เฟืองท้ายมีเต็ดกับไม่มีเต็ดต่างกันตรงไหน

**tatizoodlor** · 25-08-2010, 20:13

ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับ ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย

และยังเป็นน้องใหม่ในวงการ Jz แต่ว่ากำลังหาความรู้อยู่

ตอนนี้รถผม Isuzu Cameo กำลังวาง 2j Ge อยู่ครับ และกำลังใกล้คลอดเต็มทีแล้ว

บังเอิญผมไปอ่านเจอเกี่ยวกับเรื่องเฟืองท้ายเกี่ยวกั บตัวมีเต็ด กับตัวไม่มีเต็ด

ก็เลยอยากรบกวนขอความรู้สักหน่อยครับ

1. เจ้าตัวลิมิเต็ดคืออะไรครับ มีเต็ดกับไม่มีเต็ดมันต่างกันยังไงครับ

2. มีข้อดีแตกต่างกันยังไง รบกวนช่วยยกตัวอย่างรถในรุ่นที่มีตัวลิมิเต็ดให้หน่อ ยครับ

3. เฟืองท้ายเดิมของ Cameo 9.41 เป็นแบบไหนครับ แบบมีเต็ดหรือไม่มี

4. ตอนนี้รถของผมใช้เฟืองท้ายเดิม 9.41 จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใส่ตัวที่มีลิมิเต็ด แล้วจะใช้ของรุ่นไหนได้บ้าง ขอทราบราคาด้วยคับ

**bellcorp** · 25-08-2010, 20:22

Credit Link: http://www.bangkokbiznews.com/home/d...านอย่างไร.html

แรกเริ่มเดิมทีนั้น การหลีกเลี่ยง หรือ หลบหลีก เราต้องการเพียงการหยุดรถได้อย่างทันท่วงที หรือทันกับภาวการณ์ที่ต้องการ

ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ล้อทั้งสี่จะล็อกตาย จึงเกิดระบบเบรกแบบ ABS เข้ามาช่วยลดทอนปัญหานั้นไป จากอุปกรณ์ในระบบที่ติดตั้งเข้ามาเป็นระบบ ABS นั้น ยังสามารถที่จะพัฒนา หรือเพิ่มงานให้กับระบบทั้งหมดได้เพียงแต่เพิ่มเติมอ ุปกรณ์เล็กน้อยเข้าไป (น่าจะเรียกได้ว่าการอัพเกรด)

ระบบ ABS จะทำงานต่อเมื่อแป้นเบรกถูกกด (เหยียบ) วงจรของระบบ ABS จึงจะทำงาน ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้รถประสบกันอยู่ (โดยเฉพาะกับภูมิประเทศหนาว หิมะ ฝนตก ถนนลื่น) ก็คือ เมื่อออกรถ ล้อขับ (ถ้าเป็นขับหลัง ก็คือล้อหลัง ถ้าเป็นขับหน้า ก็คือล้อหน้า) มักจะหมุน (ล้อซ้าย-ขวา) มักจะหมุนด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน เมื่อสภาพถนนนั้นถูกปกคลุมด้วยหิมะ หรือน้ำ เมื่อล้อขับสองล้อหมุน (ออกตัว) ด้วยความเร็วที่ต่างกัน ทิศทางของรถจึงยากลำบากในการควบคุม

ในยุคแรกๆ ของการแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้จักกับระบบ ABS หรือยังไม่รู้จักพัฒนาเอาระบบ ABS ไปใช้อย่างอื่นๆ ทางแก้ที่ค่อนข้างจะได้ผลในการที่จะทำให้ล้อขับทั้งซ ้าย และขวาหมุนด้วยความเร็วที่เท่ากันก็คือ การใส่อุปกรณ์ชุดหนึ่งเข้าไปในเฟืองท้าย ที่เรียกกันว่า ลิมิเต็ดสลิป (Limited Slip) ซึ่งอุปกรณ์ชุดนี้ จะทำหน้าที่บังคับให้ล้อหมุน (ล้อขับ) หมุนด้วยความเร็วที่เท่าๆ กัน เมื่ออยู่ในสภาพถนนที่ไม่เป็นใจ

จนเมื่อมีการใช้ระบบ ABS กันอย่างได้ผล และแพร่หลายในวงกว้าง การพัฒนาให้ระบบ ABS ใช้งานได้มากกว่าเดิม จึงทำให้เกิด ระบบ ETS (Electronic Traction Support) หรือ การป้องกันล้อหมุนฟรี (ล้อขับ) ซึ่งมาทดแทนระบบลิมิเต็ดสลิป หรือ ดีฟเฟอเรนเชียลล็อก (Automatic Differential lock) ซึ่งทั้งสองระบบมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เมื่อต้องการออกตัวบนพื้นผิวถนนลื่น ล้อขับต้องหมุนด้วยความเร็วที่เท่ากัน แต่ในระบบลิมิเต็ดสลิปนั้น การจะทำให้ล้อขับหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเร็วของล้อขับด้านที่หมุนช้ ากว่าให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น จนเท่ากับล้อที่หมุนเร็วอยู่แล้ว

แม้จะได้ผล แต่ล้อตามก็มักจะตามไม่ทันผู้ขับขี่ จึงต้องอาศัยประสบการณ์ที่มากกว่าในการควบคุม หรือกำหนดทิศทางของรถ แต่ในระบบ ETS (Electronic Traction Support) จะทำงานในลักษณะตรงกันข้ามกันคือ เมื่อล้อขับ ล้อใดล้อหนึ่ง หมุนด้วยความเร็วมากกว่าล้ออื่นๆ ระบบ ETS จะบังคับโดยอัตโนมัติด้วยการสั่งการให้ล้อที่หมุนเร็ วกว่า ชะลอความเร็วลงให้ล้อที่หมุนเร็วกว่าอยู่ในสภาพเดียว กับล้ออื่นๆ

ซึ่งการทำงานนี้ ก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากการสั่งการของระบบ ABS ที่ถูกอัพเกรดมาให้ระบบเบรกของล้อที่หมุนเร็วกว่านั้ น เบรก หรือจับได้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งในชุดอุปกรณ์ของระบบเบรก ABS ก็จะมีสายจับสัญญาณความเร็วของล้ออยู่ทุกล้ออยู่แล้ว เมื่อสายสัญญาณตรวจจับความเร็วของล้อ ข้อมูลนั้นก็จะถูกส่งไปยังสมอง ETS (ETS control module) ได้รับข้อมูล ก็จะรายงานไปยังระบบ ABS ให้สั่งการให้ระบบเบรกของล้อนั้น ทำงานเมื่อเบรกทำงาน ความเร็วของล้อก็จะลดลง จนมีความเร็วเท่ากับล้ออื่นๆ การสั่งการก็จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

ETS จึงเป็นระบบเสริมจากระบบ ABS โดยเอาส่วนที่ยังเหลือใช้ของระบบ ABS นั้นมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า พูดกันง่ายๆ ก็คือ ระบบ ETS ใช้งานได้คุ้มค่ามากกว่าระบบลิมิเต็ดสลิป เช่น ผู้ขับรถไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญในการขับรถมากนัก เพราะระบบจะทำงานเองเมื่อต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเ พลิง เพราะเมื่อเบรกทำงาน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้รอบเครื่องสูงๆ การกำหนด หรือควบคุมทิศทางก็ทำได้อย่างง่ายๆ เพราะล้อขับ ลดความเร็วลง ก็หมายถึงว่า ล้อตามก็ต้องตามได้ทัน

เมื่อระบบ ETS ทำงาน สัญญาณไฟ ETS ที่หน้าปัดจะกะพริบเตือน ซึ่งหมายความว่า ในขณะนั้น สภาพของถนน ไม่เป็นใจให้คุณขับรถได้อย่างสะดวกสบาย หรือใช้ความเร็วสูงๆ ได้อีกต่อไป

สัญญาณอีกชนิดหนึ่งที่เตือนก็คือ ตราบใดที่ ไฟ ETS ติดแดง อยู่ตลอด (ไม่กะพริบ) สักชั่วระยะเวลาหนึ่ง นั่นก็หมายถึงว่า สัญญาณจับความเร็วที่ล้อใดล้อหนึ่ง หรือทั้งสองล้อของล้อขับนั้น บ่งบอกว่า ผ้าเบรก หรือจานเบรกของคุณถูกใช้งานหนัก (จากการสั่งการของระบบ ETS และ ABS) จนมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติที่ควรจะเป็น และเมื่ออุณหภูมิของผ้าเบรก หรือจานเบรก ลดลงจนอยู่ในภาวะปกติ สัญญาณไฟนั้นจะหายไป ก็หมายความว่า คุณสามารถที่จะขับรถของคุณได้ตามต้องการแล้ว

หรือเมื่อคุณไม่เคยใช้ระบบ ETS (ที่จริงต้องพูดว่าระบบ ETS ไม่เคยใช้งานเลย) เมื่อคุณขับรถอยู่ในภาวะปกติ ไฟเตือน ETS แดงขึ้นตลอดเวลา ก็ไม่ต้องตกใจ รถคุณยังสามารถขับขี่ได้อย่างปกติ ระบบเบรกยังทำงานเป็นปกติ (เช่นเดียวกับเมื่อไม่ได้ติดตั้งระบบ ETS) เมื่อมีเวลาว่างเมื่อใด จึงนำเข้าตรวจเช็คในศูนย์บริการที่คุณวางใจ ครับ

**aon0157** · 25-08-2010, 20:27

1.คือการล็อกล้อให้หมุนไปในทิศทางเดียวกันครับ
ไม่มีเต็ด จะหมุนล้อเดียวครับ
มีเต็ดจะหมุน1ล้อ เมื่อเกิดอาการล้อฟรีจนถึงค่า%ที่ตั้งไว้ จึงจะล็อกให้อีกล้อหมุนตามครับ

2.รถโฟวีลทั่วไปมีให้เห็นครับ ข้อดีคือไม่ให้อีกล้อที่ไม่ได้หมุนเป็ภาระเมื่อเกิดก ารลื่นหรือติดหล่มครับ
-ถ้าในรถเก๋ง รถซิ่งก็ช่วยในการออกตัวที่ดีครับ ช่วยในการกระจายแรงม้าจากล้อลงสู่พื้นถนนครับ

3.คามิโอ....น่าจะมีนะ

4.ผมว่าอัดตราทดเท่านี้มันก็แจ๋วนา ...

ตอบเท่าที่รู้ รอท่านอื่นมาช่วยตอบนะครับ

**paul6807** · 25-08-2010, 21:36

ตอนแรกใช้เฟือง9/41ธรรมดา จอดตลาดนัดฝนตกหน่อยเดียว ล้อหมุนฟรีลื่น กว่าจะดิ้นหลุดออกมาได้อายเค้าแทบแย่ (ฟอร์จูนเนอร์ติดหล่ม?) ลืมบอกไป เปลี่ยนเป็น2Jvvtiautoดมแก๊ส ถอดชุดขับ4ออก กินแก๊ส1.7+-0.2บาท/กม ตอนหลังเปลี่ยนเป็น9/41ลิมิเต็ด กินแก๊สเพิ่มเป็น1.8+-0.2บาท/กม ตามที่ลุงมูนบอกเลย ข้อดีคือไม่เคยดิ้นล้อฟรีอีกเลย ข้อเสีย 1.กินแก๊สเพิ่มขึ้นนิดหน่อย 2.ข้อนี้สำคัญ เวลาเราเลี้ยววงแคบแล้วพื้นถนนลื่นถ้าเราเร่งเครื่อง กะว่าเร่งส่งออกโค้ง มีท้ายปัด (ปัดแถมา2ครั้งแล้ว)ตอนหลังรู้จังหวะไม่เร่งส่งขณะอย ู่ในโค้งก็โอเค
ปล.ตอนนี้ กินแก๊สเพิ่มเป็น2.0+-0.2บาท/กม ไม่รู้เกิดจากอะไร (ที่รถติดAFมิเตอร์รับรองจูนพอดีตลอด)

**เต่าตกมัน@JZ** · 26-08-2010, 18:23

คามีโอเฟืองติดรถ10/41นะ
อยากใดเต็ดไปเอารุ่นพี่มใส่(ทรูเปอร์)
เฟืองเดิมยางไม่โตมากก็ใหวนะ2เจ

**tiger_jz** · 26-08-2010, 19:00

ตามนั้นครับ

**somtao** · 26-08-2010, 19:11

เพื่อนผมมันบ้า ดันทะลึ่งไปเชื่อมเป็นเต็ด 100%...เวลาจอดแค่หักเลี้ยวและเหยียบเบรกนิดหน่อย รถก็จะปัดเข้าซองพอดีเลย....

แต่มาเสียตรงที่ยางหมดเร็วกว่าปกตินี่สิแย่...ยางของ NITTOเสียด้วย...

**aon0157** · 26-08-2010, 23:04

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ somtao

เพื่อนผมมันบ้า ดันทะลึ่งไปเชื่อมเป็นเต็ด 100%...เวลาจอดแค่หักเลี้ยวและเหยียบเบรกนิดหน่อย รถก็จะปัดเข้าซองพอดีเลย....

แต่มาเสียตรงที่ยางหมดเร็วกว่าปกตินี่สิแย่...ยางของ NITTOเสียด้วย...

ขาดริฟตัวจริง....พร้อมดริฟทุกสถานะการต์ 55+

25-08-2010, 20:13	#1
tatizoodlor Senior Member วันที่สมัคร: Jul 2010 Car Brand: Isuzu Cameo Engine Type: ก็แค่ 2J ไม่โบ ที่อยู่: ประตูสู่ปักษ์ใต้ กระทู้: 81 Thanks: 2,671 Thanked 75 Times in 38 Posts คะแนน: 15	เฟืองท้ายมีเต็ดกับไม่มีเต็ดต่างกันตรงไหน ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับ ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย และยังเป็นน้องใหม่ในวงการ Jz แต่ว่ากำลังหาความรู้อยู่ ตอนนี้รถผม Isuzu Cameo กำลังวาง 2j Ge อยู่ครับ และกำลังใกล้คลอดเต็มทีแล้ว บังเอิญผมไปอ่านเจอเกี่ยวกับเรื่องเฟืองท้ายเกี่ยวกั บตัวมีเต็ด กับตัวไม่มีเต็ด ก็เลยอยากรบกวนขอความรู้สักหน่อยครับ 1. เจ้าตัวลิมิเต็ดคืออะไรครับ มีเต็ดกับไม่มีเต็ดมันต่างกันยังไงครับ 2. มีข้อดีแตกต่างกันยังไง รบกวนช่วยยกตัวอย่างรถในรุ่นที่มีตัวลิมิเต็ดให้หน่อ ยครับ 3. เฟืองท้ายเดิมของ Cameo 9.41 เป็นแบบไหนครับ แบบมีเต็ดหรือไม่มี 4. ตอนนี้รถของผมใช้เฟืองท้ายเดิม 9.41 จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใส่ตัวที่มีลิมิเต็ด แล้วจะใช้ของรุ่นไหนได้บ้าง ขอทราบราคาด้วยคับ

25-08-2010, 20:22	#2
bellcorp ClubJZ Full Member 2557 วันที่สมัคร: Dec 2006 Car Brand: Toyota Sport Rider Engine Type: 1UZ FE ที่อยู่: จอมทอง อายุ: 47 กระทู้: 427 Thanks: 216 Thanked 2,393 Times in 323 Posts คะแนน: 18	Credit Link: http://www.bangkokbiznews.com/home/d...านอย่างไร.html แรกเริ่มเดิมทีนั้น การหลีกเลี่ยง หรือ หลบหลีก เราต้องการเพียงการหยุดรถได้อย่างทันท่วงที หรือทันกับภาวการณ์ที่ต้องการ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ล้อทั้งสี่จะล็อกตาย จึงเกิดระบบเบรกแบบ ABS เข้ามาช่วยลดทอนปัญหานั้นไป จากอุปกรณ์ในระบบที่ติดตั้งเข้ามาเป็นระบบ ABS นั้น ยังสามารถที่จะพัฒนา หรือเพิ่มงานให้กับระบบทั้งหมดได้เพียงแต่เพิ่มเติมอ ุปกรณ์เล็กน้อยเข้าไป (น่าจะเรียกได้ว่าการอัพเกรด) ระบบ ABS จะทำงานต่อเมื่อแป้นเบรกถูกกด (เหยียบ) วงจรของระบบ ABS จึงจะทำงาน ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้รถประสบกันอยู่ (โดยเฉพาะกับภูมิประเทศหนาว หิมะ ฝนตก ถนนลื่น) ก็คือ เมื่อออกรถ ล้อขับ (ถ้าเป็นขับหลัง ก็คือล้อหลัง ถ้าเป็นขับหน้า ก็คือล้อหน้า) มักจะหมุน (ล้อซ้าย-ขวา) มักจะหมุนด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน เมื่อสภาพถนนนั้นถูกปกคลุมด้วยหิมะ หรือน้ำ เมื่อล้อขับสองล้อหมุน (ออกตัว) ด้วยความเร็วที่ต่างกัน ทิศทางของรถจึงยากลำบากในการควบคุม ในยุคแรกๆ ของการแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้จักกับระบบ ABS หรือยังไม่รู้จักพัฒนาเอาระบบ ABS ไปใช้อย่างอื่นๆ ทางแก้ที่ค่อนข้างจะได้ผลในการที่จะทำให้ล้อขับทั้งซ ้าย และขวาหมุนด้วยความเร็วที่เท่ากันก็คือ การใส่อุปกรณ์ชุดหนึ่งเข้าไปในเฟืองท้าย ที่เรียกกันว่า ลิมิเต็ดสลิป (Limited Slip) ซึ่งอุปกรณ์ชุดนี้ จะทำหน้าที่บังคับให้ล้อหมุน (ล้อขับ) หมุนด้วยความเร็วที่เท่าๆ กัน เมื่ออยู่ในสภาพถนนที่ไม่เป็นใจ จนเมื่อมีการใช้ระบบ ABS กันอย่างได้ผล และแพร่หลายในวงกว้าง การพัฒนาให้ระบบ ABS ใช้งานได้มากกว่าเดิม จึงทำให้เกิด ระบบ ETS (Electronic Traction Support) หรือ การป้องกันล้อหมุนฟรี (ล้อขับ) ซึ่งมาทดแทนระบบลิมิเต็ดสลิป หรือ ดีฟเฟอเรนเชียลล็อก (Automatic Differential lock) ซึ่งทั้งสองระบบมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เมื่อต้องการออกตัวบนพื้นผิวถนนลื่น ล้อขับต้องหมุนด้วยความเร็วที่เท่ากัน แต่ในระบบลิมิเต็ดสลิปนั้น การจะทำให้ล้อขับหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเร็วของล้อขับด้านที่หมุนช้ ากว่าให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น จนเท่ากับล้อที่หมุนเร็วอยู่แล้ว แม้จะได้ผล แต่ล้อตามก็มักจะตามไม่ทันผู้ขับขี่ จึงต้องอาศัยประสบการณ์ที่มากกว่าในการควบคุม หรือกำหนดทิศทางของรถ แต่ในระบบ ETS (Electronic Traction Support) จะทำงานในลักษณะตรงกันข้ามกันคือ เมื่อล้อขับ ล้อใดล้อหนึ่ง หมุนด้วยความเร็วมากกว่าล้ออื่นๆ ระบบ ETS จะบังคับโดยอัตโนมัติด้วยการสั่งการให้ล้อที่หมุนเร็ วกว่า ชะลอความเร็วลงให้ล้อที่หมุนเร็วกว่าอยู่ในสภาพเดียว กับล้ออื่นๆ ซึ่งการทำงานนี้ ก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากการสั่งการของระบบ ABS ที่ถูกอัพเกรดมาให้ระบบเบรกของล้อที่หมุนเร็วกว่านั้ น เบรก หรือจับได้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งในชุดอุปกรณ์ของระบบเบรก ABS ก็จะมีสายจับสัญญาณความเร็วของล้ออยู่ทุกล้ออยู่แล้ว เมื่อสายสัญญาณตรวจจับความเร็วของล้อ ข้อมูลนั้นก็จะถูกส่งไปยังสมอง ETS (ETS control module) ได้รับข้อมูล ก็จะรายงานไปยังระบบ ABS ให้สั่งการให้ระบบเบรกของล้อนั้น ทำงานเมื่อเบรกทำงาน ความเร็วของล้อก็จะลดลง จนมีความเร็วเท่ากับล้ออื่นๆ การสั่งการก็จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ ETS จึงเป็นระบบเสริมจากระบบ ABS โดยเอาส่วนที่ยังเหลือใช้ของระบบ ABS นั้นมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า พูดกันง่ายๆ ก็คือ ระบบ ETS ใช้งานได้คุ้มค่ามากกว่าระบบลิมิเต็ดสลิป เช่น ผู้ขับรถไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญในการขับรถมากนัก เพราะระบบจะทำงานเองเมื่อต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเ พลิง เพราะเมื่อเบรกทำงาน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้รอบเครื่องสูงๆ การกำหนด หรือควบคุมทิศทางก็ทำได้อย่างง่ายๆ เพราะล้อขับ ลดความเร็วลง ก็หมายถึงว่า ล้อตามก็ต้องตามได้ทัน เมื่อระบบ ETS ทำงาน สัญญาณไฟ ETS ที่หน้าปัดจะกะพริบเตือน ซึ่งหมายความว่า ในขณะนั้น สภาพของถนน ไม่เป็นใจให้คุณขับรถได้อย่างสะดวกสบาย หรือใช้ความเร็วสูงๆ ได้อีกต่อไป สัญญาณอีกชนิดหนึ่งที่เตือนก็คือ ตราบใดที่ ไฟ ETS ติดแดง อยู่ตลอด (ไม่กะพริบ) สักชั่วระยะเวลาหนึ่ง นั่นก็หมายถึงว่า สัญญาณจับความเร็วที่ล้อใดล้อหนึ่ง หรือทั้งสองล้อของล้อขับนั้น บ่งบอกว่า ผ้าเบรก หรือจานเบรกของคุณถูกใช้งานหนัก (จากการสั่งการของระบบ ETS และ ABS) จนมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติที่ควรจะเป็น และเมื่ออุณหภูมิของผ้าเบรก หรือจานเบรก ลดลงจนอยู่ในภาวะปกติ สัญญาณไฟนั้นจะหายไป ก็หมายความว่า คุณสามารถที่จะขับรถของคุณได้ตามต้องการแล้ว หรือเมื่อคุณไม่เคยใช้ระบบ ETS (ที่จริงต้องพูดว่าระบบ ETS ไม่เคยใช้งานเลย) เมื่อคุณขับรถอยู่ในภาวะปกติ ไฟเตือน ETS แดงขึ้นตลอดเวลา ก็ไม่ต้องตกใจ รถคุณยังสามารถขับขี่ได้อย่างปกติ ระบบเบรกยังทำงานเป็นปกติ (เช่นเดียวกับเมื่อไม่ได้ติดตั้งระบบ ETS) เมื่อมีเวลาว่างเมื่อใด จึงนำเข้าตรวจเช็คในศูนย์บริการที่คุณวางใจ ครับ

25-08-2010, 20:27	#3
aon0157 ClubJZ Old Full Member วันที่สมัคร: Apr 2008 Car Brand: ISUZU TFR.....ผุๆ Engine Type: 1JZ-GTE.....แตนๆ ที่อยู่: เขาสมิง....จ.ตราด อายุ: 44 กระทู้: 65 Thanks: 28 Thanked 83 Times in 23 Posts คะแนน: 17	1.คือการล็อกล้อให้หมุนไปในทิศทางเดียวกันครับ ไม่มีเต็ด จะหมุนล้อเดียวครับ มีเต็ดจะหมุน1ล้อ เมื่อเกิดอาการล้อฟรีจนถึงค่า%ที่ตั้งไว้ จึงจะล็อกให้อีกล้อหมุนตามครับ 2.รถโฟวีลทั่วไปมีให้เห็นครับ ข้อดีคือไม่ให้อีกล้อที่ไม่ได้หมุนเป็ภาระเมื่อเกิดก ารลื่นหรือติดหล่มครับ -ถ้าในรถเก๋ง รถซิ่งก็ช่วยในการออกตัวที่ดีครับ ช่วยในการกระจายแรงม้าจากล้อลงสู่พื้นถนนครับ 3.คามิโอ....น่าจะมีนะ 4.ผมว่าอัดตราทดเท่านี้มันก็แจ๋วนา ... ตอบเท่าที่รู้ รอท่านอื่นมาช่วยตอบนะครับ

25-08-2010, 21:36	#4
paul6807 ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Aug 2009 Car Brand: toyota Engine Type: 2jzvvti ที่อยู่: bangkok กระทู้: 13 Thanks: 0 Thanked 12 Times in 4 Posts คะแนน: 0	ตอนแรกใช้เฟือง9/41ธรรมดา จอดตลาดนัดฝนตกหน่อยเดียว ล้อหมุนฟรีลื่น กว่าจะดิ้นหลุดออกมาได้อายเค้าแทบแย่ (ฟอร์จูนเนอร์ติดหล่ม?) ลืมบอกไป เปลี่ยนเป็น2Jvvtiautoดมแก๊ส ถอดชุดขับ4ออก กินแก๊ส1.7+-0.2บาท/กม ตอนหลังเปลี่ยนเป็น9/41ลิมิเต็ด กินแก๊สเพิ่มเป็น1.8+-0.2บาท/กม ตามที่ลุงมูนบอกเลย ข้อดีคือไม่เคยดิ้นล้อฟรีอีกเลย ข้อเสีย 1.กินแก๊สเพิ่มขึ้นนิดหน่อย 2.ข้อนี้สำคัญ เวลาเราเลี้ยววงแคบแล้วพื้นถนนลื่นถ้าเราเร่งเครื่อง กะว่าเร่งส่งออกโค้ง มีท้ายปัด (ปัดแถมา2ครั้งแล้ว)ตอนหลังรู้จังหวะไม่เร่งส่งขณะอย ู่ในโค้งก็โอเค ปล.ตอนนี้ กินแก๊สเพิ่มเป็น2.0+-0.2บาท/กม ไม่รู้เกิดจากอะไร (ที่รถติดAFมิเตอร์รับรองจูนพอดีตลอด)

26-08-2010, 18:23	#5
เต่าตกมัน@JZ Senior Member วันที่สมัคร: Aug 2009 Car Brand: isuzu cameo Engine Type: 2jz ge vvti ที่อยู่: bangkok กระทู้: 67 Thanks: 49 Thanked 37 Times in 30 Posts คะแนน: 16	คามีโอเฟืองติดรถ10/41นะ อยากใดเต็ดไปเอารุ่นพี่มใส่(ทรูเปอร์) เฟืองเดิมยางไม่โตมากก็ใหวนะ2เจ

26-08-2010, 19:00	#6
tiger_jz ClubJZ Old Full Member วันที่สมัคร: Jan 2007 Car Brand: europe Engine Type: 2j ที่อยู่: chonburi กระทู้: 546 Thanks: 1 Thanked 263 Times in 179 Posts คะแนน: 18	ตามนั้นครับ

26-08-2010, 19:11	#7
somtao ClubJZ Full Member 2557 วันที่สมัคร: Jan 2010 Car Brand: Nissan Frontier ปี2000(อดีต) Engine Type: 1JZ-GTE VVTi ETCS-i ที่อยู่: แหลมบัง ชลบุรี อายุ: 44 กระทู้: 2,201 Thanks: 4,030 Thanked 2,154 Times in 1,103 Posts คะแนน: 17	เพื่อนผมมันบ้า ดันทะลึ่งไปเชื่อมเป็นเต็ด 100%...เวลาจอดแค่หักเลี้ยวและเหยียบเบรกนิดหน่อย รถก็จะปัดเข้าซองพอดีเลย.... แต่มาเสียตรงที่ยางหมดเร็วกว่าปกตินี่สิแย่...ยางของ NITTOเสียด้วย...