ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.

Loading
Search In ClubJZ.net


กลับไป   ClubJZ Forums > ClubJZ ! Main Forums > ClubJZ! Useful Information
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน กระทู้ใหม่วันนี้
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ!

1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป

2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ

3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ



ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ

ตอบกลับ
 
คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 31-03-2009, 13:18   #61
เกินห้ามใจ
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว เกินห้ามใจ
 
วันที่สมัคร: Mar 2008
อายุ: 39
กระทู้: 28
Thanks: 0
Thanked 12 Times in 7 Posts
คะแนน: 0 เกินห้ามใจ is on a distinguished road
มุ่นเล่ย์ สายพานหน้าเครื่องขาดป่าวเอ่ย(พี่ผมเพิ่งเป็น มันหลุดออกมาเลย)ยางมันขาด
เกินห้ามใจ is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 31-03-2009, 15:24   #62
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight อ่านกระทู้
เมื่อวานมีความจำเป็นต้องขับรถไปต่างจังหวัดครั บ ตามแผนนั้นตั้งใจไปกลับในวันเดียวครับ ขับออกจากบ้านแต่เช้ามืด เติมน้ำมันเบนซิน 95 เต็มถึง 86 ลิตร ก็เริ่มกดคันเร่งขับสบายๆด้วยความเร็วเฉลี่ย 130 กม./ชม.ครับ การปรับเปลี่ยนเกียร์ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ อัตราเร่งแซงขึ้นก็ดี ไม่จำเป็นต้องทดสอบความเร็ว เพราะมีผู้โดยสารนั่งอยู่ด้วย 4 คน อยากให้พวกเขาเอนนอนหลับอย่างสบายๆ

หลังจากแวะทำธุระ 2 - 3 แห่ง เรียบร้อยแล้ว ก็ขับกลับกรุงเทพ สภาพการขับก็เช่นเดียวกับขาไปครับ พอจวนเข้าเขตก.ท.ม. ก็เจอการจราจรติดขัดทันทีครับ อัตราความเร็วเฉลี่ยเหลือ 30 กม./ชม.เองครับ ช่วงบ่ายพอดีแสงเข้าตา ทำให้เกิดอาการง่วงมาก จะขอจอดข้างทางงีบก็ไม่ได้ เพราะรถคับคั่งมากๆ ขยับออกตัวแล้วจอด วนไปวนมาเช่นนั้นตลอดครับ ฝืนขับได้ประมาณ 10 กว่ากม. เครื่องยนต์ ออกอาการผิดปกติ ทำเอาหายง่วงทันทีเลยครับ

อาการของเครื่องยนต์ ดังนี้ครับ (จราจรคับคั่ง)
  1. ขับออกตัวอยู่ดีๆ อยู่ๆเกิดการดึง มองไปที่เกจ์วัดรอบ อ้าว ทำไมรอบเครื่องเหลือ 1000 กว่ารอบเอง (รอบตก) ทั้งๆที่เท้าเหยียบคาคันเร่งอยู่ จึงปล่อยคันเร่ง แล้วกดเหยียบลงไปใหม่ ช่วงปล่อยคันเร่งแล้วเหยียบเบรค รอบเครื่องจาก 1000 กว่ารอบลดลงมาเหลือ 650 รอบ แล้วพอเหยียบคันเร่งลงไปใหม่ รอบเครื่องก็กลับเข้าสู่ปกติครับ
  2. ขับต่อไปได้อีก ประมาณ 4 - 5 กิโลอาการก็กลับมาเหมือนข้อ 1 ครั้งนี้เฝ้าสังเกตุอยู่ เพราะหายง่วงแล้วครับ มองไปที่หน้าปัดดูว่า ขณะนี้อยู่ที่เกียร์อะไร หน้าจอก็บอกว่า อยู่ เกียร์ O/D แต่ทำไมรอบเครื่องเหลือแค่ 1000 รอบเอง จึงกดไฟฉุกเฉิน ค่อยๆขับเคลื่อนขอชิดซ้าย สมองก็คิดไปด้วย หาประเด็นสาเหตุ
  3. ในใจคิดว่า ทำไมรถโดนฉุดกำลังรอบลงนะ ลูกปืนคอมพ์แอร์แตกหรือเปล่า แต่ถ้าแตกจริง ต้องมีเสียงสายพานดังศิ แต่นี่กลับเงียบๆ แต่ก็ลองปิดสวิทช์แอร์ เดินเบาอยู่ข้างทาง รอบเครื่องก็ยังอยู่ที่ 650 รอบ พอเหยียบคันเร่ง (คันเกียร์อยู่ที่ N) รอบเครื่องก็ขึ้นตามการเหยียบคันเร่ง ลองกลับมาเปิดสวิทช์แอร์ รอบเครื่องก็อยู่ 650 รอบเช่นเดิม เหยียบคันเร่ง รอบเครื่องก็ขึ้นปกติเช่นกัน เอาล่ะสิ เป็นอะไรหว่า ถ้าไม่ใช่คอมพ์แอร์ฉุดกำลัง แล้วมีอะไรฉุดกำลังอีกล่ะ แต่ขณะนั้น เครื่องยนต์แสดงอาการกลับเข้าสู่ปกติอีกแล้ว
  4. กดสวิทช์ดับไปฉุกเฉิน แล้วขับต่อ ระหว่างขับก็ปกติดี ทำให้แปลกใจ คิดไปด้วย ว่าเครื่องยนต์เป็นอะไร หรือว่า เครื่องยนต์มันเตือนเราว่า อย่าง่วงนะ ขับได้อีกประมาณ 5 กม. คราวนี้อาการกลับหนักขึ้นกว่าเดิม ทั้งๆที่ผมหายง่างแล้วนะ คราวนี้รอบเครื่องสวิง ระหว่าง 1000 รอบ กับ 450 รอบ สวิงขึ้นลงสลับกันไป ผมปิดคอมพ์แอร์ช่วยกำลังเครื่องก็ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่เ ลย หรือว่าจะเป็นเกียร์ออโต้เกเร? ฝืนขับแบบรอบเครื่องสวิงแป๊ปเดียว เครื่องยนต์ก็ดับ ผมก็ค่อยๆเหยียบเบรคให้รถหยุดสนิท แล้วปรับคันเกียร์ มาที่ N จะว่าเป็นเพราะความร้อนขึ้นสูงก็ไม่ใช่ เพราะว่า ความร้อนเครื่องผมปกติอยู่ที่ 87 - 88 องศา ช่วงเกิดอาการ 10 กว่ากิโลที่ผ่านมา ขึ้นมาสุดที่ 90 องศาเอง จะว่าเครื่องยนต์น๊อคเพราะความร้อนก็ไม่ใช่แน่ๆ เมื่อวานก็ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำในหม้อน้ำ ระดับน้ำมันเกียร์ ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี เครื่องไม่น่าจะน๊อคได้นะ คราวนี้สงสัยไปที่เกียร์ออโต้เป็นลำดับต่อไปแล้ ว หลังจากที่กล่าวหา คอมพ์แอร์ เป็นเหตุแล้วไม่ได้ผล คิดแล้ว จึงลองสตาร์ท เครื่องอีกครั้ง อ้าวติดและรอบเครื่องกลับมาปกติเหมือนเดิมอีกแล ้ว
  5. อย่ากระนั้นเลย ขณะที่เครื่องยนต์ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ รีบๆขับกลับเข้าบ้านดีกว่า ระยะทางเหลืออีกแค่ 50 กว่าก.ม.เท่านั้นเอง แต่เพื่อเซฟตี้ไว้ก่อน ขอเบนเข็ม มุ่งเข้าที่เส้นทางชุมชนดีกว่า เผื่อว่า เครื่องผิดปกติอีก จะได้หาช่างซ่อมใกล้ๆแถวนั้นได้
  6. ขับต่อไป อีกพักเดียว ได้ระยะประมาณ 7 - 8 กม.เกิดอาการเดิมเหมือนข้อ 4 อีกแล้วครับ คราวนี้คิดออกแล้วว่า เป็นเพราะเหตุใด จึงเปิดไฟขอทาง ค่อยๆเคลื่อนตัวเลี้ยวเข้าไปจอดในซอยเพื่อไม่เป็นที่ กีดขวางชาวบ้านครับ
จากนั้น โทรศัพท์เข้าโรงงานตามลูกน้อง บอกให้ขับรถมาหาผมที่เกิดเหตุ และเตรียมชุดเครื่องมือมาด้วย พร้อมๆกับให้เผื่อท่อนเหล็กพ่วงลากรถมาด้วย และบอกให้ลูกน้องวิ่งไปหาซ่อมอะไหล่มาให้ชิ้นหน ึ่ง ลูกน้องบอกผมว่า วันนี้วันอาทิตย์ ร้านอะไหล่ปิด จะซื้อได้อย่างไร ผมก็บอกว่า "ไม่รู้แหละ เป็นความผิดของคุณเอง เพราะฉะนั้น ถ้าซื้ออะไหล่ชิ้นนี้ให้ผมไม่ได้ ผมจะหักเงินเดือน เพราะฉะนั้น ต้องหาซื้อมาให้ได้ เคาะประตูเรียกให้ออกมาขายก็ได้ ต้องซื้อมานะ แต่ถ้าซื้อมาไม่ได้ ก็ต้องถอดเพลากลางแล้วลากรถกลับเข้าโรงงาน ผมก็จะหักเงินเดือนคุณมากขึ้นยิ่งกว่า เพราะว่า เป็นความผิดของคุณ ทำให้ผมพลาดงานไป 1 วัน" (จริงๆผมแกล้งหาเรื่องให้เป็นความผิดของลูกน้องเองครั บ เขาจะได้รีบออกมาหาผมเพื่อจะได้แก้ไขให้ลุล่วงได้โดย เร็วครับ)

************************************************** **
ผมขอถามว่า ท่านสมาชิกที่เปิดเข้ามาอ่าน ทราบมั้ยครับว่า อาการที่เกิดกับรถผมนั้น สาเหตุผิดปกตินั้น เกิดจากอะไรครับ? ผมไม่มี ชอยซ์ให้เลือก อยากให้เป็นความคิดเห็นแบบเปิดครับ โดยผมจะทิ้งกระทู้นี้ไว้ 1 วัน แล้วผมจะกลับมาเผยให้ทราบครับ

อยากจะให้บอกด้วยครับว่า ถ้าคิดว่า เป็นเพราะสาเหตุนั้นแล้ว จะสามารถพิสูจน์ว่า เป็นไปตามที่คุณคิดได้อย่างไรครับ?
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight อ่านกระทู้

ผมให้ข้อมูลเพิ่มอีกนิดนะครับ

รถผมมีจอ OBD1 ติดตั้งอยู่ด้วยครับ จึงทำให้มองเห็นข้อมูลของเครื่องยนต์อย่างละเอี ยด วิเคราะห์และตัดประเด็นปัญหาที่ไม่ควรจะเป็นออกไปได้ หลายประเด็นเลยครับ

อีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้ให้ข้อมูลไว้ก็คือ ช่วงที่ผมเครื่องดับ แล้วผมสตาร์ทใหม่นั้น มีช่วงหนึ่ง ไฟ Engine โชว์ขึ้นมา ไม่ยอมดับด้วยครับ ทำให้รู้ว่า กล่อง ECU ได้รับรู้แล้ว และมีฟ้อง Error ด้วยครับ แต่พอเครื่องยนต์ดับอีกครั้ง และสตาร์ทใหม่ ไฟโชว์ Engine ก็หายไปแล้วครับ เป็นไงครับ ข้อมูลที่เพิ่มให้ ทำให้เดาง่ายขึ้นมั้ยครับ

ผมขอเอาภาพ ทริปการเดินทางจาก GPS มาให้ดูเป็นหลักฐานครับ เดินทางแค่ 244.7 กม. ความเร็วเฉลี่ยเหลือ 44.8 กม.เอง เพราะว่า มีช่วงรถติด และเครื่องเสีย ทำให้ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทางลดลงครับ (เวลาการเดินทางตั้ง 5 ชม. 28 นาที แต่เคลื่อนที่จริงๆแค่ 3 ชม.55นาที ถ้ารถไม่เสียก็แสดงว่าผมขับรถเป็นเต่าคลานเลยคร ับ)


ผมขอเฉลยการวิเคราะห์ปัญหาอาการเครื่องยนต์ที่เกิดขึ ้นกับผมดังนี้ครับ

แรกๆ เนื่องจากว่า ผมอาจจะเป็นคนคิดมาดเกินไปก็ได้ ทำให้คิดหาสาเหตุเยอะแยะมากมายไปหมด แต้เป็นเพราะว่า ผมมี OBD1 ซึ่งบอกข้อมูลได้มากมายละเอียดยิบ จึงทำให้ค่อยๆตัดประเด็นออกไปดังนี้ครับ
  • ลูกปืนหน้าเครื่องแตก (คอมพ์แอร์, รอก, ตัวปั่นเพาเวอร์, ไดชาร์จเป็นต้น) ตัดประเด็นออก เพราะว่าไม่มีเสียงฝืดของสายพาน
  • ไดชาร์จเสื่อมชำรุด ตัดประเด็นออก เพราะว่าหน้าจอ OBD1 บอกว่า ไฟชาร์จขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ (ค่าเฉลี่ยขึ้นลงจาก 11.5 ถึง 13.5 โวล์ท ตามรอบเครื่องยนต์) พอเครื่องยนต์ดับ สตาร์ทรถให้ ก็ติดง่าย จึงเชื่อว่า ทั้งไดชาร์จและแบตเตอร์รี่ไม่มีปัญหาครับ
  • ความร้อนเครื่องยนต์ขึ้นสูง เครื่องน๊อค ตัดประเด็นออก เพราะว่า OBD1 บอกว่าความร้อน 88 องศา พอรอบเครื่องตกลงมาเหลือ 450 รอบตอนรถติด อุณหภูมิขึ้นมาที่ 90 องศาเอง
  • เกียร์มีปัญหาฉุดกำลังเครื่องยนต์ ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า OBD1 แจ้งบอกสถานะของเกียร์ ก่อนที่รอบจะตก อยู่ที่ เกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ พอรอบตก ก็ยังอยู่สถานะเดิม แต่พอเครื่องดับ สตาร์ทเครื่องใหม่ ก็เริ่มจากเกียร์ 1 ไล่ไปอย่างนิ่มนวลจนขึ้นถึงเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ จึงไม่น่าจะใช่
  • อ๊อกซิเจนเซนเซอร์ (ทีแรกผมสงสัยเป็นตัวการ) ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า OBD1 แจ้งบอกสถานะของ อ๊อกซิเจนเซนเซอร์ 14.7 ตอนรอบเครื่องปกติ ก่อนที่จะเริ่มกลับมาสวิง พอสตาร์ทติดอีกครั้ง ก็ยัง 14.7 อยู่ดีครับ
  • ยอยท้ายเกียร์ เพลากลางเฟืองท้าย ตัดประเด็นออกไป ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะว่าถ้ามีปัญหา เริ่มเสื่อม จะทำให้รถสั่นสะท้าน หรือมีเสียงดังให้ได้ยิน พอเครื่องยนต์ดับ สตาร์ทติดให้ จะต้องเกิดอาการทันที ไม่ใช่ ทำงานปกติสักพักค่อยเกิดอาการครับ
  • น้ำมันหมด ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า เกจ์น้ำมัน ยังลงไม่ถึงขีดแรกเลยครับ และผมเติมน้ำมันเต็ม 86 ลิตรก่อนออกเดินทาง วิ่งระยะทางแค่ 245 กม. หรือเป็นเพราะน้ำมันรั่ว?
  • ท่อน้ำมันรั่ว ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า ผมสงสัยจึงลงจากรถก้มมองพื้นรอบคัน ไม่มีร่องรอยที่พื้นและไม่มีกลิ่นน้ำมันเลยครับ
  • ECU เสื่อมชำรุด ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า ตอนเกิดอาการครั้งแรก ก็สงสัยอยู่ครับ แต่หลังจากเครื่องยนต์ดับ แล้วติดใหม่ อาการก็ปกติระยะหนึ่งก่อนที่จะเกิดอาการใหม่ ทำให้เลิกสงสัยเคสนี้ครับ
  • ลิ้นปีกผีเสื้อ ตัดประเด็นออกไป เพราะว่ารถผมเป็นระบบสายสลิงคันเร่ง ถ้าเกิดสาเหตุจาก ลิ้นปีกผีเสื้อ รอบเครื่องจะไม่สวิงเร็วสลับไปมาครับ มันจะค่อยๆขึ้น ค่อยๆลงแบบควบคุมไม่อยู่ (ถ้าภายในสกปรกทำให้ฝืด เวลาเหยียบคันเร่ง รอบเครื่องจะค่อยๆขึ้นแบบไม่ค่อยอยากขึ้น เวลาผ่อนคันเร่ง มันจะค่อยๆลงหรือไม่ยอมลงครับ)
  • รีเรย์ปั๊ม (ผมเก็บไว้ท้ายๆสงสัยเป็นตัวการเช่นกันครับ) แต่สุดท้ายแล้ว ก็ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า ถ้ารีเรย์มีปัญหา แรกๆมีโอกาสรอบเครื่องสวิง แต่ถ้าวูบเมื่อไหร่ จะดับเลย สตาร์ทใหม่จะไม่ติดครับ จึงเริ่มให้น้ำหนักตัวนี้น้อยลงไปเรื่อยๆครับ
เมื่อตัวการที่ทำให้ผมต้องคิดลึก ไม่เหลือแล้ว จึงให้มาคิดถึง ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกำลังของเครื่องยนต์ นั่นคือ
  1. ไฟ ได้แก่ คอยล์ สายหัวเทียน หัวเทียน ตัดประเด็นออกไป เพราะว่าผมเพิ่งจะ เปลี่ยนเครื่องยนต์ ใช้งานมายังไม่ถึง 40000 กม. โดยเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ และอาการที่เกิด ไม่น่าใช่แบบรอบเครื่องสวิง มันจะต้องเป็นอาการเดินเครื่องไม่เต็มสูบ แล้วกำลังตก เครื่องสั่น ครับ
  2. อากาศ เช่นกรองอากาศตัน (เป็นไปไม่ได้เพราะว่าผมใช้กรองอากาศชนิดผ้า ซึ่งเพิ่งล้างกรองฉีดน้ำยาเคลือบไม่นานเอง) ท่อแวคคั่มรั่ว เป็นไปได้อย่างมาก (แต่แปลกที่ไม่มีสมาชิกท่านใดสงสัยประเด็นนี้เลยครับ ) ถ้าท่อแวคคั่มหลุดรั่ว โดยเฉพาะท่อเมน จะมีอาการสวิงขึ้นลงทันที (เครื่องยนต์พยายามเร่งเครื่องเพื่อรับอากาศ แต่รั่วไปทางอื่นเกือบหมด) แต่ที่ทำให้ผม ตัดประเด็นออกไป เพราะว่า สตาร์ทติดใหม่ อาการเข้าสู่ภาวะปกติ ขับได้ดี พักใหญ่ๆ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เปิดฝากระโปรงดูเครื่องยนต์เล ย
  3. ระบบน้ำมัน ปั๊มติ๊กเสื่อม(ไม่เสียแต่เสื่อม), ท่อรั่ว (ตัดประเด็นไปแล้ว) หัวฉีดตันหรือรั่ว (ตัดประเด็นได้เลยเพราะว่า อาการจะไปคล้ายหัวเทียนบอดซึ่งผมตัดไปแล้ว) และสุดท้ายก็คือ กรองเบนซินตัน
สุดท้าย วงขอบเขตที่น่าสงสัยเหลือ 2 ตัวเท่านั้น ก็คือ ปั๊มติ๊ก กับ กรองเบนซิน แล้วจะพิสูจน์ชี้ชัดอย่างไรว่าเป็นตัวการไหนแน่ ใจจริงผมให้น้ำหนักเรื่องปั๊มติ๊กน้อยกว่า เพราะว่า ปั๊มติ๊กของผมเป็นปั๊มในถังน้ำมัน โอกาสร้อนจนทำให้เสื่อมน้อยกว่านอกถังเยอะมาก แต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นครับ จึงขอพิสูจน์ ว่าผมคิดถูกต้อง ดังนี้ครับ

ผมโทรไปหาลูกน้องทันที (ทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์ 555) บอกว่าให้ไปที่ห้องเครื่องมือ เปิดตู้ เอาแฟ้มวางเครื่องของรถคันนี้มาเปิดดูว่า ที่ผมสั่งให้เปลี่ยน อุปกรณ์สิ้นเปลืองทั้งหมดก่อนวางเครื่องยนต์นั้ น มีรายการอะไรมั่ง อ่านให้ผมฟังหน่อย เขาก็อ่านให้ผมฟังดังนี้
อ้างถึง:
สายพานหน้าเครื่อง
สายพานราวลิ้น พร้อมสปริง ลูกรอกต่างๆ
ปั๊มน้ำตัวหน้า
วาล์วน้ำ
หัวเทียน 6 หัว
ซีลหน้าและหลังเครื่อง
ถ่ายน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
ถ่ายน้ำมันเบรค DOT4
ถ่ายน้ำมันเครื่อง 5 ลิตร และเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง
ถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ของโตโยต้า 7 ลิตร
เปลี่ยนซีลเกียร์ที่ทอร์คคอนเวอร์ทเตอร์
ถ่ายน้ำมันเฟืองท้าย
ผมก็ถามกลับไปว่า แล้วกรองเบนซิน ทำไมไม่มีในรายการ ผมสั่งให้เปลี่ยนอุปกรณ์สิ้นเปลืองทั้งหมด เพื่อผมจะนับหนึ่งใหม่ไม่ใช่เหรอ เขาตอบผมว่า ก็เพราะว่า ก่อนที่ผมจะวางเครื่องผมเพิ่งเปลี่ยนกรองเบนซินไปไม่ นานเอง (ว่าแล้วไง) ทำให้น้ำหนักของประเด็นปัญหาที่กรองเบนซินมากขึ ้น แต่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ผมก็ใช้เหตุผลนี้ หาเรื่องให้ลูกน้องไปหาซื้อมาให้ได้เพราะเหตุนี้แหละ ครับ

ที่ผมให้เขาเตรียมเอาชุดเครื่องมือประแจมาให้คร บชุด เพราะสาเหตุว่า ต้องการเปลี่ยนกรองเบนซินนี่เองครับ เพราะว่า ท่อน้ำมันของผมเป็นสายถักแสตนเลส หัวสายเป็นอลูมิเนียมของ Earl ซึ่งขนาดหัวสายถักนั้น ใช้เบอร์ประแจไม่เหมือนทั่วๆไปครับ เป็นเบอร์ของทางฝั่งอเมริกา เบอร์ 16, 18, 20 และ 22 ครับ ส่วนที่ให้เอา ท่อนเหล็กลากรถ มาด้วยเพราะว่า ถ้าไม่ใช่กรองเบนซินเป็นตัวปัญหา มันก็ต้องเป็นปั๊มติ๊ก ซึ่งแก้ไขไม่ได้ในวันอาทิตย์ ต้องลากอย่างเดียว ซึ่งก็ต้องถอดเพลากลางออกเพื่อลากรถจะได้ทำให้เกียร์ ออโต้ไม่ร้อนจัดจนเกียร์พังครับ

พอลูกน้องซื้อมาแล้ว จึงจัดการเปลี่ยนเอาตัวเก่าออก ก็ถึงเวลาพิสูจน์ว่า เป็นตัวการตัวจริงที่ทำให้เครื่องยนต์ผมสวิงแล้วดับจ ริงหรือเปล่า โดยวิธีการ
  1. ถอดน๊อตหัวกรองออกแล้วเอานิ้วมืออุดไว้ แล้วถอดน๊อตท้ายกรองออกแล้วเอานิ้วอุดไว้เช่นกั น
  2. จากนั้น ให้ตั้งกรองเบนซินเป็นแนวตั้ง ให้ท่อทางออกไปหัวฉีดคว่ำลง เอานิ้วที่อุดออกทั้ง 2 ข้าง
  3. ถ้ากรองไม่ตัน น้ำมันเบนซินจะไหลพรวดออกมา
  4. แต่ถ้าตันมากจะไม่ไหล ตันน้อยจะค่อยๆไหล สีน้ำมันเบนซินก็เป็นตัวบอกครับ (สีคล้ำ) ถ้าไม่ไหล ลองเขย่าแรงๆ จะไหลออกมาแต่ไม่หมด ต้องเขย่าหลายๆที นั่นแหละครับ กรองเบนซินตัน ซึ่งกรองเบนซินของผมก็เป็นอาการนี้เลยครับ
หลังจากเปลี่ยนกรองเบนซินเสร็จเรียบร้อย สตาร์ทรถทีแรกจะไม่ค่อยติดเพราะว่าปั๊มติ๊กดันน้ำมัน ยังไม่เต็มรางน้ำมัน แต่พอติดแล้ว กำลังเครื่องยนต์มาทันทีครับ ขับต่อไปอีก 50 กม.ถึงบ้านสบายเลยครับ ลูกน้องที่กลัวถูกหักเงินเดือน วันนี้ก็รับเงินเดือนเต็มจำนวนไปพร้อมกับค่ากรองเบนซ ินและแถมเงินให้อีกนิดหน่อย ยิ้มร่าไปแล้วครับ



รูป
ชนิดของไฟล์: jpg กรองเบนซิน.jpg (19.9 KB, ดาวน์โหลด 51 ครั้ง)
ชนิดของไฟล์: jpg สายถัก.jpg (22.7 KB, ดาวน์โหลด 39 ครั้ง)
__________________
JZM - 5

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 01-04-2009 เมื่อ 10:42.
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 5 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
chakkrapad (05-02-2014), Dis48 (24-10-2009), due_jBo (15-08-2012), Jamisquatar (20-01-2013), Lufee69 (22-04-2012)
เก่า 31-03-2009, 15:54   #63
โกยเถอะเจ
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว โกยเถอะเจ
 
วันที่สมัคร: May 2007
Car Brand: จูนรถคนอื่นมันส์กว่าคับ
Engine Type: บอกว่าเจเดิมๆจะเชื่อไหม!!!..อิอิ
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีการร่ำสุรา และ นารี
กระทู้: 252
Thanks: 74
Thanked 229 Times in 91 Posts
คะแนน: 18 โกยเถอะเจ is on a distinguished road
แล้วทำไม่มีเช็คเอ็นจิ้นขึ้นด้วยล่ะครับ

หรือว่ามันฟ้องจากตัว ฟูลปั้ม คอนโทรลครับ
โกยเถอะเจ is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 31-03-2009, 16:12   #64
NUM999
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2008
Car Brand: ISUZU-DMAX4D
Engine Type: 2JZ-GTE
ที่อยู่: Samutprakan
กระทู้: 69
Thanks: 36
Thanked 73 Times in 31 Posts
คะแนน: 17 NUM999 is on a distinguished road
อืมม กรองเบนซินนี่เองตัวปัญหา สงสัยต้องเปลี่ยนบ้างแล้วครับ ยังไม่เคยเปลี่ยนเลย ไปตันต่างจังหวัดไกลๆละงานเข้าเลย ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล
NUM999 is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 31-03-2009, 16:28   #65
Colt cobra
ClubJZ Full Member 2556
 
รูปส่วนตัว Colt cobra
 
วันที่สมัคร: May 2007
Car Brand: BMW
Engine Type: JZ
ที่อยู่: นครปฐม-ราชบุรี
อายุ: 47
กระทู้: 92
Thanks: 4
Thanked 66 Times in 36 Posts
คะแนน: 18 Colt cobra is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Colt cobra
ไม่ได้เข้ามาดูเลยตกข่าว ขอตอบว่ากรองเบ็นซินครับ

ขอบคุณลุงมูนครับทำให้สมาชิกได้ร่วมทดสอบความรู ้
__________________
08-1583-0559 boyd ครับ

JZM_119 นครปฐม
Colt cobra is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 01-04-2009, 11:12   #66
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Jeab Klong7 อ่านกระทู้
แฮะ...ๆๆๆ ผิดไปนิดเดียว....
อย่างที่ผมได้บอกไว้แหละครับว่า ไม่มีใครผิดใครถูกครับ เพราะว่าผมหมกเม็ดบางอย่างเอาไว้ เพื่อต้องการให้แตกยอดประเด็นออกไป เพื่อให้ได้รับความรู้จากประสพการณ์ของแต่ละท่านกันถ ้วนหน้าครับ

นี่เป็นวิธีการกระจายความรู้แบบร่วมสนุกไปพร้อมๆกันค รับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 01-04-2009, 12:16   #67
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ โกยเถอะเจ อ่านกระทู้
แล้วทำไม่มีเช็คเอ็นจิ้นขึ้นด้วยล่ะครับ

หรือว่ามันฟ้องจากตัว ฟูลปั้ม คอนโทรลครับ
เพราะว่า มีช่วงที่เครื่องดับ แล้วต้องสตาร์ทเครื่องใหม่ ซึ่งช่วงนั้น การจ่ายน้ำมันผิดปกติ ระบบการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ครับ เซนเซอร์ต่างๆ คงจะต้องมีแจ้งเข้า ECU ครับ จึงเกิดระบบไฟเช็คเอนจิ้นติดขึ้นมาครับ แต่ว่า หลังจากที่เครื่องดับอีกครั้ง สตาร์ทใหม่ เป็นจังหวะที่แรงดันน้ำมัน ดันเพียงพอต่อการจุดระเบิด ไฟเช็คเอนจิ้นจึงดับไปครับ (จุดนี้แหละครับ ทำให้ผมชี้ประเด็นปัญหามาที่ ระบบน้ำมันทันทีครับ)
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 01-04-2009, 12:26   #68
BMกินJ@clubjz
ClubJZ Full Member 2557
 
รูปส่วนตัว BMกินJ@clubjz
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: BMW
Engine Type: 1JZ GTE Power by BLITZ
ที่อยู่: Every Where !
กระทู้: 484
Thanks: 0
Thanked 618 Times in 198 Posts
คะแนน: 20 BMกินJ@clubjz will become famous soon enoughBMกินJ@clubjz will become famous soon enough
Wink

อ้างถึง:
Moonlight
เพราะว่า มีช่วงที่เครื่องดับ แล้วต้องสตาร์ทเครื่องใหม่ ซึ่งช่วงนั้น การจ่ายน้ำมันผิดปกติ ระบบการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ครับ เซนเซอร์ต่างๆ คงจะต้องมีแจ้งเข้า ECU ครับ จึงเกิดระบบไฟเช็คเอนจิ้นติดขึ้นมาครับ แต่ว่า หลังจากที่เครื่องดับอีกครั้ง สตาร์ทใหม่ เป็นจังหวะที่แรงดันน้ำมัน ดันเพียงพอต่อการจุดระเบิด ไฟเช็คเอนจิ้นจึงดับไปครับ (จุดนี้แหละครับ ทำให้ผมชี้ประเด็นปัญหามาที่ ระบบน้ำมันทันทีครับ)
เฉลยแล้วเหรอครับน้ามูน......
อะโห.....ตอบผิดไปหน๋อยเดียว555 เราคงคิดมากไป และมองข้ามจุดนั้นไป เพราะคิดว่า แนวๆน้ามูนไม่น่าพลาดเรื่องนั้แล้วนา แต่น้ามูนไม่ได้พลาด.....ลูกน้องพลาด น้าเลยได้เหนื่อย อิอิ

*** งั้นเพื่อนๆก็เอา กระทู้น้ามูนเป็นตัวอย่างกันนะครับ เรื่องกรองเบนซิน ลูกละ 2-300เอง ว่างๆก็เปลี่ยนเล่นไป อุอุ ซึ่งหลายๆท่านในนี้ ก็เคยพลาดเรื่องนี้มา ผมก็เคยแต่เครื่องแค่เร่งไม่ดี เคยเห็นกรองเบนซินของรถพี่สันเมืองชลฯ หาสาเหตุตั้งนาน แต่เมื่อถอดกรองมาเขย่า....อะโห....สีของน้ำมันอย่าง กับ ชาเย็น(อร่อยๆ)
__________________
คนเรา...คบกันที่น้ำใจ ไม่ใช่น้ำลาย
Open your Mind , Open your Heart ,Open your Soul
Don't say Behind , Open UP-Open UP !!

" When The Children Cry "
http://www.dailymotion.com/search/wh...dren-cry_music


ชอบ feel ในการขับรถใหญ่ๆ แต่ให้มันไปแบบรถเล็กๆ
ชีวิตจริง.....มี TAKE เดียว
Because ... LIFE's SHORT

BMกินJ@clubjz is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 01-04-2009, 12:47   #69
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ohho108 อ่านกระทู้
แล้ว Obd1 มันคืออะไรครับ

ไม่รู้อะ
มันคือเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่มีหน้าจอ แจ้งบอกสถานะการทำงานของเครื่องยนต์ และเซนเซอร์ต่างๆของเครื่องยนต์ โดยดึงเอาสัญญาณจากกล่อง ECU มาแปลงเป็นค่าตัวเลขให้เห็นครับ

ของไทยทำราคาไม่แพงก็มีนะครับ แต่ผมพิมพ์เขียนมากกว่านี้ไม่ได้นะครับ จะเป็นการเสียมารยาทของบอร์ดเปล่าๆครับ เอาเป็นว่า คุณค้นหาในบอร์ดนี้ แล้วจะกระจ่างเองครับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 01-04-2009, 22:35   #70
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
ใครเข้ามาอ่านทีหลังจะงงนะครับ คำตอบอยู่ที่หน้า 6 กดตรงนี้ครับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following User Says Thank You to Moonlight For This Useful Post:
nibley (07-11-2009)
เก่า 02-04-2009, 00:26   #71
B ing
ClubJZ Web Register
 
วันที่สมัคร: Feb 2007
กระทู้: 5
Thanks: 0
Thanked 5 Times in 2 Posts
คะแนน: 0 B ing is on a distinguished road
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ B ing อ่านกระทู้
ข้อมูลไม่ค่อยมีอะ เครื่องยนต์ก็ไม่รู้ด้วย เป็นตัวไหน มีโบเปล่า หรือ มีVvti หรือไม่
ขอเสี่ยง 1 .ระบบน้ำมัน ไม่พอ หรือผิดปรกติ
2 . หรือระบบ Vvti ทำงานผิดปรกติ
จากกระทู้ที่ผมเข้าร่วม พอจำได้ไหนครับ.............

อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight อ่านกระทู้
เพราะว่า มีช่วงที่เครื่องดับ แล้วต้องสตาร์ทเครื่องใหม่ ซึ่งช่วงนั้น การจ่ายน้ำมันผิดปกติ ระบบการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ครับ เซนเซอร์ต่างๆ คงจะต้องมีแจ้งเข้า ECU ครับ จึงเกิดระบบไฟเช็คเอนจิ้นติดขึ้นมาครับ แต่ว่า หลังจากที่เครื่องดับอีกครั้ง สตาร์ทใหม่ เป็นจังหวะที่แรงดันน้ำมัน ดันเพียงพอต่อการจุดระเบิด ไฟเช็คเอนจิ้นจึงดับไปครับ (จุดนี้แหละครับ ทำให้ผมชี้ประเด็นปัญหามาที่ ระบบน้ำมันทันทีครับ)

รบกวนด้วยครับ ............... ขอถามต่อ นิดนึงครับช่วงที่ ECU มันฟ้องใช่ CODE 13 เปล่าครับหรือขึ้น Code อื่น เพราะอาการมันค่อนข้างกว้าง จากที่ได้ข้อมูลมาครั้งแรก เพื่อนสมาชิกที่ไม่ได้มี OBD1 Monitor จะได้ข้อมูลเพิ่มด้วยครับ ขอบคุณมากครับกับความรู้ในครั้งนี้ ขอบคุณครับ
B ing is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 02-04-2009, 01:25   #72
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ B ing อ่านกระทู้
จากกระทู้ที่ผมเข้าร่วม พอจำได้ไหนครับ.............




รบกวนด้วยครับ ............... ขอถามต่อ นิดนึงครับช่วงที่ ECU มันฟ้องใช่ CODE 13 เปล่าครับหรือขึ้น Code อื่น เพราะอาการมันค่อนข้างกว้าง จากที่ได้ข้อมูลมาครั้งแรก เพื่อนสมาชิกที่ไม่ได้มี OBD1 Monitor จะได้ข้อมูลเพิ่มด้วยครับ ขอบคุณมากครับกับความรู้ในครั้งนี้ ขอบคุณครับ

เพราะว่าอาการที่แสดงออกมาค่อนข้างกว้างไงครับ ผมจึงสามารถเอามาตั้งกระทู้ถามได้ครับ แต่ว่าอาการที่ค่อนข้างกว้างนั้น มันจะมีสภาพแวดล้อมปัจจัยร่วมอื่นๆให้ตัดประเด็นออกไ ปได้ ดังเช่นที่ผมวิเคราะห์ให้ดูครับ ดังนั้น สิ่งที่ผมบอกเล่าให้ฟังนั้น ต้องการให้ทุกท่านทราบว่า เวลาวิเคราะห์อาการของเครื่องนั้น อย่ามุ่งไปที่ประเด็นเดียว ปัจจัยเดียว ให้มองให้กว้างขึ้น นำทุกๆอย่างมาร่วมวิเคราะห์ด้วย แล้วตัดออกไปทีละประเด็น จนกระทั่ง ตัวการ จะโผล่ออกมาให้เห็นเองครับ เช่น อาการดังกล่าว สามารถสรุปได้เลยว่า น้ำมันจวนหมดถัง แต่ทำไมผมจึงตัดประเด็นนี้ออก ก็เพราะว่า ผมเพิ่งเติมน้ำมันเบนซิน 95 ลงไปทั้งหมด 86 ลิตร แต่ว่าวิ่งไปได้แค่ 245 กม.เอง (ตัดประเด็นนี้ออกไปได้ทันที ทั้งๆที่ตายังไม่ทันมองที่เกจ์วัดน้ำมันด้วยซ้ำไปครั บ) เป็นต้นครับ

ตอนที่ไฟโชวเช็คเอนจิ้นนั้น ที่หน้าปัดรถโชว์ครับ ไม่ใช่ OBD1 ครับ เราสามารถ ตรวจเช็คโค๊ด Error ได้จาก OBD1 เช่นกันครับ แต่ว่า ผมต้องถอดสลับสายไฟ ซึ่งในเวลานั้น ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่อง Code Error ครับ ซึ่งหลังจาก สตาร์ทใหม่ ไฟโชวเช็คเอนจิ้น ก็ดับไปแล้ว แต่ถ้าให้ผมวิเคราะห์ต่อไปว่า ช่วงไฟโชวเช็คเอนจิ้นออกมานั้น ถ้าผมเช็คโค๊ดจะได้ โค๊ดอะไรนั้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ได้โค๊ด 21 (สัญญาณตรวจจับอ๊อกซิเจนเซนเซอร์) และ/หรือ โค๊ด 25 (สัญญาณส่วนผสมบาง) มากกว่าครับ

เครื่องมือ (เช่น OBD1) เป็นแค่ตัวช่วยยืนยันความถูกต้องของการวิเคราะห์เท่า นั้นนะครับ อย่าถึงกับคิดว่าต้องพึ่งมันครับ เซ้นส์ของผู้วิเคราะห์และปัจจัยสภาพแวดล้อมครับ จะเป็นตัวช่วยให้เราวิเคราะห์ได้ถูกต้องแม่นยำขึ้นคร ับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 02-04-2009, 06:44   #73
naipig
Junior Member
 
รูปส่วนตัว naipig
 
วันที่สมัคร: Jul 2007
Car Brand: TOYOTA CRESSIDA RX30
Engine Type: 1JZ-GE A/T + LPG MIX
ที่อยู่: NAKHONSAWAN
กระทู้: 5
Thanks: 0
Thanked 1 Time in 1 Post
คะแนน: 0 naipig is on a distinguished road
นี่ถ้าเครื่องเจของน้ามูนดมแก๊สด้วย ก็กลับถึงบ้านนานแล้วละครับ

และสำหรับผู้ที่ใช้เชื้อเพลิงทางเลือก(แก๊ส)ด้วย คงไม่ค่อยมีโอกาสเจอปัญหานี้ครับ

เพราะปกติตอนวิ่งก็จะใช้แก๊สตลอดอยู่แล้ว
naipig is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 02-04-2009, 07:17   #74
retro_boy
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว retro_boy
 
วันที่สมัคร: Oct 2007
Car Brand: ISUZU-TFR
Engine Type: 1JZ-GTE
ที่อยู่: กรุงเทพ-ปทุมธานี
กระทู้: 183
Thanks: 18
Thanked 422 Times in 77 Posts
คะแนน: 18 retro_boy is on a distinguished road
ผมใช้แบบล้างได้ของ Bullet อ่ะครับน้ามูน ลองซื้อมาใช้ดูสิครับดีนะ
retro_boy is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 02-04-2009, 08:12   #75
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ naipig อ่านกระทู้
นี่ถ้าเครื่องเจของน้ามูนดมแก๊สด้วย ก็กลับถึงบ้านนานแล้วละครับ

และสำหรับผู้ที่ใช้เชื้อเพลิงทางเลือก(แก๊ส)ด้วย คงไม่ค่อยมีโอกาสเจอปัญหานี้ครับ

เพราะปกติตอนวิ่งก็จะใช้แก๊สตลอดอยู่แล้ว
ขอบคุณครับ
ผมเองก็อยากใช้แก๊สเช่นกันนะครับ แต่ว่า ผมติดปัญหาเรื่องหาที่วางถังแก๊สที่เหมาะสมไม่ได้ครั บ
แต่ว่าการติดแก๊ส ถึงแม้ว่าเป็นทางเลือกในการบันเทาปัญหาก็จริงครับ แต่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหานะครับ และเพราะเหตุที่คุณนำเสนอความคิดนี้เองครับ ที่ได้เกิดปัญหากับคนที่ใช้แก๊สครับ เพราะว่าจะมีคนประเภทที่ว่า "เอาไว้ก่อน" หมายถึงว่า พอเกิดปัญหาไม่ว่าระบบแก๊สหรือน้ำมัน ก็จะสลับไปใช้อีกระบบหนึ่งอย่างง่ายๆ แล้วปล่อยคาปัญหาไว้อย่างนั้นแหละครับ โดยจะคิดว่า "รถยังใช้ได้ ใช้ไปก่อน งานอื่นสำคัญกว่า" เสร็จแล้วก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังจนยากจะแก้ไข เพราะว่า กว่าระบบสำรองจะเกิดปัญหาจนจำเป็นต้องตามช่างมาแก้ไข ถึงเวลานั้นแล้วจะหนักหนาเอาเรื่องเลยครับ เช่นปัญหาของการใช้ระบบน้ำมันแล้วเครื่องกระพือ หรือสตาร์ทติดยาก ไม่ติด จึงปรับเปลี่ยนมาใช้สตาร์ทด้วยแก๊ส แล้วก็เป็นอย่างที่ผมกล่าวไว้ครับ สุดท้ายกว่าจะมาแก้ไข หัวฉีดน้ำมันได้ตายไปแล้วครับ เป็นต้น

อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ retro_boy อ่านกระทู้
ผมใช้แบบล้างได้ของ Bullet อ่ะครับน้ามูน ลองซื้อมาใช้ดูสิครับดีนะ
ขอบคุณที่แนะนำครับ จะรับไว้พิจารณานะครับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
ตอบกลับ



กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:03


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels