่อน, โตโยต้าตัดสินใจที่จะเริ่มทำงานใน ช่วงกลางเดือนขนาด เล็กซัส รถกูบ การแข่งขันกับหรูหรา coupes ของอื่นๆเช่น marques เมอร์เบนซ์ และ อะคิวรา. ณจุดนี้โตโยต้าไม่มีของแท้ในการดำรงชีวิตที่หรูหรา coupes. ระยะแรกที่มีอยู่ญี่ปุ่นสองรุ่น โตโยต้า Soarer ถูกเลือกเพื่อใช้เป็นพื้นฐานสำหรับรถกูบใหม่เล็กซัส, มากเช่น เล็กซัส ES 250 ได้ขึ้นอยู่กับ โตโยต้า Camry. อย่างไรก็ตามการ Soarer ของออกแบบในขณะที่ถูกพิจารณา "boxy" ดูและเก่า. เนื่องจากเป็นรถกูบไปที่จะกำหนดเป้าหมายต่ออเมริกันต ลาดโครงการคือมือไปยัง Calty ออกแบบวิจัย ศูนยใน แคลิฟอร์เนีย.
อเมริกัน Calty ออกแบบทีมเอาปฏิวัติการออกแบบรถใช้ duracluster การปั้นรูปทรงร่างกายในการออกแบบและการทำงาน 3-dimensionally แทนการดั้งเดิม 2-ดีร่างวิธี. ตามที่อธิบายโดยออกแบบหัวหน้า Denis Campbell และ Erwin Lui, ผลเป็นรถที่ได้ขึ้นอยู่กับ "อารมณ์และความรู้สึก" แทนที่จะเชิงเส้นสุนทรียศาสตร์. การออกแบบของรถกูบได้รับการพิจารณาการปฏิวัติ, possessing เกือบไม่ตรงขอบและสร้างบนโค้ง. ดังนั้นมันผลิต ลากสัมประสิทธิ์ ของ เซลเซียส ง 0.31 ซึ่งพิจารณา aerodynamic มากในขณะที่. บาง critics พบออกแบบการใหม่เล็กซัสรถกูบเพื่อเป็นอื่นๆที่โดดเด่ นเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่เวลาในภายหลังที่ SC ออกแบบคือถือว่ามีอิทธิพลในการพัฒนาของยานยนต์ที่ออก แบบตาม. [1]
เล็กซัส SC 400 ตัวแทนกถามุขวิดีโอพฤษภาคม 1991 ที่ YouTube เริ่มต้น 3 นาทีในคลิปวิดีโอนี้ประกอบด้วยข้อมูลที่เก็บ footage โดย Calty สมาชิกทีมคุยวิธีรถได้รับการออกแบบ.
การ SC 400 debuted ที่ 1 มิถุนายน, 1991 ใน สหรัฐอเมริกา เป็นรุ่น 1992. การ SC 400 ของ 4.0 ลิตร V8 1UZ-FE, เดียวกันเครื่องยนต์ที่ใช้ในการ ls 400, รายงานที่มีค่าใช้จ่ายมากกว่า $ 400000000 ในการวิจัยและพัฒนา. [2] การ SC 400 เป็นเกียรติเป็น มอเตอร์แนวโน้ม นำเข้ารถของปี สำหรับ 1992. นอกจากนี้ยังทำ รถและไดรเวอร์ นิตยสารของ สิบรายการที่ดีที่สุด สำหรับ 1992 ถึง 1998.


1992-96 เล็กซัส SC 400.


เล็กซัส 1998 SC 400.


1992-96 SC ภายใน 400.
ในเดือนกรกฎาคม 1992 และ SC 300, ขนาดเล็กเครื่องกลน้องที่ SC 400 premiered ในสหรัฐอเมริกา. การ SC 300 คือพร้อมที่ 3.0 ลิตร ในบรรทัด 6-2JZ จีอี. เปรียบเทียบกับ SC 400 ขนาดเล็กที่มีเครื่องกลตัวแปรค่าใช้จ่าย $ 7040 น้อยกับคู่มือและน้อย $ 4,180 เมื่อพร้อมที่ห้าความเร็วอัตโนมัติส่ง (สหรัฐอเมริกาฐานราคาของ $ 31,650 สำหรับรุ่นปี 1992). [3] เล็กซัส 'ฉุดระบบควบคุม, TRAC เป็นที่นำเสนอเป็นตัวเลือก. [3]
แรกรุ่น SC lasted ในการผลิตจนกว่า กรกฎาคม 7, 2000, มีช่วงเกิน 9 ปี owed ในส่วนการขั้นสูงการออกแบบ. นี้คือการผลิตวงจรค่อนข้างยาวเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ ยรถของ 1990s ซึ่งถูกออกแบบใหม่ทุก 3-4 ปีเพื่อให้ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบรถยนต์. แม้แต่กับ SC ยาวของผลิตจักรเพียงเล็กน้อยภายนอกเปลี่ยนแปลง. ใหม่หางแสงสว่างและแก้ไข ผู้ทำให้เสื่อมเสีย ออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของกลางรอบรถรีเฟรช. ที่ด้านหน้า ลูกกรง ถูกเพิ่มในปี 1997, พร้อมออกแบบใหม่กันชนด้านหน้า, ด้าน skirts และแร่แผง.
ต้นฉบับ 1991-92 เครื่องยนต์ได้คะแนนที่ 225 เอชพี (168 kW) / £ 210 ฟุต (285 ม. ไม่เกี่ยวข้อง) สำหรับ 2JZ-จีอี ขับเคลื่อน SC-300 และ 250 ของ HP (186 kW) / £ 260 ฟุต (353 ไม่เกี่ยวข้องม.) สำหรับ SC 400. ในปี 1996 ที่ SC-400 ของ 1UZ FE ออกแบบเครื่องยนต์คือการปรับรุ่นเพื่อ 260 เอชพี (194 kW) จากเอชพี 250 (186 kW). ในปี 1998 ทั้ง SC 300 และ 400 ถูกปรับรุ่นกับ VVT-I และเช่นนั้นแหละที่คะแนนถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพื่อ 290 เอชพี (216 kW) / £ 300 ฟุต (407 ไม่เกี่ยวข้องม.) ของไร้เซ็นเซอร์ที่กำลังบิดสำหรับ SC 400 และ 225 เอชพี (168 kW) / £ 220 ฟุต (298 ไม่เกี่ยวข้องม.) ของไร้เซ็นเซอร์ที่กำลังบิดสำหรับ SC 300. การทดสอบบนเครื่องยนต์ใหม่ที่แสดงสำหรับการเร่งการ 0-60 SC 400 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 6.0 วินาทีและ SC 300 สำหรับการเร่งการ 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 7.5 วินาที. [4] [5] โดยตรงกันข้าม, ต้นฉบับ 1992 SC 400 มีของผู้ผลิตที่ระบุ 0-60 เวลา 6.9 วินาที fractionally นานกว่าการปรับปรุงรุ่น. [6]
แรกรุ่น SC เสนอ 4-อัตโนมัติความเร็วในการส่งทั้งในและ SC 300 SC 400 รุ่น 1998 จนกระทั่งเมื่อ SC 400 ได้รับการปรับรุ่น 5 ความเร็วอัตโนมัติ. 5 ความเร็ว คู่มือการส่ง เดิมคือเท่านั้นที่ให้บริการใน SC 300 จากการแสดงตัวครั้งแรกจนกว่า 1997. ส่วนใหญ่ของ SC 300 มีการส่งอัตโนมัติ. หาคู่มือการส่ง SC 300 จะเหลือแสนหายากและในบางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่าก ารยมกอัตโนมัติเมื่อซื้อรถใช้. การขายอัตโนมัติและการส่ง SC 300 SC 400 รุ่นรูปส่วนใหญ่รุ่นซื้อ. [6]
เล็กซัส SC 400 ที่ไม่เป็นทางการขายใน อังกฤษ Isles แต่ส่วนมากของพวกเขาตัวอย่างพบวิธีทั่ว แอตแลนติก เป็นส่วนตัวนําเข. [7]
แรกรุ่น SC coupes ถูกชุมนุมที่โตโยต้าของ Higashifuji ทางเทคนิคศูนย์ Motomatchi, ญี่ปุ่น.

สองรุ่น (SC 430)

เรียกอีก โตโยต้า Soarer (-05)
การผลิต 2001-ปัจจุบัน
บรรพบุรุษ เล็กซัส SC 400, SC 300 เล็กซัส
ร่างกายสไตล์ (รายการ) 2-ประตู รถกูบแปลง
เครื่องยนต์ (รายการ) 4.3 ลิตร 3UZ FE-V8
ส่ง (รายการ) 6-ความเร็ว อัตโนมัติ
Wheelbase 103.1 ใน (2619 มม.)
ความยาว 177.8 ใน (4516 มม.) (2002-05)
178.5 ใน (4534 มม.) (2006-ปัจจุบัน)
ความกว้าง 72.0 ใน (1829 มม.)
ความสูง 53.1 ใน (1349 มม.)
ที่เกี่ยวข้อง โตโยต้า Soarer

สองรุ่น (2002-ปัจจุบัน)

สองรุ่น (SC 430)

เรียกอีก โตโยต้า Soarer (-05)
การผลิต 2001-ปัจจุบัน
บรรพบุรุษ เล็กซัส SC 400, SC 300 เล็กซัส
ร่างกายสไตล์ (รายการ) 2-ประตู รถกูบแปลง
เครื่องยนต์ (รายการ) 4.3 ลิตร 3UZ FE-V8
ส่ง (รายการ) 6-ความเร็ว อัตโนมัติ
Wheelbase 103.1 ใน (2619 มม.)
ความยาว 177.8 ใน (4516 มม.) (2002-05)
178.5 ใน (4534 มม.) (2006-ปัจจุบัน)
ความกว้าง 72.0 ใน (1829 มม.)
ความสูง 53.1 ใน (1349 มม.)
ที่เกี่ยวข้อง โตโยต้า Soarer
เล็กซัส showcased ความใหม่กีฬาแปลงที่ SC 430 ที่ ปารีสมอเตอร์แสดง ใน 2000 และรถป้อนการผลิตในเดือนมีนาคมในปีถัดไป. เพาเวอร์คือให้โดย 4.3 ลิตร 3UZ-FE V8 เครื่องยนต์กับ ตัวแปรวาล์วเวลา (VVT-ฉัน) แต่งงานเพื่อห้าความเร็ว อัตโนมัติการส่ง. เครื่องยนต์นี้คือรุ่นเดียวกันเป็นที่พบใน UCF30 เล็กซัส ls. การ SC 430 ของ V8 สามารถผลิต 288 เอชพี (214.76 kW) และไม่เกี่ยวข้อง 430 เมตร (£ 317 ฟุต) ของไร้เซ็นเซอร์ที่กำลังบิดให้รถกูบเพื่อไปที่ 0-60 ใน 6.2 วินาที. [8]
เล็กซัสออกแบบจาก ยุโรป และ ญี่ปุ่น ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการแปลงของเงา, คล่องตัวออกแบบ. แรงบันดาลใจสำหรับรถกูบของการออกแบบมาจากตอนใต้ของฝร ั่งเศส. รถยนต์มี ซึ่งถอยได้อะลูมิเนียม hardtop ทั้งหมดหนัง-ภายในและ 18 นิ้วอะลูมิเนียมล้อ. สามารถเทคนิคที่นั่งสี่แต่เบาะหลังพื้นที่ตึงเปรี๊ยะ . มาตรฐานที่หรูหราได้แก่เอสเพรสโซต้นมันฮ่อหรือนกของต าไม้ต้นเมเปิลถากเป็น มาร์ค Levinson เบี้ยประกันภัยระบบเสียงดีวีดีตามระบบนำทางและไฟหน้า washers. ราคาเริ่มต้นฐานในสหรัฐอเมริกาคือ $ 63,825.


เล็กซัส 2001-2005 SC 430 กับปิด hardtop


ภายในของ 2008 พลอยหาดรุ่น SC 430.
ในปี 2004 เล็กซัสเปิดตัวเล็กซัส SC "พลอยหาด Edition ให้" จำกัด-ผลิตโมเดลของ SC. รุ่นพิเศษ SC ผลิตในร่วมกับพลอยหาดบริษัทและคุณสมบัติที่ไม่ซ้ำกัน ภายในสีภายนอกและชุดค่าผสมที่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ละร ุ่นปี. โมเดลสําหรับปี 2004, 2005 และ 2006, ผลิตของพลอยหาดรุ่นถูกจำกัดให้หน่วย 400. แต่ละพลอยหาดเล็กซัส SC รุ่นรถกูบแสดงพิเศษ badging (featuring ที่ โดดต้นไซเปรซ โลโก้) ที่ด้านหน้า fenders, ศูนย์คอนโซลและชั้น mats. สำหรับ 2006 รุ่นที่หลังผู้ทำให้เสื่อมเสียและแมงมุมโลหะล้อยังรว ม.
ผู้ตรวจทานจาก รถและไดรเวอร์ นิตยสาร SC praised ที่ 430 สำหรับ 2002 เป็น "ที่ไม่เหมาะสมความสำเร็จ" โทรมัน "สบายรวดเร็วราบรื่นและเงียบ" ด้วย "ทั้งหมดของ virtues คาดในขุนนางรถยนต์เปิดประทน." [9] โดยตรงกันข้าม, ส่วนบนเกียร์ โฮสต์ Jeremy Clarkson rubbished ที่ SC 430 เป็น "clunky" faulting มาตรฐานของยางการติดตั้งและให้มันเขากันเอง "ประจำปีช้อนไม้" สำหรับป้ายกำกับ 2003.
ในปี 2004 และ 2005, JD ไฟฟ้าและบริษัท 'เริ่มต้นคุณภาพสำรวจรับรางวัล SC 430 เป็นที่มีอันดับสูงสุดเบี้ยประกันภัยหรูหรารถ. [10] [11] Kelley น้ำเงินคัมภีร์ แก่ที่ SC 430 บริษัทที่ดีที่สุดที่จะถือมูลค่ารางวัลในปี 2002. [12] ในปลายปี 2005 ที่ 430 SC premiered พร้อมเล็กซัสยี่ห้อในญี่ปุ่น.
ในเดือนมิถุนายน 2004, แบบกำหนดเองที่ออกแบบ มา-แคโรไลนา Herrera SC 430 เป็นที่แสดงที่มาดริดอัตโนมัติแสดง. [13] รุ่นพิเศษใช้ 'Testa คอร์ใน Moro' ร่างกายสีกับการจับคู่ภายในหนังและการดาดพร้อมออกแบบ โลโก้บนล้อและประตู sills. [14] บรรทัดของอุปกรณ์ยังได้พัฒนารถ.
ไม่เหมือนการก่อนที่ SC 430 อย่างเป็นทางการที่นำเข้าไปยังอังกฤษ Isles; [15] SC 400 เก่ามายอดนิยมส่วนตัว เทานำเข้า. [7] ปัจจุบันผลิตของ SC 430 เกิดขึ้นที่ Kanji (Kanto Jidosha) ประกอบเว็บไซต์ในญี่ปุ่น. [16] ปัจจุบันที่ 430 SC คือขายในอเมริกาเหนือยุโรปโอเชียเนียและเอเชีย.
[แก้ไข]

มาลองดูกระบะวาง Uz กันบ้างดีกว่า พักเก่งหรูไว้สักครู่

รุ่นแรก

การผลิต 2000-2006
สไตล์ 2-ประตู ปกติแท็กซี่
4 ประตู ลูกเรือแท็กซี่
เครื่องยนต์ (รายการ) 3.4 ลิตร 5VZ FE-V6 190 แรงม้า (2000-2004)
4.0 ลิตร 1GR FE-V6 236 แรงม้า (2005-2006)
4.7 ลิตร 2UZ FE-V8 245 แรงม้า (2000-2004), 271 แรงม้า (2005-2006)
ส่งกำลัง 5 เ กียรMT(2000-2004)
4 AUTO (2000-2004)
6 เ กียรMT(2005-2006)
5 AUTO2005-2006)
Wheelbase 128.3 ใน (3259 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่: 140.5 ใน (3569 มม.)
ความยาว 2000-04: 217.5 ใน (5525 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่: 230.1 ใน (5845 มม.)
2005-06: 218.3 ใน (5545 มม.)
ความกว้าง 75.2 ใน (1910 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่และจำกัด: 79.3 ใน (2014 มม.)
จำกัดดับเบิลแท็กซี่: 79.7 ใน (2024 มม.)
ความสูง SR5 V8 4WD: 71.1 ใน (1806 มม.)
2000-04 SR5 เข้าถึงแท็กซี่ 4WD: 71.5 ใน (1816 มม.)
SR5 Stepside เข้าถึงแท็กซี่ 4WD: 71.3 ใน (1811 มม.)
จำกัด 4WD: 71.7 ใน (1821 มม.)
2WD: 70.5 ใน (1791 มม.)
SR5 เข้าถึงแท็กซี่ 2WD: 70.7 ใน (1796 มม.)
จำกัด 2WD: 70.9 ใน (1801 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่ 4WD: 74.4 ใน (1890 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่จำกัด 4WD: 75.0 ใน (1905 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่จำกัด 2WD: 74.6 ใน (1895 มม.)
ดับเบิลแท็กซี่ 2WD: 74.0 ใน (1880 มม.)
น้ำหนักเครื่องเหนี่ยวรั้ง 3935-4215 ปอนต์ (1785-1912 กก.)

ทุ่งทุนดราโตโยต้า 2000-2002 ขยายแท็กซี่ Sr5

ทุ่งทุนดราโตโยต้า

ทุ่งทุนดราโตโยต้า 2003-2006 ปกติ

โตโยต้า-1-ทุ่งทุนดรา-DoubleCab-SR5

ผมคัดลอกข้อมูลมาจาก SIAMCAR.COM นะครับ
BMW E34 + 1UZ-VVTi

พลัง V8 3,968 CC ในระหัว 1UZ-FE จากค่าย TOYOTA นั้นจัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม ของเหล่าวัยแรงบ้านเราจัดหามาสับเปลี่ยนหัวใจข้ามค่า ยไม่น้อยหน้า BLOCK อื่น เพราะนอกจากจะมีเรี่ยว แรงและบุคลิกในการไต่เพดานความเร็วที่ดีถือว่าถูกใจใ น STYLE BIG BLOCK อันเหมาะสมกับ ยนตรกรรมของค่ายยุโรป แล้วก็ยังมีราคาค่าตัวอยู่ในเกณฑ์ไม่แพงจนเกินไปเหมอ ืน BLOCK สุด HIT ทั้ง หลายอีกด้วย และเมื่อถึงการพัฒนาสมรรถนะกันใหม่หมดแทบทั้งตัวของค ่าย TOYOTA ที่บรรจุวิทยาการ ของฝาสูบอัจฉริยะอย่างระบบ VVT_i พร้อมเติมระบบถ่ายทอดกำลังให้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ ว เห็นทีอย่างนี้ขุมพลัง 1UZ-FE คงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
รูปแบบของการวางเครื่องข้ามตระกูลของ BMW ในรหัส E34 ที่ไปยกเอา 1UZ-VVTi มาใช้แทนขุมพลังเดิม โดยทั้งหมดของการดัดแปลง/โยกย้ายหัวใจใหม่นี้เป็นฝีม ือของสำนักวิชัยการช่างที่เราคุ้นเคยกันดี ก่อนอื่น เรามาว่ากันถึงรายละเอียดของตัวเครื่อง 1UZ-VVTi รุ่นล่านี้ ก็เป็นขุมพลังที่แต่เดิมจัดวางอยู่ใน TOYOTA MAJESTA ปี 2000 ที่เรี่ยวแรงบรรจุมาให้เสร็จสรรพมากมาย ขนาด 280 PS. กับแรงบิดมหาศาลกว่า 41 กิโลกรัม/เมตร พร้อมระบบถ่ายกำลัง AUTOMATIC 5 SPEED แบบคคันเกียร์ขึ้นบันไดตาม STYLE รถหรูชั้นดีอีกด้วย ซึ่งจุดหลักๆ ของการจัดวางใน BODY E34 ก็มีดังต่อไปนี้

1. สร้างจุดยึดเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ 2 จุด โดยต้องการมี MARK ตำแหน่งของ BLOCK 1UZ ให้อยู่ในมิติเหมาะ สมทั้งในเรื่องของ CENTER/ BALANCE และองศาของ เพลากลางต้องได้ระยาบเป็นเส้นตรงไม่กระดกหรือ แอ่นลงจนเกิดปัญหา รวมไปถึงเรื่องมุมของแคร้งก์ น้ำมัน เครื่องที่ต้องอยู่ในแนวเดียวกับคานหน้า อีกทั้ง ยังคงต้องคำนึงถึงการหลบตำแหน่งของเฮดเดอร์ไอเสีย ที่จะต้องไม่ไปข้องแวะกับแร็คหวงมาลัยอันเป็นต้นตอ ของความเสียหายตามมาภายหลังอีกด้วย
2. ทางด้านชุดเกียร์ AUTO 5 SPEED นั้นจะถูกยึด ติดกับ BODY โดยการสร้างเป็นหน้าแปลนจาก เหล็กกล้าชั้นดี ต่อยึดมาจากจุดยึดเดิมเข้ามาหา ตัวเกียร์ของ 1UZ พร้อมดัดแปลงราวเกียร์กันใหม่ เพื่อที่จะสามารถนำเอาแป้นเกียร์แบบขั้นบันไดไป ยึดห้องโดยสารได้เฉกเช่นเดิม ตรงจุดของการ แปลงราวเกียร์นี้จะต้องได้มิติในการสั่งการเหมือน ของเดิม หากไม่แล้วเกิดปัญหาตรงจุดนี้แน่ๆ จากนั้นนำเอาเพลากลางของ 1UZ มาตัดต่อเข้ากับ ของเดิม พร้อม BALANCE กันใหม่ให้ได้สมดุลย์ ด้วยเทคนิคพิเศษเพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้ อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว3. ระบบระบายความร้อนของจุมพลังมีการปรับปรุง กันใหม่ใช้เป็นหม้อน้ำลูกใหม่ มีขนาดใหญ่กว่าเดิม พร้อมติดตั้งพัดลมหม้อน้ำแบบไฮดรอลิกที่มีจังหวะ การทำงานแบบ VARIABLE หรือปรับเปลี่ยนความ แรงในการระบายความร้อนได้อย่างอัตโนมัติตาม อุณหภูมิของหม้อน้ำทำให้นอกจากจะมีความเงียบ ชนิดแบบจะไม่ได้ยินเสียงพัดลมปั่นอากาศให้ทำ ลายโสตประสามเหมือนทั่วๆ ไป แล้วก็ยังคุมอุณหภูมิ ของเครื่องยนต์ให้คงที่ได้เป็นอย่างดีไม่มีวูบวาบให้ เสียวสันหลังแต่ประการใด ส่วนระบบแอร์ที่ใช้ใน E34 คันนี้ เป็นแบบตัด/ต่อระหว่างตู้แอร์เดิม ให้ ทำงานร่วมกับคอมแอร์ของ 1UZ ซึ่งให้ความเย็นฉ่ำ เหนือชั้นกว่า ดังนั้นจึงต้องมีการเดินท่อแอร์กันใหม่ ตามทิศทางอันแตกต่างจากเดิม
4. การจ่ายน้ำมันเข้าสู่ขุมพลังนั้นก็ได้ยกกันมาจาก MAJESTIC ทั้งระบบ ไล่มาตั้งแต่ชุด SLOW ปั๊มติ๊กที่ต่อพ่วงเข้ากับ ECU และปั๊มติ๊กแบบใหม่ ไฮเทค ซึ่งมีความสามารถกำหนดค่าแรงดันในการ ป้อนน้ำมันเข้าสู่เครื่องยนต์ได้แบบแปรผันตาม ความต้องการในขณะนั้น โดยอัตโนมัติ ทำให้นอก จากจะเกิดความประหยัดกันอย่างชัดเจน ชนิดใช้ งานในเมืองจะบริโภคน้ำมันอยู่ราวๆ 8-10 กิโลเมตร/ลิตร แล้วยังป้องกันการเกิดฟองอากาศ ในขณะป้อนน้ำมัน เพื่อการทำงานสมบูรณ์แบบ
5. จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนของการ WIRING สายที่เป็น แบบ FULL SYSTEM ตามความถนัดของสำนักฯ ซึ่ง มีจุดหลักๆ อยู่คือต้องเดินสายไฟ/ สัญยาณ ให้ครบ ทั้งระบบ (เครื่อง+เกียร์) มาเข้ากล่อง ECUและกล่อง ABS เพื่อความสมบุรณ์ของชุดสายไฟ ให้เหมือนที่เคยเป็นอยู่ใน MAJESTA กันแล้ว จึงจำเป็นที่จะดัดแปลงให้หน้าปัทม์ของ BMW แสดงผลของระบบเกียร์ให้คนขับรู้ถึงการทำงาน ของระบบเกียร์ออโต้นี้ได้ครบทุก FUNCTION อาทิ ตำแหน่งเกียร์ที่ใช้ในขณะนั้น ว่าคันเกียร์ อยู่ใน ตำแหน่งใด อย่างเกียร์ 2 หรือ เกียร์ 4 รวมไปถึง MODE รูปแบบของจังหวะการปรับ เปลี่ยนเกียร์ ว่าคนขับเลือก MODE POWER หรือ SNOW โดยทั้งหมดจะต้องมีการ LINK เข้ากล่อง ECU ทุก FUNCTION โดยถ้าหากไม่มี การไล่ระบบให้อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องแล้ว รับรอง ได้ว่าระบบเกียร์ 5 สปีด อัจฉริยะนี้ก็กลายเป็น เพียงชุดเกียร์บื้อๆ ซึ่งจะเปลี่ยนจังหวะได้แค่ 3 สปีด เท่านั้น แถมยังทำให้เกียร์พังอย่างง่ายดาย อีกด้วย
และสำหรับสมรรถนะหลังการจัดวางขุมพลังกัน ใหม่หมดนั้น เท่าที่สัมผัสสามารถสรุปได้ว่า RESPONSE จาก BLOCK 1 UZ3FE VVTi ในเรื่องของอัตราเร่งทั้งตีนต้นและความเร็วปลาย ในระดับหวือหวากว่าเดิมชนิดคนขับขยับคันเร่ง จมอย่างพลันเมื่อใด บรรดาตัวโหดอด HIT 6 เม็ด อัดเทอร์โบมีการเหวอกับแรงกระชากของ BODY E34 คันนี้แน่นอน สนใจติดต่อสอบถามไปได้ที่ วิชัยการช่าง TEL. 01-6372181 ได้เลย...

หม้อน้ำขนาดใหญ่พร้อมพัดลมแบบไฮดรอลิก ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติการทำงานอันเงียบกริบ ไม่รำคาญแถมยังหล่อเย็นขุมพลังได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

ชุดควบคุมการทำงานของพัดลมหม้อน้ำที่สามารถ ปรับเปลี่ยนจังหวะในการเป่าระบายความร้อน ตามอุณหภูมิได้โดยอัตโนมัติ

1UZ-FE VVT3i ตัวล่าสุดจาก MAJESTA ที่นอก จากจะสร้างแรงบิดมหาศาลจากบล็อค V8 มากถึง 40 KG/M อันเพียงพอต่อการกระชาก BODY ของ E34 ให้ปลิวได้อย่างสบายแล้ว ยังมีอัตรา บริโภคน้ำมันที่น้อยเพียง 4-10 กม. ซึ่งสอดคล้อง กับสภาวะเสรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างดี

กล่อง Ecu + กล่อง Abs ที่ต้องมีการไล่ระบบ สายไฟกันใหม่ครบวงจรแบบถูกต้องตามคู่มือ และ Shop Manual ทุกประการจะต่อผิดแบบ ไม่ได้ซึ่งถูกจัดวางลงในตำแหน่งของกล่อง Ecu เดิม

แป้นเกียร์ Auto 5 Speed แบบขั้นบันได Style รถหรูตระกูลดีพร้อมปุ่มเลือก Mode เกียร์ (power/ Snow) ถูกติดตั้งบริเวณแป้น เกียร์เดิมติดรถ

นอกจากหน้าปัทม์ของ Bmw เดิมจะแสดงผลได้ ครบทุก Function แล้ว ก็ยังมีการดัดแปลงให้ สามารถบอกการทำงานของระบบเกียร์ ออโต้ 5 สปีด ให้คนขับได้รับรู้ได้อีกด้วย นับเป็นลูกเล่น ในการข้ามพันธุ์อันสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

ผมได้ความรู้มากเลยครับขอขอบคูณครับบบบบบบบบบบบบ

อนาคต
ผมจะหันมาเล่นรุ่นนี้นี่แหละครับ

คัดลอกมาจากคอลัมน์ Style Up / Xo มิย 48
เรื่อง พงศ์พล จันทรัคคะ
ภาพ สุวัฒน์ ทับพันธ์ , ณรงค์ หฤษฎีกุล

Sports / Luxury Car Lexus Sc400 (uzz30) Us Spec 1uz-fe + Hartge 19”
เครื่องเสียง…กว่าล้าน!!!ไม่ต้องตกใจ มันเป็นเรื่องจริงครับ... สำหรับเครื่องเสียงทั้งหมดพร้อมค่าแรง (ที่แพงมาก...) สำหรับการติดตั้งแล้ว กว่า 1,000,000 บาท++ ถูกเนรมิตไว้อย่างสวยงาม เก็บทุกรายละเอียด จากร้านเครื่องเสียงในอเมริกาชื่อว่า Mobile Fantasy & 818 Motoring California Usa ซึ่งรถคันนี้ก็เคยไปโชว์ตัวตามงานต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง เอาเป็นว่าไปดูรายละเอียดของตกแต่งที่อยู่ใน Lexus Sc400 (uzz30) Us Spec ปี 1992 ว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่ขอขอกไว้ก่อนว่าเยอะมาก.

ภายนอกสแตนดาร์ด
ในส่วนของตัวถังรอบนอก ของ LEXUS SC400 ก็เหมือนกับ SOARER เจอร์เนอรั่นที่ 3 ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกัน แต่แตกหน่อออกมาเพื่อความหรูหราสำหรับการจำหน่ายที่อ เมริกาในชื่อว่า LEXUS พวงมาลัยซ้าย ส่วนเครื่องยนต์ของตัว SOARER นั้นค่อนข้างมีให้เลือกเยอะกว่า ทั้งตระกูล JZ และ UZ มาต่อกันที่ภายนอกยังคงรักษาสภาพเดิมจากโรงงาน ด้วยสีแบบ DARK GREEN METALLIC บอดี้นี้ได้ถูกดีไซน์รูปร่างหน้าตาใน CALIFORNIA เพื่อทำตลาดในแถบ NORTH AMERICAN จึงออกมาเป็น SPORTS LUXURY CAR อย่างที่เห็น พร้อมกับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.31 Cd ไฟหน้าเรียวยาว โคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ นอกจากนั้นได้เปลี่ยนชุดไฟหน้าเป็นแบบ HID ZENON พร้อมไฟตัดหมอกเดิมที่มุมกันชน ส่วนด้านหลังเพิ่มเติมความลงตัวด้วยสปอยเลอร์หลังพร้ อมไฟเบรกดวงที่สาม

ภายในเพิ่มความสุนทรีย์
ด้วยเครื่องเสียง Multi-media จากอเมริกาภายในยังคงสภาพเดิม ด้วยเบาะหนังแท้ โทนสีน้ำตาลอ่อนสลับน้ำตาลเข้ม เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พวงมาลัยแบบสี่ก้านพร้อม Srs Airbag ,ระบบ Cruise Control และโทรศัพท์ เคลื่อนที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนสำคัญต่อมาที่หลายคนอยากจะทราบ นั่นก็คือเครื่องเสียงที่ติดตั้งอยู่ภายในนั้นทำอะไร กันบ้างถึงได้มีราคาสูงขนาดนี้ แต่ที่แน่ๆ ราคาค่าแรงในติดตั้งและออกแบบ สำหรับในอเมริกานั้น หลายท่านคงจะรู้ว่าแพงเอามากกกกกก..... เบ็ดเสร็จรวมราคาเครื่องเสียงทั้งหมด บวกกับค่าแรงแล้ว ต้องกำเงินประมาณหลักล้านต้นๆ ไปจ่ายให้นั่นแหละครับ...ลองดูไดอะแกรมเครื่องเสียงท ี่เราสร้างขึ้นมาให้ก็แล้วกัน
ระบบเครื่องเสียงเริ่มจากฟร้อนท์ Addzestmax-625 , Equalizer จาก Audio Control Eqt , Epicenter Digital Bass Maximizer จาก Audio Control ,เพาวเวอร์แอมป์ T600.4pg (tantrum 4ch) 600 Watt , ลำโพงเสียงกลาง-แหลมจาก Focal Polykevlar Component 5” 2 คู่ , เพาวเวอร์แอมป์ T1200.1pg (tantrum 4ch) 1400 Watt 3 ตัว ,ซับวูฟเฟอร์ 3 ตัว ขนาด 12” ของ Jl Audio รุ่น Jl12w7 ,จอมอนิเตอร์ 3 ตัว จาก Visonik 6.2” 2 ตัว ติดตั้งอยู่หลังเบาะคู่หน้า และขนาด 5.6 นิ้ว อีก 1 ตัว บริเวณคอนโซลฝั่งผู้โดยสาร , เครื่องเล่น Play Station 2 จาก Sony , Digital Camera 4 ตัว ติดตั้งอยู่ในห้องโดยสาร 2 ตัว และห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง 2 ตัว ,ตัวเก็บประจุไฟของ Phoenix Gold ขนาด 1.5 ล้านไมโครฟารัด และชุดควบคุมระบบเครื่องเสียงทั้งหมด (switching Box) บริเวณคอนโซลกลาง พร้อมกับตัวกันขโมย Security Display Module ของ Alpine รุ่น Sec-8349 นอกจากนั้นแล้วยังติดแผ่นกันเสียงรบกวนจากภายนอก ทั้งหมดเป็นฝีมือการติดตั้งโดย Mobile Fantasy & 818 Motoring Usaนอกจากนั้นภายในยังมีเกจ์วัดระบบต่างๆ อีกเพียบ เริ่มจาก เกจ์วัด 5 ตัวของ Pro สำหรับวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ,วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง ,วัดกำลังไฟ ,วัดอุณหภูมิน้ำและวัด Vaccum ส่วนเกจ์วัด 0-60 ,1/4 Mile Et ,1/4 Mile Speed ,ระยะเบรก 60-0 ,วัดแรงม้าและอื่นๆ เป็นหน้าที่ของ G-tech Performance Meter / Pro และบรรดาเกจ์วัดของ Defi รุ่น Bf ที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลางอีก 4 ตัว คือ วัดรอบเครื่องยนต์ที่ลากรอบยัน Red Line ได้สูงสุด 11,000 รอบ/นาที พร้อมชิฟไลท์ ,วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง ,วัดอุณหภูมิไอเสีย และวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ยังไม่หมดครับ... ยังมี Camp วัดระบบต่างๆ ของ Hks ที่มีดีไซน์การแสดงผลไว้ในกระจกมองหลัง ส่วนตัว Remote Start Controller สามารถตั้งเวลาการ สตาร์ทเครื่องยนต์ตามวัน / เดือน /ปี ที่เรา Memory ไว้ บริเวณคอนโซลกลางและสวิทช์ Engine Start จาก Ignited

1UZ-FE กับของปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพ
ในส่วนเครื่องยนต์ของ LEXUS SC400 เป็นบล็อกขนาด 4.0 ลิตร รหัส 1UZ-FE V8 DOHC 32 วาล์ว 3,968 ซี.ซี. มีขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ 87.5 x 82.5 มม. 260 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36 กก.-ม. ที่ 4,600 รอบ/นาที กำลังอัด 10.0 พร้อมเกียร์ออโตเมตริก 4 สปีด อัตราทดเฟืองท้าย 3.916 พร้อมกับการโมดิฟายแบบพอสมควรด้วย ชุด GROUND WIRE ของ HURRICANCE และ STABILIZER จาก PIVOT ส่วนตัวเรียงโมเลกุลน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นของ TOP FUEL รุ่น POWER NEO 1000 พร้อมกับตัวปรับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจาก OBX R กรองอากาศแบบเปลือยจาก H&N และหม้อพักไอเสียแบบคู่รุ่น POWER 1 นอกจากนั้นยังมีเกจ์วัด VOLTS ของ AUTO GAGE แผ่นบังลมหม้อน้ำคาร์บอนไฟเบอร์จาก PREFERRED IMAGE และแบตเตอรี่แบบแห้งจาก OPTIMA
ช่วงล่าง TEIN HA + HARTGE 19”
ระบบรองรับน้ำหนัก รวมทั้งการทำงานของระบบช่วงล่างถูกออกแบบมาในลักษณะป ีกนกคู่ คอยล์สปริง โช้คอัพ และเหล็กกันโคลงในด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระ เซมิ เทรลลิ่ง อาร์ม คอยล์ สปริง โช้คอัพ และเหล็กกันโคลง พร้อมระบบเบรกแบบ ABS จานดิสก์เบรกเดิมขนาด 11.7 นิ้ว และ 12.1 นิ้ว แบบมีรูระบายความร้อน แต่ปัจจุบันเปลี่ยนตัวจานดิสก์เบรกมาใช้ของ BREMBO พร้อมกับโช้คอัพแบบสตรัทปรับเกลียวจาก TEIN HA และค้ำโช้คหน้าของ CUSCO พร้อมล้อแม็กขนาด 19 x 8 และ 19 x 9 นิ้ว จาก HARTGE รุ่น CLASSIC และทำการแก้ไขรูน็อตล้อแม็กใหม่โดยร้าน F1 MOTORSPORT ซึ่งเป็นร้านทำช่วงล่างของคนไทยในอเมริกา พร้อมกับยางของ PIRELLI P7000 ขนาด 235/35ZR19 และ 265/30 ZR19

เข้าสู่หน้าฝน ฝนตกถนนลื่น หมั่นคอยดูแลและเอาใจใส่ระบบการทำงานของใบปัดน้ำฝน ไฟหน้า ไฟท้าย รวมทั้งระบบช่วงล่าง เบรกและยาง ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ก็แล้วกัน ปลอดภัยไว้ก่อนนะครับ..

แหล่มเลยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันนี้มาดู 1uz Fe รูป .... กันดีกว่า

วันนี้มาดู 1uz Fe รูป .... กันดีกว่า 2

วันนี้มาดู 1uz Fe รูป .... กันดีกว่า 3

รบกวนถามทุกท่านนิดนะครับผมมีข้อสงสัยดังนี้
1.เครื่อง 1uz Fe ของท่านที่วางมาแล้วใช้แบตเตอรีกี่แอมป์ครับ แล้วลูกหนึ่งราคาประมาณเท่าไร
2.ค่า ยกรถแบบสไล (คือบรรทุกรถใสมาบนรถอีกคัน)เขาคิดค่าบริการกันยังไง
3.ตอนนี้ราคายางรถเก่ง 205/65/15 ราคาเส้นละประมาณเท่าไรครับ
4.ตอนที่ซื้อเครืองมันมีอุปกรณ์อะไรที่มันจำเป็นและต ้องซื้อติดมาบ้าง
5.สรุปแล้วซื้อเครื่องและอุปกรณ์หมดงบกันเท่าไรครับ

รบกวนตอบหน่อยนะครับ

ข้อ1 2 3ไม่ทราบครับ
ข้อ4 ที่ประสบกับตัวเอง แบบว่าทางร้านที่เชียงกงเค้าจัดไวให้แล้วครับอุปกรณ์ ส่วนใหญ่ที่จำเป็นเค้าจะเอาให้เราหมดเช่น กล่องecu airflow ท่อไอดี เฮดไอเสีย กรองอากาศ ด้ามเกียร์ ที่สำคัญต้องให้เค้าติดเครื่องให้เราดูด้วยนะครับ แล้วเราก็ลองเช็คอุปกรณ์รอบๆเครื่องเลยว่ามีอะไรเสีย หายหรือเปล่าทางร้านเค้าจะเปลี่ยนให้เราเลยครับ เงินอยู่ในกระเป๋าเรายังเป็นพระเจ้าครับ
5. เครื่องที่ผมซื้อมาประมาณ19000 อุปกรณ์พวกสายพานกับลูกรอก ฯลฯ อีก12000 ที่เหลือก็ตามเก็บอีกนิดหน่อยครับ

ปล.อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมนะครับ:cool:

ขอบคุณมากนะครับ รอคำตอบจากสมาชิกท่านอืนอยู่นะครับ

copy from teentoa web
ไอ้ผาน....มีรักใหม่
เล่ากันด้วยภาพ

เริ่มด้วย รื้อ. ถอด.. หั่น...!!!!!!!!!!

ฮึ้บๆ...เอ้า ออกมาสิ ต้องถอดหน้ากากออกก่อน เครื่องมานหญ่าย

สุดยอดไปเลย

หลุดแว้ว..ว...ว

เอ๊ๆๆๆเหนว่าหน้า ฮีโร่มันผุๆ อยู่นา FACE OFF hero to hiluxม้ากระโดด ดีมั๊ยนะ

[quote=keaw3000cc;315954]ข้อ1 2 3ไม่ทราบครับ
ข้อ4 ที่ประสบกับตัวเอง แบบว่าทางร้านที่เชียงกงเค้าจัดไวให้แล้วครับอุปกรณ์ ส่วนใหญ่ที่จำเป็นเค้าจะเอาให้เราหมดเช่น กล่องecu airflow ท่อไอดี เฮดไอเสีย กรองอากาศ ด้ามเกียร์ ที่สำคัญต้องให้เค้าติดเครื่องให้เราดูด้วยนะครับ แล้วเราก็ลองเช็คอุปกรณ์รอบๆเครื่องเลยว่ามีอะไรเสีย หายหรือเปล่าทางร้านเค้าจะเปลี่ยนให้เราเลยครับ เงินอยู่ในกระเป๋าเรายังเป็นพระเจ้าครับ
5. เครื่องที่ผมซื้อมาประมาณ19000 อุปกรณ์พวกสายพานกับลูกรอก ฯลฯ อีก12000 ที่เหลือก็ตามเก็บอีกนิดหน่อยครับ

ปล.อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมนะครับ:cool:[/QUOT

//เครื่องปีไหนครับ ?

เอาล่ะ ต่อไปยกเครื่องออก อิอิv8มาแว้ว

ใส่หัวหมูเข้าไป พรุ่งนี้น่าจะได้ยกทาบแล้วล่ะ

[quote=Chatupong;320024]เป็นรุ่นฝาครอบเต็มครับ น่าจะปี1996