ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับค่า A/F ที่เหมาะสม หากเราจูนปรับสัดส่วนของเชื้อเพลิงในแต่ละช่วง load ของเครื่องยนต์เพื่อให้ได้กำลัง(ม้า)สูงสุดโดยไม่ได้ คำนึงถึงเรื่องความประหยัด ค่านั้นควรจะเป็นเท่าไหร่ ทำไมค่า A/F = 14.7 จึงเป็นค่าที่ถูกพูดถึงกันมาก เพราะจากที่ผมเคยรู้ๆมาคือ หากต้องการจูนให้รถวิ่งดีขึ้น ลื่นขึ้น ต้องตั้งองศาไฟสูง(ไฟแก่)และจูนเชื้อเพลิงให้ ” บาง ” พอเหมาะ(ซึ่งน่าจะค่าสูงกว่า 14.7)โดยต้องไม่ทำให้เกิดอาการน็อค แต่กูรูบางท่านก็เคยบอกว่า “จูนเนอร์ที่เก่งต้องจูนให้วิ่งดีที่ไฟไม่แก่มา ก” ทำเอาสับสนไปพอประมาณ
ยิ่งพอได้อ่านบทความของอ.ศิริบูรณ์ (ผมแนบไฟล์มาให้อ่านกันด้วย ที่มาให้เครดิตกับ Thaidriver Magazine คับ) ผมสรุปเอาเองไปว่า ค่าที่เหมาะสมที่อ.ศิริบูรณ์กล่าวถึงคือที่ A/F = 12.5 ซึ่งอาจเป็นค่าที่ให้กำลังสูงสุด โดยที่ค่า A/F = 14.7 นั้นเป็นเพียงค่าที่ clean air หรือเป็นอัตราส่วนที่ค่าไอเสียสะอาด เกิดสันดาปเป็นละอองน้ำเท่านั้น หาได้เหมาะสมกับการรีดกำลังแรงม้าไม่ แต่ทั้งนี้ในบทความก็ไม่ได้กล่าวถึงการตั้งไฟไว้ด้วย
ผมกำลังจะใส่กล่องเพื่อจูนเล่นเอง โดยเครื่องทุกอย่างเดิมๆ เลยมีข้อสงสัยบางประการคือ
1.หากจูนกล่อง piggy back อย่างพวก e-manage โดยใช้กับ Gasoline95(ก็น้ำมันเบนซิล95 ทั่วไปนั้นแหละ) เราสามารถตั้งให้จ่ายน้ำมันในสัดส่วน 12.5 ตลอดได้หรือไม่ เพราะในบทความกล่าวคล้ายกะว่าเพียงเพิ่มน้ำมันให้หนา ขึ้นหน่อยเดียว ก็ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นแล้ว
2.กรณีใช้ piggy back จูนไฟให้แก่ขึ้นเพื่อใช้วิ่งกะ LPG หัวฉีด(พวก KME Gold)โดยเอาน้ำมันไว้ warm เครื่องเท่านั้น ค่าที่เหมาะสมของ A/F ควรจะเป็นเท่าไหร่ ยังคงอยู่ที่ 12.5 หรือเปล่าเพราะผมรู้คร่าวๆว่า LPG มีค่า clean air ที่ A/F = 15.5 แล้วอัตราเร่งเมื่อเทียบกับน้ำมัน จะเป็นอย่างไรคับ
อีกอันนี้ที่สงสัย กรณีที่ค่าA/F หนาๆ มันเหมาะสมกับ LPG ด้วย ทำไมถ้าจูนแก๊สบางเราจึงรู้สึกว่ารถวิ่งดีกว่าละคับ เพราะถ้าจูนหนารถจะอืดๆไปพอสมควร อันนี้ในกรณีที่วิ่งทางยาวๆ แบบมีเร่งแซงหรือติดบูสบ้างนะคับ
ขอคำชี้แนะด้วยคับ