อยากรู้ว่าลุงมูนใช้รถรุ่นไหน เครื่อวอะไร เพระอะไรครับ

[HS9KRM]

ขนาดกระทู้นี้ ยังเต็มไปด้วยสาระ เยี่ยมจริงๆครับคุณลุง

[sumphang]

เจอกระทู้ที่มีชื่อลุงมูนถ้าไม่อ่านเหมือนขาดอาหารสม องครับ
เยี่ยมจริงๆครับ ขอบคุณอาจารย์มูนครับ อยากเห็นรถลุงมูนครับ

[Leonids]

อยากเห็นรถลุงมูนจัง...

[เตี้ยสุดใจ]

อยากเห็นด้วยครับ

[Moonlight]

แหม อยากเห็นไปทำไมครับ มองดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็ดูเหมือนรถทั่วๆไปครับ สำหรับคนที่ไม่เคยคลุกคลีอยู่กับ รถยนต์ มองรถผมก็ ก็ไม่เห็นความพิเศษแตกต่างอะไร กับรถยนต์ทั่วๆไปครับ แต่สำหรับคนที่เคยคลุกคลีอยู่กับรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ก็จะมองไม่ออกว่า เป็นรถยี่ห้ออะไร รุ่นไหน มันก้เพียงเท่านั้นเองครับ

ความพิเศษของรถผม มันฝังซ่อนเข้าไปอยู่ภายใน ซึ่งถ้าไม่ได้ถอดออกมาดูแล้ว ก็จะไม่รู้ถึงความแตกต่างครับ อย่างเช่น

ผมติดตั้งคานไว้ข้างในประตูทุกบาน (ส่วนนี้ ไปเพิ่มความหนัก แต่ไปเสริมเรื่องความแข็งแรงปลอดภัย) หรือว่า ผมติดยางมอตอย ไว้ที่ข้างในประตู เพื่อ ซับเสียง ป้องกันความร้อน และป้องกันการกระพือของเนื้อเหล็กประตูเวลาโดนแรงปะท ะจากลมเมื่อเวลาเราวิ่งด้วยความเร็วสูง เวลาคนเคาะที่ประตู ส่วนมากจะเข้าใจผิดคิดว่าผมโป้วสีไว้หนามาก จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ และประโยชน์ของการเพิ่มความหนักให้กับประตู ก็คือ เวลาเปิดปิดประตู จะให้เกิดความรู้สึกหนักแน่น (เสียงเปิดปิดประตู คล้ายการเปิดปิดประตูรถสปอร์ตเลยครับ) หรือ

กุญแจดับเบิ้ลล๊อคที่ประตู 3 บาน (ประตู 2 บานของตอนสอง ไม่มีกุญแจล๊อค เพราะว่าถูกล๊อคด้วยไฟฟ้า และมีระบบล๊อคป้องการการเปิดจากภายในรถด้วยครับ (เซฟตี้ไว้สำหรับเด็กซน)) ผมสั่งทำกุญแจพิเศษ พอดีว่า ใกล้ๆโรงงานผม มีโรงงานใหญ่ทำกุญแจรถโดยเฉพาะ ซึ่งหัวหน้าคนงานในโรงงานนั้น รู้จักกับคนงานของผม จึงสั่งเขาทำรหัสกุญแจพิเศษ ซึ่งต่อให้เอากุญแจไปปั๊มกุญแจ ก็หาเครื่องมือปั๊มกุญแจนี้ไม่ได้ครับ ถึงแม้ว่ากุญแจดอกเดียวเปิดประตูได้หมดทุกบานก็ตาม แต่เราก็ยื่นกุญแจให้ใครก็ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวใครจะเอาไปปั๊มกุญแจครับ

แบบนี้เป็นต้นครับ ซึ่งถ้ามองแต่รูปภาพภายนอก มองอย่างไร ก็มองไม่ออกถึงความพิเศษไม่เหมือนใครหรอกครับ

[kingdrif]

ขอบคุณลุงมูนมากครับที่เล่าประสบการณ์ดีๆมาให้ฟังผมน ั่งอ่านซะเพลินอยากกับอ่านตำราที่เราสนใจในเรื่องนั้ นๆจนอยากจะติดตามต่อไปเรื่อยๆนะครับ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kingdrif

ขอบคุณลุงมูนมากครับที่เล่าประสบการณ์ดีๆมาให้ฟังผมน ั่งอ่านซะเพลินอยากกับอ่านตำราที่เราสนใจในเรื่องนั้ นๆจนอยากจะติดตามต่อไปเรื่อยๆนะครับ

งั้นขอเสริมหน่อยครับ ผมจะบอกจุดอ่อนของรถกะบะปิคอัพไม่ว่า จะเป็นแคปหรือ ดับเบิ้ลแคป เวลาเอามาทำ 4 ประตู หรือแวนนั้น มีจุดอ่อนอยู่ที่นั่งตอนสองครับ คือว่าคนนั่งตอนสอง จะขาดความสะดวกสบายมากๆๆๆเลยครับ

เพราะว่าที่นั่งตอนสองนั้น แคบมากๆ ถ้าคนนั่งตอนหนึ่งตัวสูง ก็จะเลื่อนเก้าอี้ถอยหลัง มิเช่นนั้นแล้ว เข่าจะติดคอนโซลหน้านั่งไม่สบาย แต่พอเลื่อนเก้าอี้ถอยมาข้างหลัง ก็จะกินเนื้อที่ข้างหลัง ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลัง (ยิ่งเป็นคนตัวสูงด้วย ยิ่งแล้วใหญ่) ซึ่งเก้าอี้ก็เตี้ยอยู่แล้ว เนื้อที่นั่งก็แคบ เพราะติดตัวบทกฏหมาย (ห้ามกว้างกว่าเท่าไหร่จำไม่ได้) ต้องนั่งชันเข่าอยู่แล้ว ยังจะโดนข้างหน้าเบียดมาอีก นั่งเดินทางไกลๆแสนจะทรมานมากๆครับ

ผมจึงแก้ไขด้วยวิธี ยกเก้าอี้ไว้ด้านบน (หลับตานึกภาพตาม นั่นก็คือ บนเนื้อที่กะบะนั่นเองครับ) ซึ่งมีเนื้อที่ด้านหลังมาก สามารถทำรางเลื่อนเก้าอี้ถอยไปได้อีก แต่ติดเรื่องหลังคาซึ่งเตี้ย และบานประตูตอนหลังซึ่งแคบ (ปัญหาของตัวบทกฏหมาย) จึงต้องทำการ ยกหลังคาขึ้น ขยายบานประตูตอนสองออกให้กว้างขึ้น เมื่อเก้าอี้อยู่สูงแล้ว การนั่งจึงอยู่แนวระนาบระหว่างก้นกับช่วงขาถึงหัวเข่ า ทำให้ถ่ายน้ำหนักการนั่งได้สบายขึ้น ซึ่งสามารถนั่งห้อยขาได้ ยืดขาก็ได้สบายมาก ถ้ามีเก้าอี้ที่โอบกระชับลำตัว (เช่นเก้าอี้ซูปร้า) และหมอนป้องกันคอพับ มีเซฟตี้เบลท์ ก็สามารถเอนนอนได้อย่างสบายๆ ตลอดการเดินทาง จากนั้น ใช้ประโยชน์จากการทำหลังคาสูงนั้น วางแอร์ราว ติดไฟสปอท ไว้ส่องอ่านหนังสือ ทุกที่นั่ง แบบนี้ คุณคิดว่า สบายมั้ยครับ ยิ่งถ้าเซทช่วงล่างดีๆ ทั้งหนึบทั้งนิ่มแล้ว ต่อให้เอารถเบนซ์มาแลกก็ไม่ยอมครับ นี่คือคอนเซปท์การแก้ไขจุดอ่อนของรถกะบะ ให้กลายเป็นรถแวนแบบลักซ์ชัวรี่ครับ

พอเอาเครื่องเบนซินมาวาง ก็ปิดจุดอ่อนของเครื่องดีเซลซึ่งเวลาติดเครื่องแล้วจ ะสั่น เสียงดัง ทุกอย่างแก้ไขปิดจุดอ่อนได้หมดครับ เวลามีการเดินทางไกลๆ สมาชิกในครอบครัวผม จะซาวเสียงเลือกรถคนนี้ มากกว่ารถเก๋งเสียอีกครับ

[เตี้ยสุดใจ]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight

แหม อยากเห็นไปทำไมครับ มองดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็ดูเหมือนรถทั่วๆไปครับ สำหรับคนที่ไม่เคยคลุกคลีอยู่กับ รถยนต์ มองรถผมก็ ก็ไม่เห็นความพิเศษแตกต่างอะไร กับรถยนต์ทั่วๆไปครับ แต่สำหรับคนที่เคยคลุกคลีอยู่กับรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ก็จะมองไม่ออกว่า เป็นรถยี่ห้ออะไร รุ่นไหน มันก้เพียงเท่านั้นเองครับ

ความพิเศษของรถผม มันฝังซ่อนเข้าไปอยู่ภายใน ซึ่งถ้าไม่ได้ถอดออกมาดูแล้ว ก็จะไม่รู้ถึงความแตกต่างครับ อย่างเช่น

ผมติดตั้งคานไว้ข้างในประตูทุกบาน (ส่วนนี้ ไปเพิ่มความหนัก แต่ไปเสริมเรื่องความแข็งแรงปลอดภัย) หรือว่า ผมติดยางมอตอย ไว้ที่ข้างในประตู เพื่อ ซับเสียง ป้องกันความร้อน และป้องกันการกระพือของเนื้อเหล็กประตูเวลาโดนแรงปะท ะจากลมเมื่อเวลาเราวิ่งด้วยความเร็วสูง เวลาคนเคาะที่ประตู ส่วนมากจะเข้าใจผิดคิดว่าผมโป้วสีไว้หนามาก จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ และประโยชน์ของการเพิ่มความหนักให้กับประตู ก็คือ เวลาเปิดปิดประตู จะให้เกิดความรู้สึกหนักแน่น (เสียงเปิดปิดประตู คล้ายการเปิดปิดประตูรถสปอร์ตเลยครับ) หรือ

กุญแจดับเบิ้ลล๊อคที่ประตู 3 บาน (ประตู 2 บานของตอนสอง ไม่มีกุญแจล๊อค เพราะว่าถูกล๊อคด้วยไฟฟ้า และมีระบบล๊อคป้องการการเปิดจากภายในรถด้วยครับ (เซฟตี้ไว้สำหรับเด็กซน)) ผมสั่งทำกุญแจพิเศษ พอดีว่า ใกล้ๆโรงงานผม มีโรงงานใหญ่ทำกุญแจรถโดยเฉพาะ ซึ่งหัวหน้าคนงานในโรงงานนั้น รู้จักกับคนงานของผม จึงสั่งเขาทำรหัสกุญแจพิเศษ ซึ่งต่อให้เอากุญแจไปปั๊มกุญแจ ก็หาเครื่องมือปั๊มกุญแจนี้ไม่ได้ครับ ถึงแม้ว่ากุญแจดอกเดียวเปิดประตูได้หมดทุกบานก็ตาม แต่เราก็ยื่นกุญแจให้ใครก็ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวใครจะเอาไปปั๊มกุญแจครับ

แบบนี้เป็นต้นครับ ซึ่งถ้ามองแต่รูปภาพภายนอก มองอย่างไร ก็มองไม่ออกถึงความพิเศษไม่เหมือนใครหรอกครับ

ได้ความรุ้ใหม่ๆอีกแล้วครับ

[tawachinRd]

เคยเห็นรูปครับแต่ไม่ได้เซฟไว้จำเอา