ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.

Loading
Search In ClubJZ.net


กลับไป   ClubJZ Forums > ClubJZ ! Main Forums > ClubJZ! Useful Information
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน กระทู้ใหม่วันนี้
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ!

1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป

2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ

3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ



ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ

 
 
คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 28-07-2009, 02:19   #1
power357
Member
 
วันที่สมัคร: Mar 2008
อายุ: 41
กระทู้: 49
Thanks: 1
Thanked 44 Times in 13 Posts
คะแนน: 0 power357 is on a distinguished road
แรงความสว่างของไฟหน้า

ไม่มีอะไรหรอกครับ....เนื่องจากเห็นมีหลายๆท่านพูดถึ งไฟหน้ารถกับเรื่องความสว่างบ้าง....และบางท่านก็มีป ัญหากับตำรวจบ้าง....และที่สำศัญที่สุดเป็นข้อคิดสำห รับคนที่จะไปติดหลอดไฟแปลกๆครับ

ยังมีคนอีกหลายๆคนที่ดูในหนังสือแต่งรถ......แล้วหลง เชื่อคำโฆษณาของผู้ติดตั้งว่าเปลี่ยนไฟหน้าของเค้าแล ้วทัศนวิสัยดีขึ้น....พอไปถึงร้านกลับเชียร์ให้ใส่นี ้ใส่นั้น....ผลสุดท้ายคือ....สว่างตอนปกติ...แต่เจอฝ นเข้าหน่อย....มองแทบไม่เห็นถนนเลย....บ้างคนเซ็งหนั ก....มีปัญหาด่านตรวจตอนกลางคืน.....

ต้องอธิบายก่อนว่าค่า K กับ ค่าความสว่างนี้...มันคืออะไรกันแน่

ค่า k ไม่ใช่ค่าความสว่างนะครับ........ค่า K หรือ (Kelvin)
เป็นหน่วยวัดเปรียบเทียบว่าที่สว่างๆนั้นให้สีเสมือน ของที่กำลังร้อนที่กี่องศา K.....หรือง่ายๆคือหน่วยของอุณหภูมิสี แค่นั้นครับ

ค่าความส่องสว่าง L หรือ LUMENS.....ไม่มียี้ห้อไหนบอกสะด้วย....หรืออาจจะบอก ก็ได้ครับ..ผมไม่แน่ใจเพราะทั่วๆไปบอกเป็นวัตต์แทน

ยิ่งค่า k สูงเท่าไร ค่า L ยิ่งลด......เช่น หลอด 10,000K สว่างไม่ถึง 1/2 ของหลอด 5,000K .....แต่ที่เราเห็นว่ามันสว่างกว่าเพราะ....อุณหภูมิ ของสี.....หลอกตาเรา....เพราะสายตามีความไวกับแสงสีข าวมาก.....

ค่า K เป็นค่าอุณหภูมิของสี(Kelvin)ครับ
1) XENON ค่า 1000K - 3000K แสงอมเหลืองถึงเหลืองพบในหลอด ( Halogen )
2) XENON ค่า 3800K - 6000K แสงขาวนวลอมเหลือง Xenon Original ติดรถจากโรงงาน ( Sun Light )
3) XENON ค่า 7000K – 8000K แสงสีขาวนวล ( Crystal White )
4) XENON ค่า 10000K แสงสีขาวติดฟ้า ( Crystal Blue )
5) XENON ค่า 12000K แสงสีฟ้าอ่อน ( Purple Blue )
6) XENON ค่า 15000K - 16000K แสงสีฟ้าเข้ม ( Deep Blue )
7) XENON ค่า 17000K - 18000K แสงสีอมม่วง ( Purple Red)
XENON ค่า 20000K แสงสีชมพู ( Pink )


บางคนเข้าใจผิดว่า...ยิ่งค่า k มากๆไฟยิ่งแรงและสว่างผิดมหันต์เลยนะนั้น.....

นักวิทยาศาสตร์วิจัยและสรุปออกมาแล้วว่าค่าที่ดีที่ส ุดและสว่างที่สุดคือ 4100 k (ก็ที่ติดมาจากโรงงานธรรมดานั้นและครับ) สามารถมองเห็นในทุกทัศนวิสัย.....ทั้งฝนตกหนัก....แล ะรวมทั้งในการขับขี่นานๆ....จะไม่เกิดความเครียคในสา ยตา.....ยิ่งค่า k ที่เข้าใกล้สีฟ้ายิ่งจะมีผลกระทบในตอนขับรถนานๆติดต่ อทำให้เกิดความเครียดในกระบอกสายตา...ผลที่ตามมา ปวดตา แสบตา มึนๆ ยกตัวอย่างเช่น ทางการทหารให้ความสำศัญกับอุณหภูมิสีเป็นอย่างมาก... .ทหารที่อยู่ห้องเครื่องของรถหรือเครื่องบินขนส่ง... สังเกตุดีๆจะเป็นสีแดง...สีแดงเป็นสีที่ตาเรามองเห็น แล้วสบายตาและสามารถปรับสภาพตาในความมืดได้ดีที่สุด. ..(ในหนังสงครามเก่าๆก็มีให้เห็นอยู่).....เวลาที่กร ะโดดลงมาหน้าจะไม่หน้ามืด...ไม่งั้นมั่วแต่ปรับสภาพต า...ก็โดนข้าศึกยิงตายกันพอดี....หรือสังเกตุไฟท้ายไ หมล่ะว่าทำไมไม่เป็นสีขาวเหมือนไฟหน้า...ชัดดีออก... ถ้าเป็นอย่างนั้นก็หน้ามืดแย่ล่ะครับ.....

ใครที่คิดจะซื้อหลอดซีนอล หรือหลอดแปลกๆ.....ดูทางนี้ก่อนครับ...ว่ามันจริงหรื อป่าว...ของแท้หลักการทำงานเป็นยัง

หลอดไฟ ZENON ที่คุณซื้อมาหลอดล่ะ100กว่าบาท เนี้ย ที่จิงแล้วคือ"หลอด ฮาโดรเจน"ครับ
หลอดฮาโดรเจน เนี้ยมันจะร้อนกว่าหลอด H3,H4 แบบปกติที่ใช้กัน ถ้ายิ่งวัตต์สูงกว่าปกติใช้ไปไม่นานโดยไม่เพิ่มรีเลย ์....ไม่โคมละลายก็รีเลย์ไหม้
ส่วน หลอดZENON ของแท้ ราคาหลักหมื่น ขึ้นไป จะมีความร้อนน้อยกว่าหลอดปกติ ในการติดตั้ง จะต้องมีกล่องรีเลย์โดยเฉพาะของหลอดZENONติดตั้งไว้ด ้วย

หลักการทำงานของหลอดซีนอล

1. หลอด xenon คือ หลอดที่ทำงานเหมือนไฟแฟลชถ่ายรูป แสงสว่างเกิดจากการอาร์คของไฟฟ้าข้ามขั้ว (ขั้วห่างกัน 5 mm) ผ่านแกสแรงดันสูง (2 bar)

เทอร์โบอัดหนักๆ อัดกันที่แรงดัน 1.2-1.5 bar
พวกแข่งขันชิงสาว ชิงถ้วยรางวัลจะอัดกันที่ 2.4-2.5 bar ก่อนเครื่องกระจาย

2. แกสในหลอด xenon เป็นแกสเฉื่อยชื่อ xenon (ถามเพื่อนๆที่เรียนเคมี จะรู้จักกันทุกคน) และมีแกสอื่นๆปนหลายอย่าง

3. ไฟที่ใช้จุดหลอด xenon ให้ทำงาน มีแรงดัน 12,000-18,000 volts! (แรงดัน สูงกว่าไฟที่อาร์คที่ขั้วหัวเทียนเสียอีก) เพราะแกสหรืออากาศปกติ ก็มีความต้านทานไฟฟ้าสูงมากๆ (เกือบอินฟินิตี้ .. ร้อยๆล้านโอห์มเลย) ยิ่งแกสในหลอด xenon ของเรา มีแรงดันสูง ยิ่งต้องใช้ไฟแรงสูงให้มันกระโดดข้ามได้
ที่เรียกๆ กัน (ผิดๆ) ว่ากล่องรีเลย์ หรือ (เรียกถูกต้องว่า)กล่องบัลลาสท์ มีหน้าที่นี้แหละ ... แปลงแรงดันจากไฟแบต 12 volts ให้สูงถึงเกือบสองหมื่นโวลท์
แต่เมื่ออาร์คเกิดแล้ว กล่องจะต้องลดแรงดันเหลือ 100-200 volts เพราะลำอาร์ค มีความต้านทานต่ำ (100 โอห์ม)
เมื่อลำอาร์คเสถียร ให้แสงสว่างเต็มที่ ความต้านทานจะลดลงอีก กล่องจะต้องลดแรงดันลงอีก ไม่อย่างนั้น ไหม้แน่นอน

การทำงานทุกอย่างที่ีว่ามา ต้องเสร็จภายใน 1-2 วินาที

กล่องบัลลาสท์ดีๆ ถึงได้แพงระเบิด

คำเตือน คำเตือน คำเตือน

แรงดันไฟฟ้าในกล่องบัลลาสท์ เป็นไฟฟ้าแรงดันสูงมาก (20,000 volts) และมีพลังงานสูงมาก (200-300 joules) สามารถฆ่าคนถึงตายได้

4. เมื่อหลอดสว่างเต็มที่ แรงดันในหลอดจะสูงขึ้น 30-40 bar
อุณหภูมิในหลอด จะสูงประมาณ 1200 องศาซี
ความร้อนนี้ ลดลงไม่ได้ เพราะถ้าลดลง ลำอาร์คซึ่งเป็นพลาสมา จะดับทันที .. ถึงทำให้หลอด(ที่ใช้ในรถยนต์)มีขนาดใหญ่มากไม่ได้
หลอดแบบนี้ ถ้าเป็นหลอดใหญ่ๆ จะใช้เป็นไฟส่องสว่างถนน (ไฟแสงจันทร์ ไฟโซเดียม ฯลฯ)

หลอดถึงต้องมีซีลสองชั้น .. กันระเบิด

หลอดธรรมดาๆ มีอุณหภูมิภายในแถวๆ 700 องศาซี
และอุณหภูมิที่ผิวหลอดแก้ว ร้อยกว่าองศาเท่านั้น

5. ถ้าไปดู website ของ บ.ที่ผลิตหลอด xenon ระดับยักษ์ใหญ่ จะพบความจริงที่น่าตกใจ ที่เหมือนกันหมด ทุกบริษัทพูดเหมือนกันหมด คือ

หลอดซีนอนในรถยนต์ ยิ่งมีองศาสีสูง (K ยิ่งสูง) ความสว่าง (L) ยิ่งน้อย

หลอด 10,000K สว่างไม่ถึง 1/2 ของหลอด 5,000K
xenon ของ BMW/MB (frost ice) มีค่าองศาสี แค่ 4300K เท่านั้น ... แต่ความสว่างแถวๆ 3,000-3,500L

หลอดโรงงานยี่ห้อดังๆ มีองศาสีสูงสุด 6000K

พวก 10,000-12,000K ... บ.ยักษ์ใหญ่ ไม่กล้าเอาผลิตใต้ชื่อตัวเอง ... กลัวโดนฟ้อง เพราะความสว่างแค่ 1,600-1,800L เท่านั้น

6. หลอดไฟมีไส้ธรรมดาๆ จะมีความสว่าง 1,200-1,500L และให้อุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,800-3,200K
หลอด superbright จะสว่าง 1,500-1,800L และให้สีเสมือนมีอุณหภูมิ 3,300-3,500K

หลอดไต้หวันราคาถูกๆ จะสว่าง 1,800-2,000L โดยการเพิ่มขนาดของไส้หลอด ความต้านทานไส้ลดลง กินกระแสไฟฟ้ามากขึ้นเป็น 100-110w แทนที่จะเป็น 50/55w เหมือนหลอดธรรมดาๆ ... ไฟรถมีแรงดัน 12v หมายถึงกระแสไฟฟ้าไหลเข้าหลอด 10A แทนที่จะเป็น 5A

จะมีรีเลย์ (ไม่ใช่ดีเลย์) หรือไม่ก็ตามที กระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้ามากขึ้น (10A) จะทำให้ขั้วหลอดที่ไม่ดี (มีความต้านทาน) ร้อนจัดจนขั้วละลายได้

จะมีรีเลย์ (ไม่ใช่ดีเลย์) หรือไม่ก็ตามที ... พลังงานไฟฟ้า ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นแสงสว่างทั้งหมด แต่กลายเป็นพลังงานความร้อน(สูญเปล่า)
ความร้อนที่มากขึ้น เกินปกตินี้ จะทำให้ปรอทที่ฉาบไว้บนโคม ไหม้ หรือระเหย (หมอง)

ความร้อนไส้หลอดที่มากเกิน จะทำให้ไส้ขาดเร็ว

7. หลอด xenon เก๊ (zenon, xenan ฯลฯ) เป็นหลอดมีไส้ธรรมดาๆ แต่ใช้สีเคลือบหลอด เพื่อให้แสงไฟที่ออก มีสีเสมือนกับว่า เป็นหลอด xenon แท้

สีที่เคลือบ จะทำให้ความสว่างลดลง

หลอด plasma blue ของ PIAA ราคาแพง เพราะผลิตโดยทำให้ตัวแก้วของหลอด มีสีน้ำเงินจางๆ (ผสม cobalt เข้าไปในเนื้อแก้ว)
ความสว่างจึงลดลงน้อย ไม่เกิน 20%

หลอดไต้หวัน หลอดจีนแดง หลอดโนเนม .. ใช้สีเคลือบราคาถูกๆ
การที่ความสว่างจะลดลง 40-50% จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ดูเผินๆ เหมือนหลอดสว่างขึ้น เพราะเวลากลางคืน ตาคนเราไวต่อแสงสีน้ำเงินน้อย พอเห็นแสงสีน้ำเงินจ้าๆ จึงหลอกตัวเองว่า เห็นแสงสว่างมากๆ
ถ้าไม่หลอกตัวเอง จะพบว่า ตอนกลางคืน ตาของคนเร็ว ไวต่อแสงสีแดง มากกว่าสีน้ำเงิน เป็นร้อยๆเท่า
นอกจากจะไวกว่าแล้ว ยังพร่ามัวเพราะแสงสีแดง น้อยกว่าแสงสีน้ำเงิน เป็นร้อยๆเท่าเช่นกัน

การใช้ของเก๊ ที่ให้แสงสว่างน้อยลง ให้แสงสว่างที่เห็นไม่ค่อยชัด ให้แสงสว่างที่ทำให้ตาพร่ามัวง่าย
โดยคิดว่า มันสว่างกว่า ชัดเจนกว่า
อันตรายไหมหละ?

8. หลอดไฟมีไส้ ทำงานโดยการเผาไส้หลอด (ด้วยกระแสไฟฟ้า) ให้ร้อนแดง ... ไส้หลอดจะระเหยออกไปบ้างเล็กน้อย
ระเหยไปเคลือบที่ผิวหลอดด้านใน
ใช้ไปนานๆ ไส้หลอดบางลง หลอดขาด
หรือ ไส้หลอดยังไม่ทันบาง ไอโลหะเคลือบผิวหลอด จนแสงส่องผ่านน้อยลง (เหมือนฟิล์มปรอท)

หลอดจึงบรรจุธาตุพวก halogen และแกสเฉื่อย ไว้เล็กน้อย
เพื่อให้เกิด Halide cycle (กรุณาหาอ่านจาก google) ซึ่งทำให้กระบวนการที่ว่ามาข้างบน ไม่เกิดขึ้น

แต่ถ้าไส้หลอดร้อนจัดเกินไป กระบวนการ halide cycle ทำงานไม่ทัน ... ไส้หลอดขาดพั้วะ!

หลอด 100/110w ... สว่างจริง ขาดเร็วจริง

เวลาเราเปลี่ยนหลอดไฟหน้า เราเปลี่ยนสองข้าง (ก็อยากแต่งซิ่งนี่นา หรือใครเปลี่ยนข้างนึง 50w อีกข้าง 100w?)

เวลาขาด .. มันจะขาดไล่เลี่ยกันมาก
เพราะอะไร?

ถ้าใส่ relay แยก หลอดใครหลอดมัน ก็แล้วไป

แต่ถ้าไม่ใส่ .. จะมีแรงดันตกคร่อมสูญหาย ในระบบสายไฟส่องสว่าง
V = IR
ตอนที่หลอด 2 หลอดทำงาน V ตกคร่อม = (I1 + I2) * R
เนื่องจาก I1 = I2 ฉนั้นแรงดันตกคร่อมสูญหาย = 2*I*R
แรงดันไปถึงขั้วหลอดคือ E - 2*I*R

แต่เมื่อหลอดหนึ่งขาด ไฟตกคร่อมจะเหลือ I*R
แรงดันไปถึงขั้วหลอดคือ E - I*R

หลอดที่ปริ่มๆจะขาด โดนแรงดันเพิ่ม ถึงจะอีกนิดก็เหอะ ... ขาดไหมหละ?

ถ้าใครเคยหลอดไฟหน้าขาดคู่พร้อมกัน ตอนขับที่ 90 กม/ชม. ... คุณจะขนหัวลุกยิ่งกว่าโดนผีหลอก
ถ้าไม่กลายเป็นผีไปเสียก่อน ...

ส่วนนี้จะเป็นส่วนของ HID ประมาณว่าเสียเงินมา 20000 บาทแต่กับได้ความคุ้มค่าแค่หลอดฮาโลเจนแค่คู่เดียว


http://www.camrythailand.com/modules...showpage&pid=8

ตอนนี้....มันเกิดปัญหาใหม่ขึ้นมา...ปัญหานี้แปลกนะค รับมันดันมาพร้อมกับ.....หลอดแต่งแฟชั่นสีแปลกๆ..หรื อมากับพวกหลอดHIDกับซีนอลแบบปลอมๆ.....

ปัญหานั้นก็คือ.....เราคิดว่าไฟหน้ารถสว่างไม่พอ...เ พื่อนผมบ้างคนออกวีออสป้ายแดงมาไม่กี่สัปดา.....บอกผ มว่าไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง....ผมบอกว่า...เอ็งไปตรวจสาย ตาก่อนดีกว่านะ....ว่ามีปัญหาป่าว.....

ปัญหานี้มันก็เกิดกับผม....ตอนแรกๆเหมือนกันครับ...ท ี่ยังไม่เข้าใจเรื่องระบบแสงอุหภูมิสีกับความส่องสว่ าง.....แถมเปลืองเงินอีก...ที่ต้องเปลี่ยนนู้น...ใช้ สีนั้น
หมดตั้งค์ไปหลาย....ผลลัพ...สูงสุด คืนสู่สามัญ....กลับไปใช้ของเดิม..(เน้นนะว่าโคมแท้จ ากโรงงาน..เพราะโคมเทียมรวมแสงไม่ดีเท่าที่ควรครับ). ...เพียงแต่เพิ่มวัตต์แล้วก็เพิ่มรีเลย์เอาครับ..... หลอดขาดก็ไม่กี่บาท....เปลี่ยนเอา...ไม่มีปัญหากับตำ รวจอีก.....

ทั้งหมดนี้ผมพยามหาข้อมูลมารวมๆกันก็อปจากหลายเว็ป.. ..บ้างช่วงพิมพ์เอง....เลยยาวเป็นหางว่าวเลยครับ.... ...ขี้เกียจแบ่งหน้า......ถ้าใครอ่านจบก็จะเข้าใจว่า ..........รู้อย่างนี้....ใช้ของเดิมดีกว่า......หรื ออาจไม่พอใจจริงก็....ถ้าเปลี่ยนก็จะได้รู้ว่าค่า k ที่เหมาะสมมันอยู่ค่าที่เท่าไร

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย power357 : 28-07-2009 เมื่อ 09:34.
power357 is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 12 Users Say Thank You to power357 For This Useful Post:
Dj.sid (28-10-2009), Godzela (08-04-2011), JZ_P_MAYIM (09-01-2010), krupree (09-11-2009), l.lerson (28-10-2009), maxza1988 (02-03-2012), Moonlight (09-12-2009), ms111 (11-12-2009), phichai (10-12-2009), pookza (09-11-2009), watt6652777 (28-10-2009), ลูกเสี่ยโรจน์ (28-10-2009)
 



กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:25


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels