อุปกรณ์ภายนอก
- ซื้อหัววีทาร่า ทั้งหัวมาครอบ คัสซีซูซูกิ
- กันชนหน้า hyper Shop ถ.ศรีนครินทร์
- มุมมองด้านข้าง
- กระจกมองด้านข้างรถ Isuzu Trooper
- สน็อคเกิ้ล Safari
- สคูป บนฝากระโปรง
- บันไดเกือกม้า Man
- กระบะหลัง โตโยต้า Tiger
- กระจกส่องหลัง
- กันชนหลัง กระบะทั่วไป (รังสิต)

อุปกรณ์ภายใน
- ภายในทำใหม่เกือบทั้งหมด
- คอนโซลหน้า วีทาร่าทำลายไม้ใหม่
- เบาะ + แผงข้างประตู หุ้มหนังใหม่สีครีม
- พวงมาลัย วีทาร่า (ตัวนอก)
- แลน์มิเตอร์ โตโยต้าเซิพ
- เครื่องฟอกอากาศ บนเพดานของจี๊ป
- เกียร์ ออโต้ 4 AT
- วิทยุ pioneer
- Amp Kenwood
- ลำโพง pioneer
- เบาะหลัง ของโตโยต้า ไมตี้ หุ้มหนังใหม่
- เบาะหน้า ของวีทาร่า หุ้มหนังใหม่เช่นกัน

2003 Lexus GS 430 - Specs
Engine 2003 Lexus GS 430
Designation 1UZ-FE
Type Four Cam, 32 valve V8 with VVT-i
Displacement 4.3 liter 4,293 cc (261.9 cu. in.)
Bore x Stroke (mm / in.) 91 x 82.5 / 3.6 x 3.3
Compression Ratio 10.5:1
Horsepower (SAE) 300hp @ 5,600 rpm
Torque (SAE) 325lb-ft @ 3,400 rpm
Oil Capacity (liters / quarts, without oil filter) 6.0 L / 6.3 qts.
Oil Type SH 5W-30
Cooling System Capacity (liters / qts.) 11.0 L / 11.6 qt.
Emission Rating ULEV
Drivetrain 2003 Lexus GS 430
Layout Front engine, rear wheel drive (FR)
Transmission 5-speed electronically controlled automatic with intelligence (ECT-i), grade logic, and Power, Normal and Snow modes
Transmission Type A650E
Gear ratios ( :1)
1st 3.357
2nd 2.180
3rd 1.424
4th 1.000
5th 0.753
Reverse 3.431
Differential Ratio 3.266

Suspension & Steering 2003 Lexus GS 430
Suspension Type Four-wheel independent double wishbone suspension
Suspension Front Coil springs, gas-filled shock absorbers with rebound springs, high-mount upper arm, stabilizer bar
Rear Coil springs, gas-filled shock absorbers, stabilizer bar, strut rod
Steering Type Vehicle-speed sensing progressive power rack and pinion
Overall Steering Ratio 17.2
Turning Circle (ft.) 37.1
Turns, Lock to Lock 3.38

Brakes 2003 Lexus GS 430
Type Four-wheel power assisted disc brakes, ventilated front, solid rear, with Anti-lock Braking System (ABS) and Brake Assist (BA)
Disc Diameter (inches) Front 11.57
Rear 12.01
Anti-lock Braking System 4 sensor, 4 channel (integrated with VSC)
Parking Brake Drum

Wheels and Tires 2003 Lexus GS 430
Wheels Wheel size 16x7.5 JJ
Optional wheel size 17x8.0 JJ
Type and Material Aluminum alloy
Optional Wheel Type Chrome
Tires Tire size (summer tire) 225/55R16 V-rated Michelin Pilot HX MXM
All-Season optional tire 225/55R16 V-rated Goodyear Eagle GT+4
Tire size (optional) 235/45R17 Z-rated Bridgestone Potenza RE 030
Spare
Full-size alloy wheel with appropriate tire

Electrical 2003 Lexus GS 430
Alternator (ampere) 80
Battery capacity (ampere hour) 55
Starter (kW) 1.4

Exterior Dimensions (in.) 2003 Lexus GS 430
Wheelbase 110.2
Overall length 189.2
Overall width 70.9
Overall height (Unloaded) 56.7
Track width Front 60.4
Rear 59.4
Minimum ground clearance 5.3
Coefficient of Drag (Cd) 0.29


Vehicle Weight 2003 Lexus GS 430
Curb Weight (lbs.) 3,715
Shipping Weight (lbs.) 3,605
GVWR (lbs.) 4,716
Weight Distribution, F / R (%) 53.7 / 46.3

EPA Fuel Economy (MPG)2003 Lexus GS 430
Mileage 18 / 23
Fuel Requirement (min.) 91 Octane (R+M) € 2, Premium Unleaded
Tank Capacity (liters / gal.) 75 L / 19.8 gal.

Performance (TMC figures) 2003 Lexus GS 430
0-60 mph acceleration, seconds 5.8 - TMC figure
1/4 mile acceleration, seconds
14.3 - TMC figure
Top track speed, mph 149 - electronically limited
Redline/maximum rpm 6,350

First Generation Lexus LS400 Information
1990-1994

Performance
Vehicle Model Code: UCF10
Engine Type: 4.0 Liter 32-valve V8
Engine Model: 1UZ-FE
Horsepower: 250 hp @ 5600 rpm
Torque: 260 ft-lbs. @ 4400 rpm
Drive Type: RWD
Transmission: 4-Speed Electronically controlled automatic with intelligence
Turning Diameter: 36.1 ft curb to curb
0-60: 8.2 (90-92), 7.9 (93-94) seconds
Max Speed: 149.1 mph

Exterior Dimensions
Length: 196.7 inches
Width: 71.7 inches
Height: 55.3 inches
Wheel Base: 110.8 inches
Curb Weight: 3759 lbs.

Fuel
Type: Premium Unleaded (91 Octane or higher)
Tank Size: 22.5 Gallons
Miles Per Gallon: EPA 18 city & 23 highway

Standard Equipment
4.0 Liter 32-Valve V8 Engine with Electronic Fuel Injection
4-Speed Electronically controlled automatic transmission
Speed-sensing progressive power rack and pinion steering
Anti-Lock brake system (ABS)
4-wheel double wishbone suspension
15" unidirectional alloy wheels
Fog lamps
Fully concealed wipers
Dual heated power mirrors
Electronic analog instrumentation with image reflected warning lamps
Power tilt steering column with manual telescopic adjustment
Cruise control system
7-speaker high output audio system with bi-amplified subwoofer
Automatic climate control air conditioning system with rear heating and cooling ventilation
One-touch push button open cup holder in center console box
Genuine California walnut center console and door armrest trim
Adjustable front seat belt shoulder anchorage
Power windows with driver's side one-touch down function
Power door locks with driver's side two-turn unlock feature
Liquid crystal non-glare day/night inner rear view mirror
Light auto turn-off system
Illuminated entry system 7.5 seconds and fade-out
Driver side airbag (SRS)
Vehicle and audio theft deterrent systems
Multi-adjustable power front seats with driver's side lumbar support
Adjustable front and rear headrests
Power antenna
Remote electronic trunk lid and fuel filter door releases
Four-Spoke leather-wrapped steering wheel
Digital clock
Dual illuminated visor vanity mirrors
Emergency tool and first aid kit

แอบมาอ่านได้ข้อมูลเยอะ ดี ....

เยี่ยม
 

ข้อมูลดีมากๆเลยครับ

อ่านแล้ว อยากว่า Uz บ้างจัง ...

อันนี้วางกับรถ Jaguar Seireis III มันลงตัวจริงๆ คุมกับค่าเหนื่อย
แนบไฟล์ 29689

Isuzu Trooper as linkk below

http://www.weekendhobby.com/board/tr...age=2&id=23467

Jaguar 1UZ FE
 

อันนี้วางกับรถ Jaguar Seireis III มันลงตัวจริงๆ คุมกับค่าเหนื่อย
แนบไฟล์ 29689

Isuzu Trooper as linkk below

http://www.weekendhobby.com/board/tr...age=2&id=23467

OFF ROAD HARDCORE BY OUN 4X4 MODIF
เห็นหน้าตา อายุอานามขนาดนี้ อย่าได้คิดวิ่งเข้าไปกระเซ้าท้าดวลทีเดียว เพราะที่เห็นทั้งหมดนี้ก็เหลือ เพียงหัวเก๋งก็ว่าได้ที่คงวัยชรา นอกนั้นแจ่มแจ๋วไปด้วยพละกำลัง ผลงานปลุกชีพสำหรับ TOYOTA HILUX RN 20 หรือรุ่นที่สมัยนั้นเรียกกันว่า รุ่นลายการบินไทย ต้องยกให้ อ้วน 4x4 โมดิฟาย
หัวใจดวงโต 1UZ-FE ชนเกียร์สโลว์เซิร์ฟ

ถ้าจะให้เอาเครื่องเดิมเบนซิน 4 สูบ รหัส 12r มาฉุดขนาดร่างใหม่ที่ใหญ่บึ้กให้วิ่งปลิว คงเป็นไปได้ยากแน่ งานนี้เลยเล่นเครื่องใหญ่ แบบบิ๊กบล็อกกันเลย ดังนั้นขุมพลังขนาด 4,000 C.c. V8 ภายใต้รหัสเครื่องยนต์ 1uz-fe ที่มีพละกำลังแบบเหลือๆ ของค่ายเดียวกัน คือตัวการใหม่ที่มาเป็นตัวสร้างพลัง ชนท้ายเครื่องด้วยชุดเกียร์ลูกผสมระหว่างเกียร์เมนขอ งเครื่อง 1uz-fe ชนกับเกียร์สโลว์ของ Toyota Surf ย้ายเซ็นเซอร์เกียร์ใหม่ และรื้อชุดเกียร์มาผสมรวมกันอย่างลงตัว ให้ความเป็นอิสระในการเปลี่ยนทิศทาง ส่งกำลัง สู่ความสูงที่เพิ่มของรถมีความอิสระยิ่งขึ้น ทำการติดตั้งชุดยอยต์แปดทิศของ Toyota Land Cruiser Vx 80 พร้อมเดิน ระบบท่อไอเสียใหม่ ชนิดที่ลากรอบที เสียงหวานจับใจภายนอกตีตะกร้อรอบคัน ท้ายกระบะลอย ซุกถังแก๊ส
หน้าตาพอๆ กับนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่ใส่การ์ดแบบครบเครื่อง กันชนหน้าแบบแป๊บท่อนคู่ดัดขึ้นรูป คือ ปราการด่านหน้าสำหรับ งานกันกระแทกที่แข็งแกร่ง พร้อมโอบรับชุดวินช์ไฟฟ้าของ Toyota Land Cruiser หัวโหนกขนาด 24 โวลต์ เพื่อการดึงใน เวลาที่ไม่สามารถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างสะดวก และเพื่อการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทาง ยังไม่หมดทางด้านหน้า ยังมีการติดตั้งไฟ สปอตไลต์ไว้สองดวง ซ่อนไว้กลางกันชนฝั่งซ้ายและขวา เพื่อเพิ่มแสงสว่างในยามค่ำคืน จากนั้นดัดท่อนแป๊บเข้ารูปยาวจากปลายกันชน หน้าไปสุดหัวเก๋ง ทำหน้าที่เป็นไซด์เรล ไม่เพียงเท่านั้น ยังตีตะกร้อทำการ์ดคลุมหัวเก๋ง ทำหน้าที่เหมือนโรลบาร์ จากอยู่ในห้องโดยสารก็ มาอยู่ด้านนอก มิหนำซ้ำยังช่วยกันการบุบบี้ของหัวเก๋งด้านนอกได้อีก ด้วย เรียกว่า แหล่ม...เลย สำหรับพวกชอบเที่ยวป่าแบบถูลู่ถูกัง ด้าน ท้ายกระบะเดิม ท่าจะผุจนเกินเยียวยา งานนี้เลยเกิดการสร้างสรรค์ให้กลายเป็นกระบะลอยทรงแป ลก แต่มากประโยชน์ใช้สอย แถมด้านใต้ กระบะ ยังมีการซุกถังเชื้อเพลิงทดแทนอย่างแก๊ส Lpg ไว้หนึ่งถัง ไม่ต้องห้อยใต้ท้องรถให้กลัวบึ้ม ปลอดภัยขึ้นเยอะ มิหนำซ้ำยังมีการ ติดตั้งวินช์ไฟฟ้าขนาด 9,500 ปอนด์ ของ Hi-winch 12 โวลต์ เพื่อการกู้ภัยด้านท้ายอีกด้วย

ช่วงล่างใหม่ เล่นของ NISSAN SAFARI Y61 แทบทั้งกระบิ

มากันที่ส่วนเด็ดของงานสร้าง กับการโมดิฟายระบบช่วงล่างใหม่หมดทั้งยวง แบบว่าอำลาของเดิมติดรถไปหมดสิ้น ปล่อยหน้าที่ให้ ช่างอ้วน 4X4 โมดิฟาย เขาจับชุดช่วงล่าง NISSAN SAFARI Y61 มาศัลยกรรมใส่แทนที่ เริ่มกันที่ชุดคานหน้า และหลัง Y61 ที่มีเขี้ยวเล็บเสริมให้เพลาท้าย กับการติดตั้งชุดแอร์ล็อกเกอร์จากโรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังที่ดียิ่งขึ้น ในเวลาที่ล้อต้องการ กำลังเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ่ายทอดสู่ล้อซ้าย-ขวาที่เท่ากัน สำหรับชุดคานรุ่นนี้เป็นขนาดอัตราทด 9 : 37 ฟัน (4.11 : 1 รอบ) ถือว่าลง ตัวกับกำลังเครื่องยนต์ที่ส่งถ่ายมา เพราะรถ SAFARI Y61 เป็นรถที่ผลิตช่วงระหว่างปี 2008 นี้เอง และมีเครื่องยนต์หลายขนาด ความจุให้เลือกใช้ ระบบบังคับเลี้ยวก็เลือกใช้กระปุกพวงมาลัย และคันชัก-คันส่งของ SAFARI Y61 รวมถึง SUSPENSION ARM หรืออาร์มกัน เพลาพลิกด้านหน้า ส่วนอาร์มหลัง เพื่อการให้ตัวและสวิงที่มากยิ่งขึ้น ทำการสร้าง LOWER ARM ชุดล่างใหม่ ส่วนด้านบนที่เป็น UPPER ARM ทำการสร้างเป็นแบบ A-ARM งานนี้เลยได้ทั้งความแข็งแรง มั่นคง ไม่โคลงเคลง โดยไม่ต้องติดตั้งกันเซ หรือ TRACK BAR แม้แต่น้อย ส่วนชุดคอยล์สปริงด้านหน้าและหลังก็เลือกใช้ชุดสแตนด าร์ดของ SAFARI Y61 สยบอาการกระเด้ง กระดอน และเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับการสั่นสะเทือนให้เหนือ ชั้นยิ่งขึ้น ทำการติดตั้งโช้คอัพซับล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว จากรถ ISUZU RODEO (DRAGON EYE) คือล้อชุดใหม่ที่เลือกติดตั้ง หุ้มรัดด้วยยางจอมตะลุยโคลน อย่าง SIMEX EXTREME TREKKER ขนาด 35x10.5-16 รองเท้าชุดหนาที่พาเจ้าคันฟ้าตัวเจ็บนี้บุกตะลุยทุกเ ส้นทางของ AMADA X-TREME ทั้งหน้าและหลัง

COMMENT
การขับขี่ให้การตอบสนองที่ดีทุกสภาพเส้นทาง ด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่มาก การคอนโทรลรถมีความมั่นคงในทุกสภาพเส้นทาง การ เข้าโค้งมั่นใจได้ แม้ความสูงของรถเพิ่มระดับนี้ ที่เน้นจริงๆ คือ การขับขี่ในเส้นทางออฟโรด สมกับเป็นการตกแต่งแบบหลุดโลก สมรรถนะการให้ตัวของระบบช่วงล่างมีการยืดและยุบตัวที ่สูงมาก เรียกว่า ถ้าเลาะบอดี้ออกแล้ว สเปซเฟรมก็กลายเป็นรถแข่งออฟโรด ได้ทีเดียว

ข้อมูลทางเทคนิค
ความสูงปกติด้านหน้า 78.5 เซนติเมตร
ความสูงปกติด้านหลัง 79 เซนติเมตร
ช่วงยืดสุดล้อหน้า 102.5 เซนติเมตร
ช่วงยืดสุดล้อหลัง 97.5 เซนติเมตร
ช่วงยุบสุดล้อหน้า 59.5 เซนติเมตร
ช่วงยุบสุดล้อหลัง 62 เซนติเมตร
ความสูงจากพื้น-หลังคา 206 เซนติเมตร
ระยะต่ำสุดใต้ท้อง 29 เซนติเมตร

ที่มาจาก www.grandprixgroup.com

BENZ W126 มีข้อมูลอีกคันแล้วครับ เอามาลงรวบรวมไว้

1 เครื่อง1uz 22000
2 พัดลมไฮโดลิกพร้อมกล่อง 1600
3 เซนเซอร์พัดลมไฮโดลิกซื้อของใหม่ 650
4 ค่าท่อยาง สายรัด น้ำมันเครื่อง เพาเวอร์ สายคันเร่ง ประมาณ1500
5 ค่าตัดต่อสายแอร์น้ำยาแอร์ 700
6 ค่าวายริ่งสายไฟพร้อมรีเลทั้งหมด 3800
7 ค่าแรง+ค่าทำเฮดเดอหลบกระปุกเพาเวอร์+ตัดต่อเพลากลาง 11000
ลงในบอดี้W126ใช้เวลา1เดือนพอดีตกทั้งหมด 41250 พอดี
คาดว่าน่าจะโดนเฟืองท้ายอีกลูกเพราะออกตัวอึดมาก
ไว้เท่านี้ก่อนนะครับค่อยมาว่ากันใหม่

เอากราฟทอร์คกับแรงม้าของ 1uz มาฝากคร้าบ

จากเวป www.lextreme.com


Thanks: seo สินมั่งคงประกันภัย

:) HP คือ รอบเครื่องใช่ไหมครับ / ดูยังไงอ่ะครับ ดูไม่เป็นครับ..
:) lb ft คือ ความเร็วหรือครับ. ขอบคุณมากครับ ความรู้ทั้งนั้นๆ

HP คือแรงม้าครับ
ส่วน lb ft คือแรงบิด (torque) ครับ

กราฟนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างแรงม้า และแรงบิด ที่รอบเครื่องยนต์ต่างๆครับ แกนนอนคือรอบของเครื่องยนต์ คูณด้วย 1000 ส่วนแกนตั้งคือหน่วยของแรงม้า และแรงบิดครับ

จากกราฟนี้พอจะบอกเราได้ถึงแรงบิดที่จะเป็นแบบ flat torque คล้ายๆเครื่องดีเซลครับ คือจะเริ่มมาตั้งแต่รอบต่ำๆ และจะมาสูงสุดที่รอบประมาณ 4600 รอบครับ แต่เครื่องดีเซลแรงบิดสูงสุดเขาอยู่ที่ประมาณ1700-2000 รอบเท่านั้นเอง

ส่วนแรงม้าก็จะค่อยๆไต่ขึ้นไป จนสูงสุดที่ประมาณเกือบๆ 5000 รอบครับ

ชัดเจนมากครับ
ขอบคุณครับ

ตามนั้นเลยครับ

ทอร์คของ uz นั้นสูงตั้งแต่ 1000 รอบเลย

ผมว่าที่ 1000 รอบเนี่ยสูงกว่าดีเซลด้วยมั้งไม่แน่ใจ

แต่มันไม่กระโดดข้ามไปมาก มันจะค่อยๆขึ้น

แต่ดีเซลกระโดดทีเดียวสูงไปเลยตั้งแต่ 1500-2500 แล้วทอร์คก้อตกลงมาเลยนะครับ

:rolleyes: พี่ครับ คำว่า "ทอร์ค" = นี่คือ แรงบิด หรือ แรงเครื่อง ของรถใช่เปล่าครับ. :)

ใช่ครับ

ถ้าพูดง่ายๆคือ ทอร์คหรือแรงบิดเยอะ อัตราเร่งจะดี

ถ้าแรงม้าเยอะ จะได้ความเร็วปลายดี

ผมขับรถอีซูซุ "มังกรทอง" ถ้าจะวาง Uz จะยุ่งยากไหมครับ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเมื่อวาง Uz พร้อมรับรถประมาณเท่าไร (เทินเครื่องเดิมด้วยนะครับ) แล้วถ้าทำเฟืองท้าย ใช้ทดเฟือง หรือ เปลี่ยนยกเส้นดีครับ ถ้าเปลี่ยนยกเส้นของเก่าเทินได้ป่าว และสุดท้ายทำอู่ไหนดีที่สุดครับ ทำดีราคาพอรับได้นะครับ

ปล.ขอเป็นตัว vvti นะครับ สภาพเครื่องประมาณ 80 % ขึ้น

lสรุปค่าใช่จ่ายในการวางuzในvolvo740หน้าแว่น/
ค่าเครื่อง 24000พร้อมกล่องอีกมากมายที่ไม่ได้ใช้เอามาตามคำแนะน ำแบบเหลือดีกว่าขาดพร้อมพัดลมไฮดรอริคและหม้อนำแต่ก็ ไม่ได้ใช้เพราะยาวเกินค่า
ค่าวาง20000พร้อมพร้อมวายริ่งที่ช่างวายทำไม่ครบทำให ้เกียร์กระตุกเวลาออกตัวไปแก้กับช่างอีกคนแถวลาดพร้า ว71อีก2000okหายดีแต่หลังจากนั้นก็ลองวิ่งทางไกลหน่อ ยไปหัวหินลองประสิทธิภาพเครื่องหน่อยแต่ในตอนแรกลองร ะยะสั้นแถวราชพฤกก็มีอาการตัด180แต่ตัดที่ประมาณ170จ ับด้วยgpsมือถือก็เลยไปเสียตังปลดล็อค180อีก2000ก็เร ียบร้อยที่นีก็มาลองบนถนนว่าได้เท่าไรก็ไปลองบนทางด่ วนลองด้วยแก็สวาริก็ประมาณ190ก็เลยคาใจอยากรู้ว่าถ้า วิ่งด้วยนำมันจะดีกว่าแก็สไหมเผื่อจะไปใส่หัวฉีดก็เล ยไปลองด้วยนำมันก็ได้ความเร็วที่200พอดิบพอดีเฟืองท้ าย4.1ขากลับก็เลยงานเข้าครับเกียร์เข้าได้แค่เกียร์1-2ก็กลับมาสภาพนั้นจนถึงอู่สรุปเกียร์พังก็เลยถอดแคร้ งนำมันเกียร์มาดูสภาพนำมันเป็นนำไม่มีความหนืดเลยและ ดำมากทั้งที่เป็นไปตอนวางเครื่องเมื่อสัก2vอาทิตย์ก่ อนนี้เองก็เลยต้องหาเกียร์ลูกใหม่มาเปลียนได้มาในราค า4500แต่คงหาราคานี้ไม่ได้อีกแล้วมั้งเพราะถามราคาตา มเชียงกงก็อยู่ประมาณ7000-8000อันได้ได้คำแนะนำจากคุณขุนกโดนค่าแรงเปลียนไปอีก 1900พร้อมนำมันเกียร์และล้างเกียร์และฟักบัวเกียร์ซึ ่งแนะนำว่าท่านที่วางเครื่องควรจะทำด้วยเพราะค่าล้าง เกียร์ถูกกว่าค่าเกียร์แน่นอนหลังจากที่เปลียนเกียร์ ก็ได้มาลองอีกรอบก็ได้ความเร็วปลายเท่าเดิมแต่ที่ได้ รู้อีกอย่างคือรอบเครื่องมันสุดแล้วด้วยที่5400ตัดเห มือนกับตัด180เลยเพราะลองได้รู้และพอใจแล้วตอนนี้จีง กลับมาใช้แก็สวาริเอเบิลตามเดิมอัตรานำมัน1ถังvolvoไ ม่แน่ใจว่ากี่ลิตรเดี่ยวไปดูอีกที่แต่เติมไป1600บาทโ ซฮอลล์95วิ่งได้280กิโลส่วนแก็สวิ่งได้260กิโลก็พอใจ ในอัตราเร่งและความเร็วแต่อีกอย่างตอนวิ่งด้วยนำมันใ ส่กรองเปลือยด้วยเสียงจะดังสักหน่อยแล้วรู้สึดที่ควา มเร็ว150รอบ3500มีเสียงไฟเขกในเวลากลางคืนแต่กลางวัน ไม่เป็นเลยไม่รู้ว่าโซฮอล์หรือกรองเปลือยแต่ก็ไม่เป็ นไรเพราะกลับมาใส่กรองธรรมดาแล้วแต่ใส่วาริเอเบิลรอบ เครื่องจะขึ้นไปสูงหน่อบประมาณ1000รอบตอนเกียร์dส่วน เรื่องราคาเดี่ยวมาสรุปให้อีกที่นะครับ:)

อ่านมาตั้งแต่หน้าแรกเลยคับอยากทราบว่าuzนี้มีเกียร์ mtไมคับเห็นแต่เกียร์atอย่างเดียวเลย
แล้วถ้าไม่มีเอาเกียร์อะไรชนได้คับไส่รถเก๋งขับใน-นอกเมืองอ่ะคับ

Chacky
 

1.อยากทราบเหมือนกันครับว่าชนเกียร์อะไรที่ทำให้แรงบ ิดดีขึ้น รถเดินได้ยาวขึ้น แล้วถ้าเป็นเฟืองท้ายเบอร์ 3.52 จะหนักไปไหม รบกวนหน่อยครับ อยากทราบเช่นกันครับ
2.นิสสันบิ๊กเอ็มตัวหน้าหักวาง 1uz แล้วจะติดอะไรตรงไหนไม๊ครับ

อยากทราบว่าถ้าลง Uz ในรถกระบะ แล้ววิ่งโดยใช้น้ำมัน วิ่งต่างจังหวัด ตกกี่ กิโลลิตร ครับผม

ตัว vvti วิ่ง ตจว.ตก 9.6 กิโลลิตรเครื่องพึ่งวางมาใหม่ยังไม่ได้เซ็ทค่าอีกรอบ ถ้าเซ็ทดีดีน่าจะ 10-12 กม/ลิตรครับ(ความคิดผมเอง)โดยเฉพาะวิ่งยาวที่เกียร์ 5 จะประหยัดมากครับ

ยอดเลยครับ สำหรับข้อมูล เป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ
ขอบคุณมากๆ ครับผม:) :) :)

เรียนถามท่านผู้รู้เพื่อตัดสินใจวางuzครับ
 

เรียนถามท่านผู้รู้เพื่อตัดสินใจวางuzครับปัจจุบันผม ใช้benz S500 W140 ปี1994 นำหนักตัวรถ 2400 กก.ครับจึงมีคำถามเปรียบเทียบระหว่างเครื่องbenz 5000 Ccกับเครื่องuzดังนี้ครับ
อัตราการดึงในการเร่งออกตัว
อัตราความเร็ว
ความพุ่งของกำลังเครื่องยนต์
รบกวนท่านผู้รู้เปรียบเทียบให้ด้วยครับอยากเปลี่ยนเป ็น Uzครับ

The 5.0 L (4973 cc) version produced 326 PS (322 hp/240 kW) at 5700 rpm and 354 ft·lbf (479 N·m) at 3900 rpm

1UZ-FE ไม่ฝาครอบ
190 kilowatts (250 hp) and 353 newton metres (260 ft·lbf) of torque

1UZ-FE ฝาครอบ
194 kilowatts (260 hp) and 366 newton metres (270 ft·lbf) of torque

1UZ VVTI
216 kW (290 hp) and 407 N·m (300 ft·lbf)



เครื่อง5000 cc ของBenz ดีกว่าทุกประการครับ ติดตรงที่อะไหล่เเพงเเละหายากครับ

ขอบคุณครับ
 

คุณkun553 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลครับ

เรียนถามคุณkun553อีกนิดนึงครับ
 

การออกตัวตีนต้นและปลายแตกต่างกันมากไหมครับรบกวนอีก นิดนะครับ

ถ้าเปรียบเทียบกับบอดี้Benzแล้ว เครื่องเดิมๆของมันดีกว่าในทุกๆด้าน แต่ถ้าเครื่องเดิมไม่พังก็อย่าเลยครับผม.....


The LS 400's 0–100 kilometres per hour (62 mph) time was 8.5 seconds

W140 500SEL 0-60 mph 8.0 seconds

ต้นๆไม่หนีกันมากครับ เเต่เกิน100 W140 น่าจะไหลกว่าเยอะเพราะเครื่องใหญ่กว่า

อ้างถึง
 

ถ้าเปรียบเทียบกับบอดี้Benzแล้ว เครื่องเดิมๆของมันดีกว่าในทุกๆด้าน แต่ถ้าเครื่องเดิมไม่พังก็อย่าเลยครับผม.....


The LS 400's 0–100 kilometres per hour (62 mph) time was 8.5 seconds

W140 500SEL 0-60 mph 8.0 seconds

ต้นๆไม่หนีกันมากครับ เเต่เกิน100 W140 น่าจะไหลกว่าเยอะเพราะเครื่องใหญ่กว่า


ขอบคุณครับ

พี่วิ่งเกียร์ที่ความเร็วเท่าไหร่ครับ ของผม vvti ชนขับ 4 pajero ในบอดี้ G-Wagon เฟือง้ทย 4.6 ความเร็ว 120กม.รอบเครื่องอยู่ 2300 รอบ กินน้ำมัน 4.8 - 5.5 ตามเท้าเลยครับ ไม่มากไปกว่านี้ครับ :(

ฝากข้อมูล ครับ เสร็จแล้ว
 

ตัวรถ navara le ไม่ทนเท้าก้านสูบกระเด็นออกมาข้างนอก สาเหตุปั๊มน้ำมันเครื่องทำงานไม่พอหล่อลื่น ในวารันตี แต่ให้เครมครึ่งเดียว เลยให้โกยอะไหล่ที่ถอดออกใส่ลังลากเข้าเชียงกง เครื่อง1uz-fe 24000 ค่าวาง 17000 หยวนๆตัวเลขกลมๆที่40000 ที่ต้องรับผิดชอบเองคือ temp water ไม่ขึ้น1350บาท รอบเครื่องไม่ขึ้น แปลงสัณญาณ1500บาท(ยังไม่ได้ทำ) ถ่ายน้ำมันเครื่อง+น้ำมีนเกียร์+น้ำยาหม้อน้ำ สองพันกว่าบาท สายพานหน้าเครื่อง+timing ยังไม่เปลื่ยน ยังใช้ได้อยู่ (ถ้าขาดก็ วาล์วลงไม่ถึงลูกสูบ เลยใจเย็น) ท่อเดิมหม้อพักเดิม ไส่ปลายใหม่อย่างเดียว

วิ่งน้ำมัน เบนซิลโซฮอล์91 เฟืองท้ายเดิม3.692 ออกตัวไม่จัดจ้านในรอบต่ำๆของเกียร์1 แต่พอหลังจากนั้นลื่นไหลตลอด เอาเป็นว่าทิ้งรถ Diesel นี้ที่ว่าแรงๆสมัยนี้แบบไม่ต้องลุ้น กดpower 200 เป็นเรื่องเล็กไม่ตัดที่ความเร็ว180โดยไม่ได้เพิ่มกล ่อง ปลาย230(เกินไมล์ไปแล้ว)ยังไหลต่อ ยางเก่าเลยไม่กล้า ไว้เปลี่ยนยางจะลองใหม่อีกที
อัตราสิ้นเปลือง ต่างจังหวัดเหยียบตามอัทยาศัย โดนจับทุกด่าน 8 โลลิตร ถ้าเมียไปด้วยได้มากกว่านั้น ในกรุงเทพ ไม่เคยจับกะดูคร่าวประมาณ4-5โลลิตร(เกียร์1มันอืดง่ะ):emo_toon06:

เพิ่มเติม ต้นหายอืดแล้วครับ ปรับสายคิ๊กดาวน์ให้ตึง เดิมทางร้านปรับไว้หย่อนจนสุดเกลียวเลยทำให้เกียร์สอ งเปลี่ยนเร็วเกินไป ใส่วัดรอบมาแล้ว 2800rpm ที่ความเร็ว160งับ เครื่องครางหึ่งๆเอง

ปลั๊กเหลืองปี 92
เฟืองท้ายหน้าจะเหมาะที่เท่าไหร่ครับ
(ไม่รู้ว่าเดิมเครื่องตัวนี้วางอยู่ในตัวอะไรครับ)
ถ้าวางใน E34 ควรใช้เฟืองท้ายเท่าไหร่ครับ