ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.
|
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ! |
1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป 2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ 3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ |
ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
![]() |
#1 |
Junior Member
วันที่สมัคร: Dec 2008
Car Brand: เซฟ a 31
Engine Type: 1 jz GTE เดิมๆ
ที่อยู่: โลดแล่น วุฒากาศ53 ( ฝั่งธน )
อายุ: 46
กระทู้: 8
Thanks: 6
Thanked 3 Times in 3 Posts
คะแนน: 0
![]() |
เรื่องความร้อนคับ
![]() __________________ |
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to kaew a31 For This Useful Post: | Lucky (03-06-2011) |
![]() |
#2 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
และฝากทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยครับ ว่า ถ้าจะตั้งหัวกระทู้ อย่าพิมพ์ชื่อลงไปที่กระทู้ครับ เพราะว่า สมาชิกท่านอื่นๆ จะไม่กล้าเข้ามาตอบครับ ทำให้ทิ้งโอกาสที่จะได้ความรู้กว้างขึ้นครับ และยังเป็นการไม่ให้เกียรติท่านอื่นๆด้วยครับ สมาชิกในเวปนี้ มีความรู้ความสามารถมากมายครับ ผมเองแค่เศษเสี้ยวเล็กๆของท่านต่างๆเท่านั้นครับ แต่อย่างไรผมก็ขอตอบกระทู้ให้นะครับ ************************************************** ******* จากข้อมูลที่ให้มา ไม่ได้บอกว่า ขับรถใช้งานบนท้องถนนโล่ง หรือ การจารจรติดขัด แต่ผมอนุมานเองว่า ขับใช้งานในทางโล่งๆ เพราะว่า มีบอกว่าเทอร์โบบูสท์ขึ้น ถ้าเกจ์วัดอุณหภูมิให้ตัวเลขถูกต้อง (ไม่เพี้ยน) ก็ต้องบอกว่า ระบบการระบายความร้อนของคุณปกติ แต่แค่พอใช้ได้เท่านั้นครับ ถ้านำไปใช้งานขึ้นเขาสูงชัน มีโอกาสฮีทได้เช่นกันครับ ถ้ามี 100 คะแนนเต็ม ผมให้คะแนน 70 ครับ เครื่องเทอร์โบ อุณหภูมิมาตราฐานอยู่ที่ 90 - 95 ถือว่าใช้ได้ครับ แต่ถ้าได้ต่ำอีกนิดก็ดีครับ สักประมาณ 85 - 90 ครับ (วิ่งทางไกลหรือทางโล่งๆ จะอยู่ที่ 85 - 88 แต่ถ้ารถติดอยู่กับที่นานๆ จะไม่ควรเกิน 90 องศาครับ) เวลาเร่งเครื่องบูสท์เทอร์โบขึ้น ความร้อนขึ้นก็จริง ก็ไม่ควรเกิน 100 ครับ ของคุณถึง 105 ก็ยังพอรับไหว แต่อย่าบูสท์นานๆนะครับ อาจจะมี ฮีทให้เห็นครับ ฝาหม้อน้ำรับแรงดัน 1.1 บาร์ ถูกต้องแล้วครับ น้ำในหม้อน้ำจะได้ไม่หาย หม้อน้ำของเจโบ พัดลม วอลโว่ ก็ใช่ว่าจะใช้กับรถคุณแล้ว จะผ่านเกณฑ์นะครับ มันขึ้นอยู่กับ สภาพภายในหม้อน้ำ ตันหรือไม่ ช่วงห่างระหว่างหม้อน้ำกับเครื่องยนต์ พอหรือไม่ หน้ารถมี ช่องรับลมได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าลมผ่านเข้าครีบระบายลมของหม้อน้ำได้น้อย ให้หม้อน้ำดีแค่ไหน ก็ระบายความร้อนได้ไม่ทันครับ ลองไปสังเกตุดูว่า มีอะไรบังหน้าหม้อน้ำหรือเปล่าครับ ให้ดูที่ตัวครีบหม้อน้ำด้วยครับ ว่า ล้มติดกันหรือไม่ ถ้าล้ม ก็เขี่ยให้ตั้งตรง ทำความสะอาด อย่าให้มีสกปรกขวางทางลมครับ การสะสมความร้อนภายในกระโปรงรถก็เช่นกันครับ เป็นตัวเสริมให้ความร้อนเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น ถ้าเป็นตัวรถทั่วไป ไม่ได้ทำที่ระบายลมอะไรออกมาเป็นพิเศษ ให้แก้ไขโดย ยกฝากระโปรงด้านหลัง (ด้านที่อยู่ชิดกับกระจกบังลมหน้า) ให้สูงขึ้นสัก ครึ่งนิ้ว เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องครับ ถ้าทุกอย่างที่ผมบอกนั้น ทำไปแล้ว ก็เหลือแต่ คุณภาพของน้ำยาหล่อเย็น แล้วครับ ปกติแล้วให้ถ่ายเปลี่ยน น้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ (น้ำในหม้อน้ำ) ทุกๆ ครึ่งปี โดยถ้ามีทุนทรัพย์ ก็ซื้อน้ำยาประเภทผสมเสร็จ ใส่ลงไปแทนน้ำเลยครับ (ดี แต่ผมไม่อย่าแนะนำครับ เพราะว่าเปลืองเงิน) แต่ถ้าไม่คิดมากเท่าไหร่ ให้ซื้อ น้ำยาหล่อเย็น ชนิดเข้มข้น (ยี่ห้ออะไรก็ได้ ราคาปานกลาง ไม่จำเป็นต้องซื้อแพงครับ เพราะว่า อายุการใช้งานเท่ากันหมดครับ คือ ตั้งแต่เริ่มใช้ จะค่อยๆเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ จนถึง 6 เดือน ไม่เกิน 1 ปี ครับ คุณภาพขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของน้ำยาครับ) อ่านฉลากข้างกระป๋อง ดูว่า จะต้องผสมกับน้ำสัดส่วนขนาดไหน ถ้าไม่มั่นใจปริมาณน้ำในหม้อน้ำ ก็ซื้อมาใช้ 2 กระป๋องได้เลยครับ เวลาจะนำมาใช้งาน ให้ถ่ายน้ำในหม้อน้ำเดิมออกให้หมดครับ แล้วค่อยเติมน้ำใหม่เข้าไป อย่าให้เต็ม จากนั้น เติมน้ำยาหล่อเย็น ลงไปทั้ง 2 กระป๋อง แล้วค่อยเติมน้ำต่อจนเต็มครับ มีทำบังลมให้พัดลมหลังหม้อน้ำ (พัดลมวอลโว่) หรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีก็ต้องทำนะครับ ด้านหน้าหม้อน้ำ มีวางคอยล์ร้อนแอร์หรือเปล่าครับ ถ้ามี ให้วางห่างจาก หม้อน้ำอย่างน้อย 1 นิ้ว และติดตั้งพัดลมแบบเป่าไว้หน้า คอยล์ร้อนแอร์ ครับ ถ้าทำทั้งหมดไปแล้ว อุณหภูมิช่วงขับปกติ ยังลงไม่ถึง Max. 90 องศา ต้องแก้ไขที่พัดลมเป็นลำดับต่อไปครับ ให้หาพัดลมไฟฟ้าแบบ 2 สเต็ปแรงๆ ขนาดเท่าความกว้างของหม้อน้ำ (พัดลม 2 ตัวก็ได้ครับ) ถ้าทำแล้ว ความร้อนยังไม่ลดลงจากเดิม ก็เหลือแต่ หม้อน้ำแล้วครับ คงต้องตรวจเช็คคุณภาพหม้อน้ำ หรือเปลี่ยนขนาดครับ ************************************************** ***** ที่ผมบอกดังกล่าวเบื้องต้นนั้น เงื่อนไขอยู่ที่เกจ์วัดอุณหภูมิความร้อน ไม่เพี้ยนนะครับ และที่อยากให้แก้ไขตามนั้น เป็นเพราะว่า ต้องการป้องกันเผื่อไว้ว่า ถ้าเครื่องฮีทขึ้นมา จะไม่ขึ้นเร็วจนแก้ไขอะไรไม่ทัน และ เผื่อไว้ให้ใช้งานช่วงงานหนักๆ เช่น ขึ้นเขาชันๆครับ
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
The Following 5 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post: | Lucky (03-06-2011), minispy (23-10-2009), Odd999 (03-08-2010), printset (28-11-2016), toetsak466 (23-10-2009) |
![]() |
#3 |
ClubJZ Full Member 2557
วันที่สมัคร: Jun 2008
Car Brand: Toyota Tiger
Engine Type: 2JZ-GE
ที่อยู่: Nonthaburi
กระทู้: 255
Thanks: 380
Thanked 93 Times in 41 Posts
คะแนน: 17
![]() |
ขอถามด้วยคนคับ ลุงมูล ผมเครื่องGE เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา 24 -25 ก.พ ผมวิ่งแก๊ส กทม-สระบุรี 110 -120 Km กลางวันความร้อนหม้อน้ำผม ขึ้นไป 95 -100 เลยอ่ะคับ แต่ถ้าจอดรถจะลงมาอยู่ที่ 85 เกย์วัดแยก แต่เวลาวิ่งในเมือง ทั้งกลางวัน - กลางคืน ความร้อน 85 - 90 กว่า นิดหน่อย ผิด ปกติ ไหม คับ พัดลมไฟฟ้า 12นิ้ว ดูด 2 ตัว คอยล์ร้อนแอร์ เป่า 10 นิ้ว 1 ตัว อ่ะคับ ลุงมูล
![]() ![]()
__________________
JZ_M240
|
![]() |
![]() |
![]() |
#4 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
#5 |
ClubJZ Full Member 2556
วันที่สมัคร: Jan 2007
Car Brand: Ford Ranger
Engine Type: 2JZ-GTE HX40 บุ้ทเต็มเหนี่ยว ที่เกียร์รับไหว
ที่อยู่: สระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์
อายุ: 33
กระทู้: 946
Thanks: 1,469
Thanked 956 Times in 347 Posts
คะแนน: 19
![]() |
![]() ![]()
__________________
![]() ![]() ![]() อู่ช่างต่อ ม่วงค่อมอะไหล่ยนต์ สี่แยกม่วงค่อม ถ.สระบุรี หล่มสัก จ.ลพบุรี -วางเครื่องเจ ติดตั้งจูนกล่อง E manage,F-Con,power fc ,ECU shop -วางเครื่องเพื่อใช้งานประจำวันเเละ เซ็ตรถเพื่อ วิ่งสนาม (ช่างต่อ )036643022 / 0898023080/0863757981 ่" " ร้านอะไหล่ดีๆ ทองนพคุณ อะไหล่ / T.N.P.K Master Factory " ตลาดลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 081.4003164 / 036.461701 |
![]() |
![]() |
![]() |
#6 | |
ClubJZ Old Full Member
|
อ้างถึง:
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
#7 |
Super Moderator
|
ถ้าระบบระบายความร้อนดีจริงๆ การที่อุณหภูมิจะขึ้นแต่ละ 1 องศา ไม่ใช่ขึ้นง่ายๆครับ จะต้องถูกฉุกดึงขึ้นดึงลง กว่าจะขึ้นได้ 1 องศา ก็ต้องหลายอึดใจครับ ถ้าเดิม 85 แล้วเจอสภาพอากาศภายนอกร้อนบ้าง รถติดบ้าง เปิดแอร์แรงขึ้นบ้าง อุณหภูมิขึ้นสูงสุด 96 องศา เป็นเรื่องปกติมากครับ แต่ถ้า ขึ้นถึง 100 องศานั้น จากเดิม 90 องศา ผมว่าต้องสังเกตุแล้วครับ เพราะว่า อุณหภูมิที่ทะลุ 100 องศานั้น มันจะเริ่มขึ้นสเตปเร็วขึ้นครับ เนื่องจาก ฝาหม้อน้ำ จะเริ่มรับแรงดันไม่ไหวแล้ว จะต้องเปิดเพื่อระบายแรงดันครับ (แรงดันน้ำสูง น้ำหดหาย ความร้อนก็จะต้องเร่งสเตปขึ้นแน่นอนครับ)
__________________
JZM - 5
|
![]() |
![]() |
![]() |
#8 |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Dec 2006
กระทู้: 453
Thanks: 35
Thanked 422 Times in 176 Posts
คะแนน: 19
![]() |
ลุงน้ามูนครับ
ผมวิ่งปรกติอยู่ที่ประมาณ 84 - 87 ลากยาวจะอยู่ที่ประมาณ 90 ไม่เกิน ฝังเซ็นเซอร์ตรงล่างสุดของหม้อน้ำครับ ประมาณนี้ถือว่าสูงหรือต่ำไปไหมครับ ขอบคุณครับ |
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Chili For This Useful Post: | Lucky (03-06-2011) |
![]() |
#9 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
![]() กฏของเรื่องการระบายความร้อน ก็คือ ต้องควบคุมประสิทธิภาพของการระบายความร้อนได้ในช่วงว ิกฤตไว้ได้ครับ ช่วงวิกฤต ของ การระบายความร้อนอยู่ช่วงไหน?
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
The Following 3 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post: |
![]() |
#11 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อถามมา ก็ต้องขอตอบกลับครับ ว่า เป็นไปได้ครับ เพราะว่า น้ำมันเครื่องเป็นตัวแปรตัวหนึ่งด้วยครับ ที่ช่วยระบายความร้อนได้ระดับหนึ่งครับ พอกล่าวถึงตัวแปรของการระบายความร้อน ทำให้ผมนึกไปถึงอีกตัวหนึ่ง ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่ที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น เพราะว่ามีเหตุผลอยู่ครับ นั่นคือ ปั๊มน้ำ ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงมันเลย เพราะว่า ตัวนี้ ถึงเป็นตัวแปรสำคัญก็จริง แต่ว่า เป็นตัวที่ สึกหรอยาก และอยู่ภายในเครื่อง ไม่เหมาะสมกับ ผู้ใช้รถทั่วๆไปอย่างเราๆ จะเข้าไปซ่อมแก้ไขครับ ต้องพึ่งช่างเท่านั้นครับ จึงไม่ได้กล่าวไว้เป็นประเด็นให้ตรวจสอบแก้ไขคร ับ
__________________
JZM - 5
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 05-03-2009 เมื่อ 12:28. |
|
![]() |
![]() |
The Following 2 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post: | Lucky (03-06-2011), toetsak466 (23-10-2009) |
![]() |
#12 | |
Member
วันที่สมัคร: Jul 2007
กระทู้: 31
Thanks: 0
Thanked 12 Times in 10 Posts
คะแนน: 0
![]() |
อ้างถึง:
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
#13 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
ถ้าคอยล์ร้อนแอร์ของคุณติดตั้งอยู่หน้ารถ (อยู่หลังกระจังหน้ารถ แต่อยู่หน้าหม้อน้ำ) ก็ควรติดตั้งพัดลมแบบเป่า ไว้หน้าคอยล์ร้อนนะครับ จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้น และมีส่วนช่วยการระบายความร้อนของหม้อน้ำดีขึ้นด้วยค รับ ผมสงสัย ข้อมูลที่คุณให้ผมมา อยู่ 3 ข้อครับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า อุณหภูมิน้ำมันเครื่องที่ได้นั้น สูงไปนิด ไม่ทราบว่า ที่บอกว่า น้ำมันเครื่องไม่พร่องนั้น เวลาเครื่องเย็นที่ก้นแคร้งมีปริมาณน้ำมันเครื่องเท่ าไหร่ครับ (ต่ำกว่า 5 ลิตรหรือเปล่าครับ) คนที่ติดตั้งเครื่องแคร้งหน้า แล้วใช้วิธีปาดแคร้ง ทำให้ปริมาณน้ำมันเครื่องน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จะเกิดปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องน้อยเกินไป อุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะสูงกว่าปกติ เพราะว่าการหมุนเวียนใช้งานของน้ำมันเครื่องจะถี่กว่ าปกติที่เขาไม่ได้ปาดแคร้งครับ และช่วงที่จำเป็นต้องใช้กำลังแรงบิดสูงๆ รอบเครื่องสูง หรือขึ้นเขาสูงชัน อาจจะมีปัญหาเครื่องน๊อคได้ครับ ซึ่งพอจะมีวิธีแก้ไข ก็คือ ติดตั้ง ออยคูลเลอร์เพิ่มขึ้นมา ทำให้มีปริมาณเนื้อที่ของน้ำมันเครื่องเพิ่มขึ้ น และออยคูลเลอร์ ยังเป็นตัวช่วยระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องด้ วย ทำให้ได้ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องครับ
__________________
JZM - 5
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 06-03-2009 เมื่อ 01:40. |
|
![]() |
![]() |
![]() |
#14 |
ClubJZ Web Register
วันที่สมัคร: May 2008
กระทู้: 145
Thanks: 125
Thanked 54 Times in 28 Posts
คะแนน: 0
![]() |
Nissan Frontier + 1UZ + Variable Mixer
ผมสงสัยนิดนะครับ ถ้าหากว่า Thw รายงานว่าอุณหภูมิประมาณ 90 องศา แล้วโดยปกติแล้วอุณหภูมิน้ำมั้นเครื่องจะประมาณเท่าไ หร่ครับ ในกรณีเครื่องปกตินะครับคือแคร้งเดิมๆ ผมกำลังคิดว่า
ถ้าหากเราวัดอุณหภูมิที่ Thw ปกตินั่นแสดงว่าอุณหภูมิของน้ามันเครื่องย่อมปกติด้ว ยเช่นกันใช่หรือไม่ครับ |
![]() |
![]() |
![]() |
#15 | ||
Super Moderator
|
อ้างถึง:
อ้างถึง:
ในภาวะปกติ อุณหภูมิของน้ำในเครื่องและน้ำมันเครื่อง จะขึ้นลงตามๆกันไปครับ ดังนั้น ในรถทั่วๆไปในปัจจุบัน จึงไม่มีเกจ์วันอุณหภูมิน้ำมันเครื่องติดมาให้จากโรง งานครับ เพราะถือว่า ถ้าทุกอย่างเหมือนที่มาจากโรงงาน อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ ขึ้นลงตามอุณหภูมิของน้ำในเครื่องยนต์ครับ แต่เนื่องจาก มีกรณีพิเศษ เช่น รถออกจากโรงงาน เป็น รถกรณีพิเศษ (รถแข่ง รถหรูราคาแพง ใช้เครื่องยนต์ดีเป็นพิเศษ) โรงงานจึงจะติดตั้งมาให้ครับ หรือ ผู้ใช้รถ ต้องการดูแลเครื่องยนต์เป็นพิเศษ ก็จะติดตั้งเพิ่มเติมครับ แต่สำหรับผู้ใช้รถทั่วๆไป ถ้าเติมน้ำมันเครื่องคุณภาพดี ใส่ปริมาณที่ตามโรงงานกำหนด และใช้ขับรถแบบทั่วๆไป ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่องครับ ขอเพียงแค่ดูแลรักษา และระวังเรื่องระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ด้วยน้ำใ ห้ดีๆก็เพียงพอแล้วครับ
__________________
JZM - 5
|
||
![]() |
![]() |
![]() |
#16 |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Dec 2006
กระทู้: 453
Thanks: 35
Thanked 422 Times in 176 Posts
คะแนน: 19
![]() |
ปรกติ อุณหภูมิน้ำมันเครื่องกะแรงดันน้ำมันเครื่องควรจะอยู ่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ และก็ถ้าติดเกจจ์วัดสองตัวนี้ เซ็นเซอร์ควรฝังไว้ตรงไหนครับ
ขอบคุณครับ |
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Chili For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
#17 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
![]() อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องที่ใช้งานปกติ จะอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียส (212 องศาฟาเรนไฮท์) แต่ถ้าใช้ความเร็วรอบเครื่องสูง อาจจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันเครื่องสูงถึง 125 องศาเซลเซียส (257 องศาฟาเรนไฮท์) แต่พยายามอย่าให้ถึงจะดีกว่าครับ เพราะว่า จะทำให้ระบบหล่อลื่นหมดประสิทธิภาพในการหล่อลื่นที่ด ีไปครับ ระบบการระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องมี 2 แบบครับ คือ
แรงดันน้ำมันเครื่อง แรงดันน้ำมันเครื่อง ในรอบเครื่องเดินเบาปกติ จะอยู่ที่ 0.3 กก.ต่อตารางเซนติเมตร หรือ 4.3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และถ้าความเร็วรอบสูง อาจจะได้สูงถึง 36 - 71 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือ 2.5 - 5.0 กก.ต่อตารางเซนติเมตร เครื่องยนต์ทุกคัน จะมีเซนเซอร์วักแรงดันน้ำมันมาให้อยู่แล้วครับแต่ส่ว นใหญ่ที่หน้าปัดจะเป็นแบบ warning lamp (ไฟเตือนแรงดันต่ำ) ซึ่งถ้าแรงดันต่ำระดับ 0.2 กก.ต่อตารางเซนติเมตร หรือ 0.84 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะมีไฟเตือนครับ สังเกตุได้จากตอนที่หมุนสวิทช์กุญแจ on ไฟโชว์แรงดันน้ำมันเครื่องจะเตือน แต่เมื่อไหร่ที่สตาร์ทรถไปแล้วสักครู่ ไฟเตือนจะต้องดับ ตำแหน่งสวิทช์แรงดันน้ำมันเครื่องจะอยู่แถวๆ กรองน้ำมันเครื่องนั่นแหละครับ (ห่างออกมาจากกรองน้ำมันเครื่อง ด้านซ้ายหรือด้านขวา ก็จำไม่ได้ ลองดูเอาเองครับ) และถ้าต้องการจะติดตั้งเกจ์ตัววัดแรงดันน้ำมันเครื่อ ง (เป็นเข็มหรือตัวเลข ไปที่หน้าปัด) ก็ติดตั้งได้จากจุดนี้ครับ โดยทำอแดปเตอร์ต่อแยกออกมาครับ
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to Moonlight For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
#18 | |
Member
วันที่สมัคร: Jul 2007
กระทู้: 31
Thanks: 0
Thanked 12 Times in 10 Posts
คะแนน: 0
![]() |
อ้างถึง:
*1. ผมติดเกจ์เพิ่มโดยฝังเซนเซอร์ ที่กรองน้ำมันเครื่องโดยใช้อะแดปเตอร์ *2. ผมฝังเซนเซอร์ ที่ท่อน้ำบน ที่ออกจากเครื่อง *3. ผมไม่ทราบอุณหภูมิน้ำในเครื่องครับ ช่วยบอกวิธีวัดหน่อยครับ(ทำไม่เป็น) (สมมุติ) เดิมเครื่องเป็นเครื่องแคร้งหลัง แต่ถ้าเกิดมีการสลับแคร้งโดยเอาแคร้งหน้ามาใส่แทนมัน จะมีผลบ้างรึเปล่าครับ |
|
![]() |
![]() |
The Following User Says Thank You to toomiceman For This Useful Post: | mart (22-10-2009) |
![]() |
#19 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
ผมจะตอบข้อ 3 และที่สมมุติมานะครับ เซนเซอร์ THW ที่ไว้วัดอุณหภูมิน้ำในเครื่องยนต์นั้น จะส่งสัญญาณไปที่กล่อง ECU เป็นกระแสไฟ ซึ่งจะแปลงออกมาเป็นตัวเลขได้ครับ วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ได้ค่อนข้างตรงมากทีเดียวครับ ซึ่งปัจจุบัน มีคนขายมาตรวัดเป็นตัวเลข โดยต่อสายออกมาจาก ECU ครับ หรือถ้าหาซื้อไม่ได้ และอยากได้ ก็ลองเข้าไปใน Forums Classified ดูกระทู้เกี่ยวกับ OBD ติดต่อซื้อกับคุณโต้งครับ เจ้าเครื่องนี้ จะบอกมาตรอะไรหลายๆอย่างครับ หาศึกษาอ่านในกระทู้นั้นเองครับ ที่คุณสมมุตมาเกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนแคร้งนั้น มีคนทำมากมายครับ เพราะว่าติดคานบ้าง ติดคันชักคันส่งบ้าง แต่ส่วนใหญ่ เครื่องเดิมจะเป็นแคร้งหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นแคร้งหลัง ครับ จึงต้องตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไร หรือไม่มีผลกระทบใดใดครับ การบรรจุปริมาณน้ำมันเครื่องจะต้องเท่าเดิมครับ เพียงแต่ว่า ตอนที่เปลี่ยนนั้น ต้องแก้ไขจุดวางฝักบัวที่ดูดน้ำมันเครื่อง ตำแหน่งท่อที่เสียบเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องก็จะเป ลี่ยนไป ก็เพียงแค่นั้นครับ (ถ้าเดิมเป็นแคร้งหลัง แล้วต้องการเปลี่ยนเป็นแคร้งหน้านั้น ตัวแคร้งหน้ามีเกลื่อนเมือง ไม่มีราคา หาง่ายครับ ส่วนถ้าจะหาแคร้งหลังสิครับ หายาก จึงมีการโก่งราคาให้สูงเข้าไว้ครับ บางคนไม่สู้ราคา จึงใช้วิธีปาดแคร้ง (ทุบ หรือปาดตัดต่อ) ซึ่งก็ทำได้ครับ แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำมันที่หดหายไป สมควรที่จะต้องทำส่วนต่อเพิ่มเนื้อที่อคร้งครับ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันเครื่องได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดครับ)
__________________
JZM - 5
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
#20 |
ClubJZ Full Member 2556
วันที่สมัคร: May 2007
กระทู้: 34
Thanks: 15
Thanked 44 Times in 9 Posts
คะแนน: 0
![]() |
ขออณุญาติแทรกคร้บ
ลุงมูนครับมาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่องในรถกระบะรุ่นไ มตี้เอ็กซ์ มีวิธีดูอย่างไรครับ เช่นเวลาเดินเบาเข็มมาตรวัดควรจะอยู่ตำแหน่งไหน
ขอบคุณมากครับ ปล.ไม่แน่ใจกับคำว่า เกย์ หรือ เกจ์ กลัวใจจะเขว แล้วจะเป็นปัญหาให้ลุงมุนไหวหวั่นซะอีก ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|