| อย่ามองโลกในแง่ร้ายอย่างนั้นซิครับ การที่เขาไม่มาช่วยก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่มีความร  ู้ในการผจญเพลิงกับก๊าซก็ได้ และผมมองว่าเป็นการดีเสียด้วยซ้ำที่คนที่ไม่รู้วิธีก  ารแก้ไขเหตุการณ์แล้วไม่ไ้ด้เข้ามาช่วย เพราะถ้าทำผิดหลักอาจส่งผลที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เช่น เห็นคนถูกไฟฟ้าดูดจนควันออกที่ส่วนต่างๆของร่างกาย ถ้าคนที่ไม่รู้ดันเอาน้ำมาช่วยราด ท่านคิดว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร?พร้อมกันนี้ขอนำเสนอแนวทางการผจญเพลิงที่อาจเกิดขึ้น  ได้ในรถยนต์
 1.ถ้าเป็นเพลิงที่เกิดจากการรั่วไหลของก๊าซ(ทุกชนิด)  ให้ปิดสวิทย์กุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และไม่ว่าเครื่องยนต์จะดับหรือไม่ ให้หาทางปิดวาวล์ส่งที่ถังก๊าซ แต่ถ้าเป็นเพลิงที่เกิดจากน้ำมัน หลังจากปิดสวิทย์ฯ ให้ใช้ผ้าหนาๆชุบน้ำ หรือดีที่ีสุดก็คือทรายโปะลงไปที่จุดที่เกิดเพลิง ห้ามใช้น้ำดับอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เปลวไฟแตกกระจายเป็นวงกว้างขึ้น และกระตุ้นการลุกติดไฟมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าทำถูกหลักไฟควรดับ หรือลดความรุนแรงลง จากนั้น
 2.ให้หาทางถอดขั้วแบตเตอรี่ออกให้เร็วที่สุด
 
 ถ้าทำไ้ด้อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ผมเชื่อว่าเหตุการณ์น่าจะลดความรุนแรงลง จนถึงสงบ
 แต่ส่วนใหญ่มักตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แนะนำให้สมมุติเหตุการณ์ว่าเกิดเหตุดังกล่าว แล้วลองทำตามขั้นตอนข้างต้น เมื่อได้ทำการฝึกฝนหลายครั้ง มัีนจะถูกฝังลึกลงไปในจิตใต้สำนึก ดังนั้นเวลาเกิดเหตุฯจะกระทำการออกมาได้โดยอัตโนมัติ  ทันเหตุการณ์ครับ
 ขอให้ทุกคนปลอดภัยจากเหตุการณ์ไม่ดีต่างๆตลอดไป
 |