ชมนุม Sport Rider กินเจที่นี่เลยครับ - หน้า 69

**wk7000** · 04-03-2011, 10:48

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Pong79

ผมมีสองคัน

คันหนึ่งสปอรต์ครุยเซอร์ไม่ย้ายแผง คอยล์ร้อนโรงงานเดิม 2 ตู้แต่พัดลมคอยล์ร้อนระบายได้ดี

คันสปอรต์ไรเดอร์ ย้ายแผง มีสองอันครับ ตัวใหญ่อยู่ใต้ท้องกลางรถ ตัวเล็กอยู่ใต้หม้อน้ำ มันก็เย็นดีครับ

คอมบิว้มันก็ดีตรงมีประกัน
คอมมือสองเชียงกงเขาก็ประกัน 7 วัน ถ้าซื้อแบบไม่มีประกันก็อาจได้ราคาต่ำลงมานิดหน่อยคร ับ

คอมโรตารี่มันเช็คกำลังอัดไม่ได้ ไม่เหมือนคอมลูกสูบ ใส่เข้าไป ถ้าดังก็รื้ออีกรอบ ผมก็พลาดมาแล้ว ดีว่าทำแอร์เอง ถอดก็ยาก เสียเวลาเสียน้ำยาแอร์ฟรี

ไงเอามีประกันไว้ก่อนชัวร์กว่าครับ

ถ้าต้องการมือสอง คุณวุฒิลองเช็คไปที่นีก็ได้ครับว่ามีหรือเปล่า 028828075-6 , 8828077 ช.รุ่งเรือง บางกรวย-ไทรน้อย

ขอบคุณครับ

ผมก็กะว่าจะมาเปลี่ยนเอง แล้วให้ร้านใกล้ ๆ บ้านแวค+เติมน้ำยาให้ครับ

ล่าสุดวันนี้ผมพึ่งได้คอมฯ แบบสวอทเพรส เบอร์ 20 มาราคา 2100 เหลืออยู่ตัวเดียวพอดี กำลังอัดยังดี น้ำมันยังใสอยู่

แต่ช่วงนี้ยังไม่ว่างรื้อ ทนใช้ของเดิมไปก่อนครับ

**wk7000** · 04-03-2011, 19:14

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ jojozang

รายงานผลครับ
1.หลังจากที่เปลี่ยนหม้อน้ำแบบ อลูมิเนียม 2 ช่อง แต่ใหญ่กว่าหม้อน้ำทองแดง 2 ช่อง พัดลมแบบดูด 2 สเตป ผลปรากฎว่า ความร้อนยังขึ้นเหมือนเดิมแต่ขึ้นช้ากว่าเดิมหน่อย คือวิ่งที่ 120 แช่ยาวๆ ความร้อนขึ้นประมาณ 110 องศาอะครับ ช่างบอกว่าต้องเพิ่มหม้อน้ำเล็กอีกลูกไว้ใต้ท้องแล้ว เอาพัดลมเป่าเอา

2.แอร์มันไม่เย็นเลย ยิ่งเหยียบก็ยิ่งไม่เย็นมีแต่ลมออกมา ทั้งที่ก่อนเปลี่ยนเครื่องมันเย็นเจี๊ยบเลยอะครับ มัเป็นเพราะอะไร

3.เวลาจอดได้กลิ่นน้ำมันเกียร์เข้ามาในเก๋ง กลิ่นแรงมากแรงจนมึนหัวเลยครับ มันเป็นเพราะอะไร

ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับผม รถผมมันอยู่อู่นานเกินไปแล้ว อยากขับมากๆ

คุณ jojozang เป็นอย่างไรบ้างครับ แก็ไขไปถึงไหนแล้ว

ผมวิ่งผ่านไปตรงสามแยก ที่ซ้ายไปโพธิ์ทอง ขวาไปอ่างทอง เห็นมีอู่อยู่ทางขวามือ

เคยเห็นสปอร์ตไรเดอร์ยกสูงจอดอยู่ไม่ทราบว่าใช่ของคุ ณ jojozang หรือเปล่า

เรื่องความร้อนของผมตอนนี้ตั้งแต่ขึ้นเทอร์โบเดี่ยวค วามร้อนลดลงไปเยอะเลย

ประมาณ 3-5 องศา ตอนกลางวันแดดจัด ๆ อุณหภูมิข้างนอก 36 องศา ผมวิ่งแช่ติดบูสหน่อย ๆ

ความเร็วที่ 140-150 ความร้อนอยู่ที่ 87 องศา ซึ่งตอนเทอร์โบเดิมจะอยู่ที่ 90-95 องศาครับ

สงสัยว่าห้องเครื่องมันโล่งขึ้น ความร้อนสะสมลดลง หลังจากงานเข้าหม้อน้ำเดิม

ตอนนี้ผมเปลี่ยนหม้อน้ำเป็นอลูมิเนียมช่องใหญ่ช่องเด ียว หนารวมฝาประมาณ 2 นิ้ว

พัดลมไฮโดรลิค ความร้อนก็อยู่ช่วง 83-87 องศา ถ้ายังมีปัญหาความร้อนอยู่จะมาดูของผมเป็นแนวทางก็ได ้นะครับ

**volvoman** · 04-03-2011, 22:08

ตอนนี้หมดความอดทนกับเบรคของ sportrider แล้วครับ สิ่งที่ทำไปแล้วคือเปลี่ยนหม้อลมสองชั้นใช้แม่ปั๊มเด ิม และติดหม้อลมเสริมอลูมิเนียมลูกโตอีก 1 ใบ ปัญหาคือเบรคมาช้าครับ กระทืบที่ทำลมอยู่นานรอเสมือนหน่วงหายไปสัก 1 วินาทีแบบออกอาการคนหัวช้าคิดนานแล้วค่อยทำงาน เวลากระทันหันๆเป็นแบบนี้ทุกทีเกือบสอยรถคนอื่นหลายค รั้งแล้ว....มันต่างจากรถอื่นๆมากครับ
ทางเลือกที่คิดไว้
1. เอาชุดเบรคหน้า aristo 320 mm 4 port มาแทนชุดหน้าที่ติดรถทั้งชุด
2. เอาแต่คาลิเปอร์ 4 port ของ aristo มาใช้และซื้อจานขยายของ runstop และทำขารับคาลิเปอร์ใหม่ (ที่ชุดเบรคหน้า)
3. แนวทางไม่ยุ่งกับเบรคหน้า แต่แปลงเบรคหลังทั้งดุมให้เป็นดิสเบรค โดยใช้รุ่นที่สามารถแปลงลงได้เลยหรือแปลงน้อยที่สุด

ทั้งสามแนวทางแนะนำด้วยครับ เพราะลองมาหมดทั้งเปลี่ยนผ้าเบรคทั้งชุดก็ไม่ดีขึ้นค รับ....ขอให้แค่ได้อารมณ์การเบรคเหมือน fortuner รุ่นธรรมดาก็พอใจแล้วครับ

**wk7000** · 04-03-2011, 22:26

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ volvoman

ตอนนี้หมดความอดทนกับเบรคของ sportrider แล้วครับ สิ่งที่ทำไปแล้วคือเปลี่ยนหม้อลมสองชั้นใช้แม่ปั๊มเด ิม และติดหม้อลมเสริมอลูมิเนียมลูกโตอีก 1 ใบ ปัญหาคือเบรคมาช้าครับ กระทืบที่ทำลมอยู่นานรอเสมือนหน่วงหายไปสัก 1 วินาทีแบบออกอาการคนหัวช้าคิดนานแล้วค่อยทำงาน เวลากระทันหันๆเป็นแบบนี้ทุกทีเกือบสอยรถคนอื่นหลายค รั้งแล้ว....มันต่างจากรถอื่นๆมากครับ
ทางเลือกที่คิดไว้
1. เอาชุดเบรคหน้า aristo 320 mm 4 port มาแทนชุดหน้าที่ติดรถทั้งชุด
2. เอาแต่คาลิเปอร์ 4 port ของ aristo มาใช้และซื้อจานขยายของ runstop และทำขารับคาลิเปอร์ใหม่ (ที่ชุดเบรคหน้า)
3. แนวทางไม่ยุ่งกับเบรคหน้า แต่แปลงเบรคหลังทั้งดุมให้เป็นดิสเบรค โดยใช้รุ่นที่สามารถแปลงลงได้เลยหรือแปลงน้อยที่สุด

ทั้งสามแนวทางแนะนำด้วยครับ เพราะลองมาหมดทั้งเปลี่ยนผ้าเบรคทั้งชุดก็ไม่ดีขึ้นค รับ....ขอให้แค่ได้อารมณ์การเบรคเหมือน fortuner รุ่นธรรมดาก็พอใจแล้วครับ

เรื่องหม้อลมเสริมผมก็เคยมีประสบการณ์แบบที่คุณ Volvoman ว่าครับ เหยียบได้หลายครั้งจริง แต่มันเหมือนกับลมเต็มช้ากว่าเดิม

ยิ่งใช้ในเมืองต้องใช้เบรกบ่อย ๆ บางครั้งแรงแวคที่เครื่องสร้างมันไม่ทันกับที่เราต้อ งการใช้

ปัจจุบันผมถอดออกไปเรียบร้อย เหลือแต่เพียงหม้อลม 2 ชั้นลูกเดียว

ว่าแต่ได้ลองผ้าเบรกเนชั่นแนลสีชมภูหรือยังครับ ผมว่าโอเคนะครับ กดเบรกหนัก ๆ มีหัวทิ่ม

ส่วนแนวทางอัพเกรดผมว่าลองขยายจานเบรกหน้าเดิมดูก่อน ดีกว่าครับ

ใช้คาลิปเปอร์เดิม เพราะมันเป็น 4 พอร์ทอยู่แล้ว ขนาดก็ค่อนข้างใหญ่ น่าจะพอ ๆ กับ Aristo นะครับ

ผ้าเบรกขนาดเท่ากับ Skyline ขยายจานเบรกใหญ่ขึ้น แรงหนีศูนย์เพิ่มขึ้นเบรกก็น่าจะจับดีขึั้นตามครับ

**Pong79** · 07-03-2011, 22:39

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

ขอบคุณครับ

ผมก็กะว่าจะมาเปลี่ยนเอง แล้วให้ร้านใกล้ ๆ บ้านแวค+เติมน้ำยาให้ครับ

ล่าสุดวันนี้ผมพึ่งได้คอมฯ แบบสวอทเพรส เบอร์ 20 มาราคา 2100 เหลืออยู่ตัวเดียวพอดี กำลังอัดยังดี น้ำมันยังใสอยู่

แต่ช่วงนี้ยังไม่ว่างรื้อ ทนใช้ของเดิมไปก่อนครับ

รอฟังผลครับ...

**wk7000** · 07-03-2011, 23:57

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Pong79

รอฟังผลครับ...

ยังไม่ได้ทำเลยครับ

ดูจากเพลทคอมฯที่ซื้อมาใหม่ดันเป็นน้ำยา R12 อีก

เลยว่าจะเอาไปเปลี่ยนซีลคอมฯให้สามารถใช้น้ำยา 134A ได้ก่อน

รวมถึงน่าจะต้องเอาน้ำยา F11 ล้างด้านในเพราะใช้น้ำมันคอมฯคนละเบอร์กันอีก

ผมเคยไปดูร้านใกล้ ๆ บ้านรื้อคอมฯที่เสีย รุ่นเดียวกัน ต่างกันที่ใช้น้ำยาคนละเบอร์

มีจุดที่ไม่เหมือนกันคือซีลคอหน้า เท่านั้นที่เอง

ภายในมันมีส่วนที่เป็นยาง คือซีลคอหน้า 1 ตัว โอริง 3 วง นอกนั้นเป็นโลหะทั้งหมด

โอกาศที่คอมฯจะพังได้ก็เกิดจากความร้อนหรือแรงดันสูง เกิน น้ำมันคอมรั่ว ขาด หมดสภาพ

ใช้น้ำมันหรือน้ำยาปลอม เติมน้ำมันและน้ำยาผิดเบอร์หรือเติมผสมกัน

นอกจากนั้นผมก็ยังไม่เห็นสาเหตุที่มันจะพังได้

เอาข้อมูลมาลงไว้เผื่อบางท่านยังไม่ทราบครับ

ไว้มีโอกาสจะถ่ายรูปภายในคอมมาให้ดูครับ

**volvoman** · 08-03-2011, 00:50

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

ยังไม่ได้ทำเลยครับ

ดูจากเพลทคอมฯที่ซื้อมาใหม่ดันเป็นน้ำยา R12 อีก

เลยว่าจะเอาไปเปลี่ยนซีลคอมฯให้สามารถใช้น้ำยา 134A ได้ก่อน

รวมถึงน่าจะต้องเอาน้ำยา F11 ล้างด้านในเพราะใช้น้ำมันคอมฯคนละเบอร์กันอีก

ผมเคยไปดูร้านใกล้ ๆ บ้านรื้อคอมฯที่เสีย รุ่นเดียวกัน ต่างกันที่ใช้น้ำยาคนละเบอร์

มีจุดที่ไม่เหมือนกันคือซีลคอหน้า เท่านั้นที่เอง

ภายในมันมีส่วนที่เป็นยาง คือซีลคอหน้า 1 ตัว โอริง 3 วง นอกนั้นเป็นโลหะทั้งหมด

โอกาศที่คอมฯจะพังได้ก็เกิดจากความร้อนหรือแรงดันสูง เกิน น้ำมันคอมรั่ว ขาด หมดสภาพ

ใช้น้ำมันหรือน้ำยาปลอม เติมน้ำมันและน้ำยาผิดเบอร์หรือเติมผสมกัน

นอกจากนั้นผมก็ยังไม่เห็นสาเหตุที่มันจะพังได้

เอาข้อมูลมาลงไว้เผื่อบางท่านยังไม่ทราบครับ

ไว้มีโอกาสจะถ่ายรูปภายในคอมมาให้ดูครับ

วันก่อนเอา volvo 2jgeไปเปลี่ยนคอมเบอร์ 20 ช่างชำแหละ คอมเบอร์ 20 เดิมออก(น้ำมันคอมดำทั้งระบบ คอมมีเสียง คาดว่าใกล้น๊อคแล้ว) โดยแทนด้วยลูกใหม่ แต่น้ำยากลายเป็น 134 แทน r12 เรียบร้อย พร้อมทั้งล้างระบบเปลี่ยนยางโอริงทุกจุด เท่าที่ทำได้ เปลี่ยน dryer เปลี่ยนวาล์วแอร์ ล้างตู้แอร์ และช่างบอกว่าใช้สายร่วมกันได้ ทั้งที่ผมทักแล้วว่าแรงดันมันน่าจะต่างกัน แต่ช่างยืนยันว่าเปลี่ยนโอริงทุกจุดพอ เพราะโอริงที่ใช้กับ r134 จะเส้นอ้วนกว่า และรับประกันให้ 3 เดือน....ตอนนี้โดนไปเรียบร้อย ผ่านไปแล้ว 15 วันยังเย็นอยู่ครับ ไม่มีปัญหาอะไร .....แต่เล่นซะตัวเบาเลย.....ใจจริงยังคาใจครับ ว่ามันใช้กันได้จริงหรือเปล่า เพราะอ่านหนังสือมา ส่วนมากผู้รู้บอกว่าต้องเปลี่ยนทั้งระบบรวมสายด้วย เพระแรงดันน้ำยาใหม่สูงกว่า

**Pong79** · 08-03-2011, 07:14

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

ยังไม่ได้ทำเลยครับ

ดูจากเพลทคอมฯที่ซื้อมาใหม่ดันเป็นน้ำยา R12 อีก

เลยว่าจะเอาไปเปลี่ยนซีลคอมฯให้สามารถใช้น้ำยา 134A ได้ก่อน

รวมถึงน่าจะต้องเอาน้ำยา F11 ล้างด้านในเพราะใช้น้ำมันคอมฯคนละเบอร์กันอีก

ผมเคยไปดูร้านใกล้ ๆ บ้านรื้อคอมฯที่เสีย รุ่นเดียวกัน ต่างกันที่ใช้น้ำยาคนละเบอร์

มีจุดที่ไม่เหมือนกันคือซีลคอหน้า เท่านั้นที่เอง

ภายในมันมีส่วนที่เป็นยาง คือซีลคอหน้า 1 ตัว โอริง 3 วง นอกนั้นเป็นโลหะทั้งหมด

โอกาศที่คอมฯจะพังได้ก็เกิดจากความร้อนหรือแรงดันสูง เกิน น้ำมันคอมรั่ว ขาด หมดสภาพ

ใช้น้ำมันหรือน้ำยาปลอม เติมน้ำมันและน้ำยาผิดเบอร์หรือเติมผสมกัน

นอกจากนั้นผมก็ยังไม่เห็นสาเหตุที่มันจะพังได้

เอาข้อมูลมาลงไว้เผื่อบางท่านยังไม่ทราบครับ

ไว้มีโอกาสจะถ่ายรูปภายในคอมมาให้ดูครับ

เตรียมไว้ก่อนก็ดีครับ ทำทีเดียวจะได้จบ
ไว้รับหน้าร้อน (มากๆ)

**wk7000** · 08-03-2011, 09:03

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ volvoman

วันก่อนเอา volvo 2jgeไปเปลี่ยนคอมเบอร์ 20 ช่างชำแหละ คอมเบอร์ 20 เดิมออก(น้ำมันคอมดำทั้งระบบ คอมมีเสียง คาดว่าใกล้น๊อคแล้ว) โดยแทนด้วยลูกใหม่ แต่น้ำยากลายเป็น 134 แทน r12 เรียบร้อย พร้อมทั้งล้างระบบเปลี่ยนยางโอริงทุกจุด เท่าที่ทำได้ เปลี่ยน dryer เปลี่ยนวาล์วแอร์ ล้างตู้แอร์ และช่างบอกว่าใช้สายร่วมกันได้ ทั้งที่ผมทักแล้วว่าแรงดันมันน่าจะต่างกัน แต่ช่างยืนยันว่าเปลี่ยนโอริงทุกจุดพอ เพราะโอริงที่ใช้กับ r134 จะเส้นอ้วนกว่า และรับประกันให้ 3 เดือน....ตอนนี้โดนไปเรียบร้อย ผ่านไปแล้ว 15 วันยังเย็นอยู่ครับ ไม่มีปัญหาอะไร .....แต่เล่นซะตัวเบาเลย.....ใจจริงยังคาใจครับ ว่ามันใช้กันได้จริงหรือเปล่า เพราะอ่านหนังสือมา ส่วนมากผู้รู้บอกว่าต้องเปลี่ยนทั้งระบบรวมสายด้วย เพระแรงดันน้ำยาใหม่สูงกว่า

ท่อแอร์ถ้าเป็นท่อยางต้องดูที่ท่อด้วยครับ ถ้าเป็นท่อที่ทำมาสำหรับ 134A มักจะสกรีนที่ท่อว่าใช้ R12 ได้

แต่ถ้าเป็นท่อยาง R12 จะเอามาใช้ 134A ไม่ได้ จริง ๆ มันจะทนได้สักระยะ ภายในมันจะล่อนออก

เป็นเม็ดยางเล็ก ๆ ออกมาเลย อันนี้ประสบการณ์ตรงครับ เดิมผมใช้ R12 แล้วท่อแป๊บอลูมิเนียมเป็นตามด

น้ำยารั่วออกหมด พอดีช่วงนั้นเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วหาน้ำยา R12 เติมไม่ได้ เลยลองใช้ 134A

ปรากฎว่าใช้ได้ประมาณไม่ถึงเดือน คอมฯพัง ต้องรื้อล้างระบบไหมเลย จึงมาเจอเศษท่อยางที่ล่อนออก

เยอะมาก น้ำยาแอร์ก็ดำมากด้วยครับ

**jojozang** · 08-03-2011, 11:20

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

คุณ jojozang เป็นอย่างไรบ้างครับ แก็ไขไปถึงไหนแล้ว

ผมวิ่งผ่านไปตรงสามแยก ที่ซ้ายไปโพธิ์ทอง ขวาไปอ่างทอง เห็นมีอู่อยู่ทางขวามือ

เคยเห็นสปอร์ตไรเดอร์ยกสูงจอดอยู่ไม่ทราบว่าใช่ของคุ ณ jojozang หรือเปล่า

เรื่องความร้อนของผมตอนนี้ตั้งแต่ขึ้นเทอร์โบเดี่ยวค วามร้อนลดลงไปเยอะเลย

ประมาณ 3-5 องศา ตอนกลางวันแดดจัด ๆ อุณหภูมิข้างนอก 36 องศา ผมวิ่งแช่ติดบูสหน่อย ๆ

ความเร็วที่ 140-150 ความร้อนอยู่ที่ 87 องศา ซึ่งตอนเทอร์โบเดิมจะอยู่ที่ 90-95 องศาครับ

สงสัยว่าห้องเครื่องมันโล่งขึ้น ความร้อนสะสมลดลง หลังจากงานเข้าหม้อน้ำเดิม

ตอนนี้ผมเปลี่ยนหม้อน้ำเป็นอลูมิเนียมช่องใหญ่ช่องเด ียว หนารวมฝาประมาณ 2 นิ้ว

พัดลมไฮโดรลิค ความร้อนก็อยู่ช่วง 83-87 องศา ถ้ายังมีปัญหาความร้อนอยู่จะมาดูของผมเป็นแนวทางก็ได ้นะครับ

ใช้แล้ครับรถผมเอง สีน้ำเงินยกสูกนั้นแหละครับ แก้ไขแล้วความร้อนยังขึ้นอยู่เหมือนเดิมครับ ขนาดเปลี่ยนหม้อน้ำอลูมิเนียม 2 ชั้นและเพิ่มหม้อทองแดง ของซีวิคเอาไว้ใต้ท้องรถอีก 1 ลูก วิ่งแช่ที่ 130 - 140 ความร้อนขึ้นที่ 107 องศาอะครับ แล้วก็เรื่องแอร์เหมือนกันครับ ขนาดเพิ่มแผงแอร์แบบรถตู้ไว้ใต้ทองแล้วมันยังไม่เย็น ฉ่ำเลยครับ อาการคือเววาจอดเปิดแอร์เย็น แต่เวลาขับมันไม่เย็นเลยอะครับ แล้ก็น้ำมันเกียร์เวลาขับไปจอดติดไฟแดงกลิ่นมันเหม็น เข้ามาในรถอะครับ คงต้องแก้ไขกันอีกซักพักอะครับ คุณวุฒิช่วยแนะนำที่ว่าต้องแก้ไขยังไงต่อครับ

**wk7000** · 08-03-2011, 19:38

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ jojozang

ใช้แล้ครับรถผมเอง สีน้ำเงินยกสูกนั้นแหละครับ แก้ไขแล้วความร้อนยังขึ้นอยู่เหมือนเดิมครับ ขนาดเปลี่ยนหม้อน้ำอลูมิเนียม 2 ชั้นและเพิ่มหม้อทองแดง ของซีวิคเอาไว้ใต้ท้องรถอีก 1 ลูก วิ่งแช่ที่ 130 - 140 ความร้อนขึ้นที่ 107 องศาอะครับ แล้วก็เรื่องแอร์เหมือนกันครับ ขนาดเพิ่มแผงแอร์แบบรถตู้ไว้ใต้ทองแล้วมันยังไม่เย็น ฉ่ำเลยครับ อาการคือเววาจอดเปิดแอร์เย็น แต่เวลาขับมันไม่เย็นเลยอะครับ แล้ก็น้ำมันเกียร์เวลาขับไปจอดติดไฟแดงกลิ่นมันเหม็น เข้ามาในรถอะครับ คงต้องแก้ไขกันอีกซักพักอะครับ คุณวุฒิช่วยแนะนำที่ว่าต้องแก้ไขยังไงต่อครับ

เรื่องความร้อน ใช้เกจ์วัดของอะไรครับ แล้วเข็มความร้อนที่หน้าปัทม์เป็นอย่างไรบ้าง

มันน่าสงสัยที่ว่าหม้อน้ำ 2 ลูกยังเอาไม่อยู่ มันแปลก ๆ อีกอย่างรถก็สูงอากาศก็ไหลเวียน

ถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่ารถเก๋งเตี้ย ๆ ด้วยครับ

หรือลองถ่ายรูปห้องเครื่องและหม้อน้ำมาดูหน่อยครับจะ ได้วิเคราะห์กันง่ายขึ้น

ถ่ายรูปมาแล้วไปฝากไฟล์ไว้ที่เวปนี้ก็ได้ครับ http://image.ohozaa.com/ แล้วนำลิงค์มาลงที่นี่

ส่วนเรื่องแอร์เวลาจอดเย็น แต่เวลาวิ่งไม่เย็นอาการเหมือนเติมน้ำยาเกิน เวลาวิ่งมันเลยไม่เย็น ยังไงลองเช็คดูตรงนี้ก่อนครับ

ถ้าน้ำยาเกินจริงปล่อยน้ำยาออกสักหน่อย ให้ได้ระดับพอดีหรือขาดนิด ๆ เวลาเร่งเครื่องแล้วเต็มพอดีก็ได้ครับ

เรื่องกลิ่นน้ำมันเกียร์ ต้องลองเช็คดูก่อนว่ามีจุดรั่วซึมตรงไหนบ้างหรือเปล่ า

ตามปกติแล้วระบน้ำมันเกียร์ออโต้เป็นระบบปิด ถ้าไม่มีจุดรั่วซึมกลิ่นไม่น่ามีออกมาเยอะนะครับ

เว้นแต่เติมน้ำมันเกียร์เกินจนมันระบายออกทางด้านบนเ กียร์ข้างหัวหมู

หรือน้ำมันร้อนจัด กลิ่นก็จะโชยออกมาได้ ลองเช็คจุดรั่วซึมดูก่อนครับ รวมถึงระดับน้ำเกียร์ด้วย เติมให้พอดีอย่าให้เกินครับ

**RCA_BAM** · 08-03-2011, 23:49

สวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ(กระทู้เดิมผมชื่อพนมครับ sportrider สีทอง 1jz-gee+lpg หัวฉีด คันเก่าขายไปแล้วครับ)ปัจจุบันได้คันใหม่แล้วกำลังจะ ลง 2jz-ge ครับ

**jojozang** · 09-03-2011, 13:49

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

เรื่องความร้อน ใช้เกจ์วัดของอะไรครับ แล้วเข็มความร้อนที่หน้าปัทม์เป็นอย่างไรบ้าง

มันน่าสงสัยที่ว่าหม้อน้ำ 2 ลูกยังเอาไม่อยู่ มันแปลก ๆ อีกอย่างรถก็สูงอากาศก็ไหลเวียน

ถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่ารถเก๋งเตี้ย ๆ ด้วยครับ

หรือลองถ่ายรูปห้องเครื่องและหม้อน้ำมาดูหน่อยครับจะ ได้วิเคราะห์กันง่ายขึ้น

ถ่ายรูปมาแล้วไปฝากไฟล์ไว้ที่เวปนี้ก็ได้ครับ http://image.ohozaa.com/ แล้วนำลิงค์มาลงที่นี่

ส่วนเรื่องแอร์เวลาจอดเย็น แต่เวลาวิ่งไม่เย็นอาการเหมือนเติมน้ำยาเกิน เวลาวิ่งมันเลยไม่เย็น ยังไงลองเช็คดูตรงนี้ก่อนครับ

ถ้าน้ำยาเกินจริงปล่อยน้ำยาออกสักหน่อย ให้ได้ระดับพอดีหรือขาดนิด ๆ เวลาเร่งเครื่องแล้วเต็มพอดีก็ได้ครับ

เรื่องกลิ่นน้ำมันเกียร์ ต้องลองเช็คดูก่อนว่ามีจุดรั่วซึมตรงไหนบ้างหรือเปล่ า

ตามปกติแล้วระบน้ำมันเกียร์ออโต้เป็นระบบปิด ถ้าไม่มีจุดรั่วซึมกลิ่นไม่น่ามีออกมาเยอะนะครับ

เว้นแต่เติมน้ำมันเกียร์เกินจนมันระบายออกทางด้านบนเ กียร์ข้างหัวหมู

หรือน้ำมันร้อนจัด กลิ่นก็จะโชยออกมาได้ ลองเช็คจุดรั่วซึมดูก่อนครับ รวมถึงระดับน้ำเกียร์ด้วย เติมให้พอดีอย่าให้เกินครับ

ใช้เกจ์วัดของเรสซิ่งอะครับ เข็มที่เรือนไมล์ก็ขึ้นจากระดับปกติประมาณ 1 ขีด ผมใช้ไมล์หน้ามืดของเจอะครับ เรื่องน้ำมันเกียร์ถ้มันร้อนจะแก้ไขยังไงดีครับ ตอนนี้ผมใส่ออยเกีนร์ 2 ตัวมันยังเหม็นอยู่เลยครับ แอร์ผมลองเปลี่ยนวาวล์ที่ตู้แอร์แล้วตอนนี้มันเย็นแล ้ว แต่ต้องลองวิ่งไกลๆดูครับ วันศุกร์นี้ผมจะวิ่งไปเพชรบูรณ์ดู ว่าจะเจอปัญหาอะไรอีกรึป่าว ยังไงรบกวนช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้หน่อยนะครับ เดี๋ยวจะถ่ายรูปเครื่องมาให้ช่วยวิเคราะห์นะครับ

**volvoman** · 11-03-2011, 16:03

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ RCA_BAM

สวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ(กระทู้เดิมผมชื่อพนมครับ sportrider สีทอง 1jz-gee+lpg หัวฉีด คันเก่าขายไปแล้วครับ)ปัจจุบันได้คันใหม่แล้วกำลังจะ ลง 2jz-ge ครับ

งานเสร็จแล้ว มา review ให้ฟังบ้างนะครับว่าผลของ 2jge เป็นไง

**RCA_BAM** · 11-03-2011, 20:08

รูปเครื่องเดิมยกลงครับ

**RCA_BAM** · 11-03-2011, 20:13

ส่วนเครื่องใหม่ไล่เก็บซีลต่างๆ สายพาน วาวล์น้ำ ห้องเครื่อง

**rider boy** · 11-03-2011, 20:17

**bellcorp** · 14-03-2011, 14:04

รบกวนสอบถาม เฟืองท้ายตัว Prerunner ปี 1999 ครับ ว่าเป็นขนาดเท่าไหร่ เพราะว่าตอนนี้ เครื่องผม 1J ฝาขาวทำใหม่หมดแระ แต่รู้สึกว่า ความเร็ว 100 ขึ้นไปเหมือนมันจะต้องเค้นคันเร่งเพื่อให้ความเร็วขึ ้นไปถึง 120 ครับคือว่ามันเหมือนไม่ค่อยไหลอ่ะครับ

**Pong79** · 14-03-2011, 17:10

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ bellcorp

รบกวนสอบถาม เฟืองท้ายตัว Prerunner ปี 1999 ครับ ว่าเป็นขนาดเท่าไหร่ เพราะว่าตอนนี้ เครื่องผม 1J ฝาขาวทำใหม่หมดแระ แต่รู้สึกว่า ความเร็ว 100 ขึ้นไปเหมือนมันจะต้องเค้นคันเร่งเพื่อให้ความเร็วขึ ้นไปถึง 120 ครับคือว่ามันเหมือนไม่ค่อยไหลอ่ะครับ

น่าจะ 4.55 จริงแล้วน่าจะไปได้มากกว่านี้นะครับ
ว่าแต่ใช้เกียร manual หรือ auto

ผมเองก็ใช้ 1J ฝาขาวชนเกียร auto surf ทั้งชุดแค่ 100 -120 กะเกียร auto ยาง 30"นี่ สบายๆ
(วายริ่งครบ , ไมล์ผมตรง ทำกับคุณเอก Mpex)

**bellcorp** · 14-03-2011, 23:25

เกียร์ Auto ครับ วายริ่งใหม่แล้ว เปลี่ยนไมล์เป็นหน้ามืดครับ วันนี้ลองวิ่งใหม่แล้วครับ 100-120 มันขึ้นช้าไม่ทันใจ พอรถลอยๆค่อยวิ่งดีขึ้นหน่อย สงสัยต้องเก็บเงินวางเครื่องใหม่ซะแล้ว ผมว่า 2Jvvti น่าจะเหมาะกับรถหนักๆอย่างนี้ครับ ยังงัยก้อขอบคุณมากครับ

14-03-2011, 14:04	#1378
bellcorp ClubJZ Full Member 2557 วันที่สมัคร: Dec 2006 Car Brand: Toyota Sport Rider Engine Type: 1UZ FE ที่อยู่: จอมทอง อายุ: 48 กระทู้: 427 Thanks: 216 Thanked 2,393 Times in 323 Posts คะแนน: 19	รบกวนสอบถาม เฟืองท้ายตัว Prerunner ปี 1999 ครับ ว่าเป็นขนาดเท่าไหร่ เพราะว่าตอนนี้ เครื่องผม 1J ฝาขาวทำใหม่หมดแระ แต่รู้สึกว่า ความเร็ว 100 ขึ้นไปเหมือนมันจะต้องเค้นคันเร่งเพื่อให้ความเร็วขึ ้นไปถึง 120 ครับคือว่ามันเหมือนไม่ค่อยไหลอ่ะครับ __________________ www.infinite-solution.com www.ClubE85.com

14-03-2011, 23:25	#1380
bellcorp ClubJZ Full Member 2557 วันที่สมัคร: Dec 2006 Car Brand: Toyota Sport Rider Engine Type: 1UZ FE ที่อยู่: จอมทอง อายุ: 48 กระทู้: 427 Thanks: 216 Thanked 2,393 Times in 323 Posts คะแนน: 19	เกียร์ Auto ครับ วายริ่งใหม่แล้ว เปลี่ยนไมล์เป็นหน้ามืดครับ วันนี้ลองวิ่งใหม่แล้วครับ 100-120 มันขึ้นช้าไม่ทันใจ พอรถลอยๆค่อยวิ่งดีขึ้นหน่อย สงสัยต้องเก็บเงินวางเครื่องใหม่ซะแล้ว ผมว่า 2Jvvti น่าจะเหมาะกับรถหนักๆอย่างนี้ครับ ยังงัยก้อขอบคุณมากครับ __________________ www.infinite-solution.com www.ClubE85.com

คำสั่งเพิ่มเติม
แสดงผลสำหรับที่จะ Print ส่งหัวข้อนี้ให้เพื่อนทางอีเมล์
เรียบเรียงคำตอบ
แบบตามยาว Switch to Hybrid Mode Switch to Threaded Mode

หัวข้อที่คล้ายกัน
หัวข้อ	ผู้เริ่มหัวข้อ	ฟอรั่ม	ตอบกลับ	กระทู้ล่าสุด
LPG สำหรับ Sport Rider + 2JZ-GE	cpong67	ClubJZ ! GAS	25	30-04-2010 10:11
2JZ GE ใน Sport Rider	bee_sagacious	ClubJZ ! GAS	2	28-12-2009 10:44
Sport Rider อยากกิน J + Gas	bee_sagacious	ClubJZ ! GAS	6	12-02-2008 22:35
sport rider (5L)กำลังจะไปวาง 1JZ ไม่โบ + LPG (fixmix) เฟืองท้ายต้องเปลี่ยนไหมครับ	natavut2680	ClubJZ ! GAS	9	04-02-2008 06:08
Sport Rider ติด LPG+ถัง 2 ใบใต้ท้อง	Noppadol	ClubJZ ! GAS	7	13-11-2007 11:20

04-03-2011, 22:08	#1363
volvoman Senior Member วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 440 Thanks: 391 Thanked 582 Times in 232 Posts คะแนน: 20	ตอนนี้หมดความอดทนกับเบรคของ sportrider แล้วครับ สิ่งที่ทำไปแล้วคือเปลี่ยนหม้อลมสองชั้นใช้แม่ปั๊มเด ิม และติดหม้อลมเสริมอลูมิเนียมลูกโตอีก 1 ใบ ปัญหาคือเบรคมาช้าครับ กระทืบที่ทำลมอยู่นานรอเสมือนหน่วงหายไปสัก 1 วินาทีแบบออกอาการคนหัวช้าคิดนานแล้วค่อยทำงาน เวลากระทันหันๆเป็นแบบนี้ทุกทีเกือบสอยรถคนอื่นหลายค รั้งแล้ว....มันต่างจากรถอื่นๆมากครับ ทางเลือกที่คิดไว้ 1. เอาชุดเบรคหน้า aristo 320 mm 4 port มาแทนชุดหน้าที่ติดรถทั้งชุด 2. เอาแต่คาลิเปอร์ 4 port ของ aristo มาใช้และซื้อจานขยายของ runstop และทำขารับคาลิเปอร์ใหม่ (ที่ชุดเบรคหน้า) 3. แนวทางไม่ยุ่งกับเบรคหน้า แต่แปลงเบรคหลังทั้งดุมให้เป็นดิสเบรค โดยใช้รุ่นที่สามารถแปลงลงได้เลยหรือแปลงน้อยที่สุด ทั้งสามแนวทางแนะนำด้วยครับ เพราะลองมาหมดทั้งเปลี่ยนผ้าเบรคทั้งชุดก็ไม่ดีขึ้นค รับ....ขอให้แค่ได้อารมณ์การเบรคเหมือน fortuner รุ่นธรรมดาก็พอใจแล้วครับ

11-03-2011, 20:17	#1377
rider boy ClubJZ Full Member 2557 วันที่สมัคร: Sep 2009 Car Brand: อีซูซุ ฟาสเตอร์ ปี 1976 Engine Type: เครื่องเดิมๆตั้งแต่ออกป้ายแดง ที่อยู่: ในใจคุณ กระทู้: 366 Thanks: 1,883 Thanked 394 Times in 165 Posts คะแนน: 17