ความร้อนขึ้นเกิน 100 องศา

**somsakw** · 31-08-2009, 12:11

รถผม 2jvvti auto ขับเกิน 120 km/hr ความร้อนน้ำจะขึ้นเกิน 101 องศา วัดจากเครื่อง obd เลยไม่กล้าเหยียบต่อ แต่ที่หน้าปัทม์ไมล์เข็มประมาณ 95 องศา เลยไม่แน่ใจจะเชื่อตัวไหนดี
แต่ความรู้สึกผมว่า obd น่าเชื่อถือกว่า (วิ่งตอนรถติดในเมือง อุณหภูมิก็ปกติ 90-95 องศา และก่อนที่ผมจะติด OBD ตอนที่วิ่งความเร็ว 160-180 km/hr ความร้อนที่วัดที่หน้าปัทม์ไมล์เข็มวัดได้ประมาณ 100 องศา คาดว่าถ้ามี OBD คงวัดได้ประมาณ 110 องศาแน่) ถ้าความร้อนเกิน 101 องศาจริง จำเลยน่าจะเป็นที่ตัวไหนได้บ้างครับ ไล่จากเล็กไปใหญ่ครับ ขอบคุณครับ

**somsakw** · 31-08-2009, 12:15

ลืมบอกไปครับ ว่าแปลงเป็นพัดลมไฟฟ้า 2 ตัว พัดลมแอร์มีต่างหากอีก 1 ตัวเป็นของเดิม หม้อน้าเดิมรู้สึกจะเป็นทองแดง ในบอดี้ w124 ครับ เปิดแอร์ตลอดครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

Moonlight · 31-08-2009, 12:49

รถ W124 มีที่ว่างห้องเครื่องเหลือเฟือ แล้วทำไมไม่ใช้ พัดลมฟรีปั๊ม กลับแปลงเป็น พัดลมไฟฟ้า น่าจะเรียกตามคำพังเพยที่ว่า "ใกล้เกลือกินด่าง"

ความร้อนที่ขึ้นสูงถึง 100 ในการวิ่งที่ระดับความเร็วเกิน 120 ก.ม. และช่วงรถติดในเมือง ความร้อนอยู่ที่ 90 - 95 นั้น ผิดปกติแน่นอนครับ

เมื่อข้อมูลที่ให้มาวิเคราะห์นั้นไม่ค่อยพอ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีเดา แบบวิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้นะครับ

จะเดาว่าเป็นเพราะพัดลมระบายความร้อนไม่ทัน หรือพัดลมเป่าหน้าคอนเดนเซอร์แอร์ เป็นเป็นตัวระบายความร้อนของคอยล์ร้อนแอร์ และทำให้ที่ส่งอากาศผ่านเข้าหม้อน้ำ ทำงานด้อยประสิทธิภาพ ก็รู้สึกว่า เหตุผลนี้ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะว่า ความร้อนขึ้นสูงเมื่อขณะวิ่งด้วยความเร็ว ซึ่ง หมดหน้าที่หลักของพัดลมไปแล้ว เพราะว่า แรงปะทะอากาศขณะที่วิ่งด้วยความเร็วนั้น ยังแรงกว่าพัดลมเสียอีก แต่ก็ยังสามารถทำให้ความร้อนขึ้นได้ ครับ
ดังนั้น ประเด็นหลักๆ จึงต้องตกมาที่ การระบายน้ำให้วนเข้าหม้อน้ำระบายความร้อนไม่ทัน แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะว่า รอบเครื่องยนต์ขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงนั้น จะต้องไม่ต่ำกว่า 2200 รอบแน่นอน รอบเครื่องขณะนั้น จะนำพาปั๊มน้ำ ขับดันน้ำออกมาที่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนได้เร็วอ ย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า เครื่องยนต์จะทำงา่นหนักจนสร้างความร้อนสะสมขึ้นในเค รื่องยนต์ก็ตาม ดังนั้นจึงของวิเคราะห์ชี้ประเด็นนี้ ออกมาจากการแก้ไขแบบเบา จนถึงระดับหนัก ดังนี้ครับ

วาล์วน้ำ ทำงานบกพร่อง โดยเปิดไม่สุด ทำให้เกิดการปิดกั้นทางเดินน้ำแบบคอขวด จะทำให้ ความเย็นของน้ำที่ถูกระบายความร้อนไปแล้วนั้น เข้าไปผสมกับความร้อนในเครื่องยนต์เพื่อช่วยลดความร้ อนไม่ทันครับ
หม้อน้ำหรือท่อน้ำ เกิดตะกรัน จนกระทั่งตีบตัน ทำให้ น้ำร้อนที่มาจากเครื่องยนต์ ไหลเข้าไปหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนไม่สะดวก
ใบพัดปั๊มน้ำสึกกร่อนชำรุด ทำให้ เวลารอบเครื่องยนต์จัดๆ แต่ไม่สามารถ ให้รอลเครื่องยนต์นำพาใบพัดปั่นน้ำให้ผลักดันน้ำร้อน ออกไปที่หม้อน้ำได้เร็วๆ และนำพาน้ำเย็นจากที่ถูกบำบัดแล้วเข้ามาผสมระบายความ ร้อนในเครื่องยนต์ได้ทันครับ

**somsakw** · 31-08-2009, 16:38

ขอบคุณครับ กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนวาล์วน้ำอยู่พอดี ถ้าได้ผลอย่างไรจะมารายงานให้ฟังครับ ส่วนเรื่องความร้อนวิ่งในเมือง 90-95 องศา ผมก็ว่าน่าจะต่ำผิดปกติ พอดีพัดลมไฟฟ้าที่ติดไว้เดินแบบ Step เดียว แบบทีเดียวแรงเลย แต่พัดลมทำงานที่อุณหภุมิเท่าไหร่ ช่างเคยบอก แต่จำไม่ได้ เดี๋ยวจะถามช่างอีกรอบครับ

**somsakw** · 16-09-2009, 10:44

ข้อ 1 และ 2 แก้ไขไปแล้ว (เปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่ ล้างหม้อน้ำ) อาการยังเหมือนเดิม ส่วนข้อ 3 ช่างบอกปั๊มน้ำเสียค่อนข้างยาก เลยมา update ให้ทราบก่อนครับ

Moonlight · 16-09-2009, 11:03

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ somsakw

ข้อ 1 และ 2 แก้ไขไปแล้ว (เปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่ ล้างหม้อน้ำ) อาการยังเหมือนเดิม ส่วนข้อ 3 ช่างบอกปั๊มน้ำเสียค่อนข้างยาก เลยมา update ให้ทราบก่อนครับ

วิธีตรวจสอบว่า ปัญหามาจากปั๊มน้ำหรือไม่ มีวิธีตรวจเช็คง่ายๆครับ

สตาร์ทรถ แล้วปล่อยให้เครื่องเดินเบา จนกระทั่ง ความร้อนขึ้นถึง 85 องศา ขึ้นไป
หาผ้าหนาๆชุบน้ำแล้วออกแรงกดลงไปที่ฝาหม้อน้ำ
ออกแรงหมุนฝาช้าๆ ขณะเดียวกัน ก็ค่อยๆ ผ่อนแรงกด จะมีไอน้ำแรงดันออกมาตามฝาหม้อน้ำ
รอซักพัก แล้วค่อยคลายฝาหม้อน้ำออก
ดูที่ น้ำในหม้อน้ำ ว่ามีการเคลื่อนไหว ไปทางเดียวกันตลอดหรือไม่ (ที่ถูกต้องแล้ว น้ำต้องเคลื่อนไหวไปทางเดียวกันตลอด) จับสังเกตุแรงเคลื่อนไหวของน้ำด้วยครับ
ดึงคันเร่งหลังปีกผีเสื้อเพื่อให้รอบเดินเบาเร่งรอบเ ร็วขึ้น
ขณะเดียวกันให้ดูที่น้ำในหม้อน้ำ จะต้องเคลื่อนไหวเร็วขึ้นตามความเร็วของรอบเครื่องยน ต์ครับ ถ้าเคลื่อนไหวเท่าเดิม หรือ เร็วขึ้นนิดเดียว นั่นก็แสดงว่า ปั๊มน้ำมีปัญหาครับผม

แต่สำหรับความคิดของผมแล้ว อายุของปั๊มน้ำ มีไม่น้อยกว่า 100,000 ก.ม.ครับ จึงคิดว่า ไม่น่าใช่ปั๊มน้ำ ซึ่งถ้าเป็นผม ผมจะมุ่งประเด็นสังเกตุที่ แรงลมจากพัดลมระบายความร้อนครับ ทั้งจากหลังหม้อน้ำ(หน้าเครื่องยนต์) และหน้าคอยล์ร้อน ครับ ต้องตรวจเช็คครับ ตรวจดูด้วยครับว่า บังลมของพัดลม อยู่ในสภาพเรียบร้อยดีหรือไม่ครับ

Moonlight · 16-09-2009, 11:47

วิธีตรวจเช็คว่า ประสิทธิภาพของพัดลมระบายความร้อนของรถเรา ทำงานได้ประสิทธิภาพมั้ย มีดังนี้ครับ

ขับรถใช้งานไปครับ รอจนกระทั่งความร้อนขึ้นถึงเกือบ 100 องศา (จาก OBD)
จากนั้นให้หยุดรถ (อย่าดับเครื่อง) ปล่อยให้เครื่องอยู่รอบเดินเบา เปิดแอร์ไว้ด้วยครับ โดยเปิกเร่งความเย็นสูงสุด เปิดพัดลมแรงสุดครับ
หาสายยางต่อเข้าก๊อกน้ำ ฉีดน้ำเป็นฝอยบางๆเข้าไปที่ คอยล์ร้อนหน้าหม้อน้ำ ขณะเดียวกัน หาคนหนึ่ง ค่อยๆกดคันเร่งให้รอบเครื่องขึ้นไปที่ 2500 รอบ
สังเกตุอุณหภูมิความร้อน จาก OBD ว่า ตัวเลขลดลงหรือไม่ ถ้าค่อยๆลดลงจาก 100 เหลือ 90 ก็แสดงว่า สาเหตุเป็นที่ พัดลมระบายความร้อน ไร้ประสิทธิภาพ แต่ถ้า ความร้อนไม่ลดลงเลย กลับมาอาการคล้ายๆกับว่า ความร้อนจะขึ้นไปอีก นั่นแสดงว่า ไม่ใช่สาเหตุมาจากการทำงานของพัดลมแล้วครับ

31-08-2009, 12:11	#1
somsakw Junior Member วันที่สมัคร: Jun 2009 Car Brand: Benz Engine Type: 2jvvti ที่อยู่: Nonthaburi กระทู้: 9 Thanks: 7 Thanked 0 Times in 0 Posts คะแนน: 0	ความร้อนขึ้นเกิน 100 องศา รถผม 2jvvti auto ขับเกิน 120 km/hr ความร้อนน้ำจะขึ้นเกิน 101 องศา วัดจากเครื่อง obd เลยไม่กล้าเหยียบต่อ แต่ที่หน้าปัทม์ไมล์เข็มประมาณ 95 องศา เลยไม่แน่ใจจะเชื่อตัวไหนดี แต่ความรู้สึกผมว่า obd น่าเชื่อถือกว่า (วิ่งตอนรถติดในเมือง อุณหภูมิก็ปกติ 90-95 องศา และก่อนที่ผมจะติด OBD ตอนที่วิ่งความเร็ว 160-180 km/hr ความร้อนที่วัดที่หน้าปัทม์ไมล์เข็มวัดได้ประมาณ 100 องศา คาดว่าถ้ามี OBD คงวัดได้ประมาณ 110 องศาแน่) ถ้าความร้อนเกิน 101 องศาจริง จำเลยน่าจะเป็นที่ตัวไหนได้บ้างครับ ไล่จากเล็กไปใหญ่ครับ ขอบคุณครับ

31-08-2009, 12:49	#3
Moonlight Super Moderator วันที่สมัคร: Oct 2006 Car Brand: My Brand Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T ที่อยู่: กรุงเทพฯ กระทู้: 1,768 Thanks: 633 Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts คะแนน: 20	รถ W124 มีที่ว่างห้องเครื่องเหลือเฟือ แล้วทำไมไม่ใช้ พัดลมฟรีปั๊ม กลับแปลงเป็น พัดลมไฟฟ้า น่าจะเรียกตามคำพังเพยที่ว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" ความร้อนที่ขึ้นสูงถึง 100 ในการวิ่งที่ระดับความเร็วเกิน 120 ก.ม. และช่วงรถติดในเมือง ความร้อนอยู่ที่ 90 - 95 นั้น ผิดปกติแน่นอนครับ เมื่อข้อมูลที่ให้มาวิเคราะห์นั้นไม่ค่อยพอ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีเดา แบบวิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้นะครับ จะเดาว่าเป็นเพราะพัดลมระบายความร้อนไม่ทัน หรือพัดลมเป่าหน้าคอนเดนเซอร์แอร์ เป็นเป็นตัวระบายความร้อนของคอยล์ร้อนแอร์ และทำให้ที่ส่งอากาศผ่านเข้าหม้อน้ำ ทำงานด้อยประสิทธิภาพ ก็รู้สึกว่า เหตุผลนี้ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะว่า ความร้อนขึ้นสูงเมื่อขณะวิ่งด้วยความเร็ว ซึ่ง หมดหน้าที่หลักของพัดลมไปแล้ว เพราะว่า แรงปะทะอากาศขณะที่วิ่งด้วยความเร็วนั้น ยังแรงกว่าพัดลมเสียอีก แต่ก็ยังสามารถทำให้ความร้อนขึ้นได้ ครับ ดังนั้น ประเด็นหลักๆ จึงต้องตกมาที่ การระบายน้ำให้วนเข้าหม้อน้ำระบายความร้อนไม่ทัน แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะว่า รอบเครื่องยนต์ขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงนั้น จะต้องไม่ต่ำกว่า 2200 รอบแน่นอน รอบเครื่องขณะนั้น จะนำพาปั๊มน้ำ ขับดันน้ำออกมาที่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนได้เร็วอ ย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า เครื่องยนต์จะทำงา่นหนักจนสร้างความร้อนสะสมขึ้นในเค รื่องยนต์ก็ตาม ดังนั้นจึงของวิเคราะห์ชี้ประเด็นนี้ ออกมาจากการแก้ไขแบบเบา จนถึงระดับหนัก ดังนี้ครับ วาล์วน้ำ ทำงานบกพร่อง โดยเปิดไม่สุด ทำให้เกิดการปิดกั้นทางเดินน้ำแบบคอขวด จะทำให้ ความเย็นของน้ำที่ถูกระบายความร้อนไปแล้วนั้น เข้าไปผสมกับความร้อนในเครื่องยนต์เพื่อช่วยลดความร้ อนไม่ทันครับ หม้อน้ำหรือท่อน้ำ เกิดตะกรัน จนกระทั่งตีบตัน ทำให้ น้ำร้อนที่มาจากเครื่องยนต์ ไหลเข้าไปหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนไม่สะดวก ใบพัดปั๊มน้ำสึกกร่อนชำรุด ทำให้ เวลารอบเครื่องยนต์จัดๆ แต่ไม่สามารถ ให้รอลเครื่องยนต์นำพาใบพัดปั่นน้ำให้ผลักดันน้ำร้อน ออกไปที่หม้อน้ำได้เร็วๆ และนำพาน้ำเย็นจากที่ถูกบำบัดแล้วเข้ามาผสมระบายความ ร้อนในเครื่องยนต์ได้ทันครับ __________________ JZM - 5 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 31-08-2009 เมื่อ 12:51.

16-09-2009, 11:47	#7
Moonlight Super Moderator วันที่สมัคร: Oct 2006 Car Brand: My Brand Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T ที่อยู่: กรุงเทพฯ กระทู้: 1,768 Thanks: 633 Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts คะแนน: 20	วิธีตรวจเช็คว่า ประสิทธิภาพของพัดลมระบายความร้อนของรถเรา ทำงานได้ประสิทธิภาพมั้ย มีดังนี้ครับ ขับรถใช้งานไปครับ รอจนกระทั่งความร้อนขึ้นถึงเกือบ 100 องศา (จาก OBD) จากนั้นให้หยุดรถ (อย่าดับเครื่อง) ปล่อยให้เครื่องอยู่รอบเดินเบา เปิดแอร์ไว้ด้วยครับ โดยเปิกเร่งความเย็นสูงสุด เปิดพัดลมแรงสุดครับ หาสายยางต่อเข้าก๊อกน้ำ ฉีดน้ำเป็นฝอยบางๆเข้าไปที่ คอยล์ร้อนหน้าหม้อน้ำ ขณะเดียวกัน หาคนหนึ่ง ค่อยๆกดคันเร่งให้รอบเครื่องขึ้นไปที่ 2500 รอบ สังเกตุอุณหภูมิความร้อน จาก OBD ว่า ตัวเลขลดลงหรือไม่ ถ้าค่อยๆลดลงจาก 100 เหลือ 90 ก็แสดงว่า สาเหตุเป็นที่ พัดลมระบายความร้อน ไร้ประสิทธิภาพ แต่ถ้า ความร้อนไม่ลดลงเลย กลับมาอาการคล้ายๆกับว่า ความร้อนจะขึ้นไปอีก นั่นแสดงว่า ไม่ใช่สาเหตุมาจากการทำงานของพัดลมแล้วครับ __________________ JZM - 5

หัวข้อที่คล้ายกัน
หัวข้อ	ผู้เริ่มหัวข้อ	ฟอรั่ม	ตอบกลับ	กระทู้ล่าสุด
ชมนุม Sport Rider กินเจที่นี่เลยครับ	@rtheon	ClubJZ ! Meeting gallery	2256	21-06-2023 09:52
วาล์วน้ำ 76.5 องศา	somsakw	ClubJZ! Useful Information	3	08-10-2009 17:18
วาล์วน้ำ ควรใช้ 82 องศา และ 76.5 องศา ดีครับ	jumbooil	ClubJZ! Useful Information	14	15-09-2009 09:16
แช่...ที่ความร้อน 100 องศา ยาวๆมีผลเสียมั้ย ครับ ?	PhotJZ	ClubJZ! Useful Information	10	28-05-2009 16:53

31-08-2009, 12:15	#2
somsakw Junior Member วันที่สมัคร: Jun 2009 Car Brand: Benz Engine Type: 2jvvti ที่อยู่: Nonthaburi กระทู้: 9 Thanks: 7 Thanked 0 Times in 0 Posts คะแนน: 0	ลืมบอกไปครับ ว่าแปลงเป็นพัดลมไฟฟ้า 2 ตัว พัดลมแอร์มีต่างหากอีก 1 ตัวเป็นของเดิม หม้อน้าเดิมรู้สึกจะเป็นทองแดง ในบอดี้ w124 ครับ เปิดแอร์ตลอดครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

31-08-2009, 16:38	#4
somsakw Junior Member วันที่สมัคร: Jun 2009 Car Brand: Benz Engine Type: 2jvvti ที่อยู่: Nonthaburi กระทู้: 9 Thanks: 7 Thanked 0 Times in 0 Posts คะแนน: 0	ขอบคุณครับ กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนวาล์วน้ำอยู่พอดี ถ้าได้ผลอย่างไรจะมารายงานให้ฟังครับ ส่วนเรื่องความร้อนวิ่งในเมือง 90-95 องศา ผมก็ว่าน่าจะต่ำผิดปกติ พอดีพัดลมไฟฟ้าที่ติดไว้เดินแบบ Step เดียว แบบทีเดียวแรงเลย แต่พัดลมทำงานที่อุณหภุมิเท่าไหร่ ช่างเคยบอก แต่จำไม่ได้ เดี๋ยวจะถามช่างอีกรอบครับ

16-09-2009, 10:44	#5
somsakw Junior Member วันที่สมัคร: Jun 2009 Car Brand: Benz Engine Type: 2jvvti ที่อยู่: Nonthaburi กระทู้: 9 Thanks: 7 Thanked 0 Times in 0 Posts คะแนน: 0	ข้อ 1 และ 2 แก้ไขไปแล้ว (เปลี่ยนวาล์วน้ำใหม่ ล้างหม้อน้ำ) อาการยังเหมือนเดิม ส่วนข้อ 3 ช่างบอกปั๊มน้ำเสียค่อนข้างยาก เลยมา update ให้ทราบก่อนครับ