ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 03-07-2008, 15:17   #1
Mr.bobby
Member
 
วันที่สมัคร: Jan 2008
กระทู้: 38
Thanks: 0
Thanked 1 Time in 1 Post
คะแนน: 0 Mr.bobby is on a distinguished road
สูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น

สูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น

โดย โสภณ สุภาพงษ์
23 มิถุนายน 2551 02:45 น.


1. ทำไมน้ำมันในไทยจึงแพงผิดปกติ
ตอบ : เป็นเพราะกลุ่มบริษัทโรงกลั่นน้ำมันและ ปตท.ใช้โอกาสบวกกำไรเพิ่มอีก 169,438 ล้านบาท หรือเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเดิม 700 % (ตาราง 1)


หลายปีที่ผ่านมาคนไทยใช้น้ำมันสำเร็จรูปประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อ 5 ปีก่อนบริษัทโรงกลั่นน้ำมัน 7 แห่งและบริษัท ปตท. ( มีโรงแยกก๊าซ) ได้ซื้อน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติดิบมากลั่นโดยบวกกำไ รอีก 20,330 ล้านบาท แล้วนำผลผลิตมาขายให้คนไทย ปัจจุบันกลุ่มบริษัทดังกล่าวได้ใช้โอกาสบวกกำไรเพิ่ม ทวีอีก 195,853 ล้านบาทถึง 169,438 ล้านบาท (ดูตาราง 1 ) แล้วนำผลผลิตมาขายให้คนไทย

บริษัทโรงกลั่น 5 แห่งเป็นเครือบริษัท ปตท.ผูกขาดกำลังกลั่น 83%
บางบริษัทกำไรเพิ่มถึง 50 เท่า ปตท. บอกว่าผลกำไร 2 ใน 3 ของบริษัท ปตท. (เกือบ 70,000 ล้านบาท) มาจากก๊าซ ,LPG , NGV ฯลฯ (กำไรก๊าซทำให้ราคาไฟฟ้าแพง) ดังนั้นกำไรมหาศาลที่เหลืออีกมากกว่า 100,000 ล้านบาทของบริษัททั้ง 8 แห่งมาจากน้ำมัน

กำไรเพิ่ม 700-800 % สูงขึ้นกว่าปี 2544 - 2545 ในขณะที่เราใช้น้ำมันเพิ่มเพียงปีละ 3%

ตัวเลขกำไรเป็นตัวเลขทางการที่บริษัทรายงานตามกฎหมาย ใช้เสียภาษี ปันผล ฯลฯ จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ อาจมีกำไรมากกว่านี้ที่สามารถซ่อนไว้ในบัญชีสต๊ อก ฯลฯ หรืออาจมีบัญชีกำไรซ้อนระหว่างกันที่คนภายนอกไม่สามา รถรู้ทั้งหมดได้

2. ทำไมบริษัทโรงกลั่นสามารถขายน้ำมันราคาแพง และเอากำไรจากคนไทยเพิ่มขึ้นผิดปกติมากกว่าปีละ100,0 00 ล้านบาทได้
ตอบ : เป็นเพราะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้สมมติตั้งส ูตรราคาขายน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่นให้บริษัทโรงกลั่นได้กำไรสูงกว่าต้นทุนจริงม าก (ตาราง2)



ราคาน้ำมันที่ 1 เหรียญ ต่อ 1 บาร์เรลนั้นเท่ากับ 0.2 บาทต่อลิตร (คือ 32บาท หารด้วย 159 ลิตร )

ดังนั้นน้ำมันดิบพื้นฐานโอมานที่บริษัทโรงกลั่นนำเข้ ามากลั่นส่วนใหญ่ราคา122 เหรียญต่อบาร์เรล จึงมีต้นทุนเท่ากับ 24.8 บาทต่อลิตร รวมค่าใช้จ่ายการกลั่นเฉลี่ยทั้งหมด 1.5 บาทต่อลิตร (1.3 - 1.7 บาทต่อลิตร) จึงเป็นต้นทุนน้ำมันเฉลี่ยทั้งสิ้น 26.3 บาทต่อลิตร แต่คณะกรรมการนโยบายพลังงาน ได้สมมติสูตรราคาขายดีเซล ณ โรงกลั่นให้บริษัทขึ้นให้เท่ากับราคาสิงคโปร์บว กอีก 0.8 บาทต่อลิตร หรือเท่ากับ 33.0 บาทต่อลิตร ทำให้บริษัทขายน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่นได้ สูงกว่าต้นทุนการกลั่นถึง 6.7 บาทต่อลิตร (ทั้งๆ ที่ราคาสิงคโปร์เป็นตลาดเก็งกำไรเหมือนเล่นหุ้น )

ในการกลั่นน้ำมันดิบนั้นจะได้น้ำมันประมาณ 6 ชนิดที่ให้กำไรตามสูตรเช่นนี้สูงกว่าต้นทุน และมี 1 ชนิดที่ได้ราคาต่ำกว่า ดังนั้นการที่ตั้งสูตรสมมติราคาขาย ณ โรงกลั่นให้สูงกว่าปกติ ก็จะสร้างกำไรสูงผิดปกติให้บริษัทโรงกลั่นมหาศา ล นอกเหนือจากกำไรจากสต๊อก ฯลฯ

3. ทำไมพ่อค้า ข้าราชการบางคน หรือนักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูด มักพูดแต่เรื่องค่าการตลาด (ตาราง 3)


ตอบ : เพราะสูตรราคาน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่นที่ 33.0 บาทซึ่งสมมติไว้สูงๆ จะถูกใช้หลอกประชาชนว่าเป็นต้นทุน (ทั้งที่เป็นเรื่องสมมติเอาเอง) บวกภาษี 5.0 บาท บวกค่าการตลาด 1.5 บาท รวมเป็นตัวเลขขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 39.5 บาทต่อลิตร

พ่อค้าบางคนที่ได้กำไร ข้าราชการบางคนที่ได้เงินจากบริษัท และนักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูด จึงพูดหลอกประชาชนว่าค่าการตลาดน้อย ติดลบอยู่บ่อยๆ โดยสมมติราคา ณ โรงกลั่นของตนให้สูงขึ้นเพื่อให้ตัวเลขค่าการตลาดเป็ นตัวเลขติดลบ โดยไม่พูดถึงกำไรสูง 6.7 บาท ต่อลิตรที่ถูกซ่อนไว้ที่โรงกลั่น (ตลาดปั๊มเอกชนเล็กๆ น้อยๆ จึงถูกบีบจากราคา ณ โรงกลั่น)

4. ทำไมคณะกรรมการนโยบายฯ จึงได้ตั้งสูตรราคาขายน้ำมัน (หายนะ) ณ โรงกลั่น ให้สูงมากสร้างกำไรให้บริษัท แต่สร้างหายนะให้คนไทย
ตอบ : เพราะกรรมการบางคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน

หลังจากการแปรรูป ขาย ปตท. เข้าตลาดหุ้นปี 2545 มีข้าราชการบางคนในคณะกรรมการนโยบายพลังงาน และกระทรวงมีผลประโยชน์ทับซ้อน เอาบริษัทโรงกลั่นหลายแห่งของ ปตท. เข้าขายในตลาดหุ้น แล้วเข้าไปเป็นประธาน เป็นกรรมการบริษัทโรงกลั่นเอกชนเล่นหุ้น ได้หุ้นราคาถูกกว่า IPO ได้เบี้ยประชุม ได้โบนัส ได้กำไรหุ้น ได้เงินปันผล (บางบริษัทให้โบนัสคณะกรรมการ 50 ล้านบาทต่อปี ผู้บริหาร ข้าราชการบางคนได้ประโยชน์มากกว่า 100 ล้านบาทจากหุ้น) ได้กำหนดสูตรราคาหายนะ ณ โรงกลั่นไว้ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2546

เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมันที่กระทรวงพาณิชย์ และตลาดหลักทรัพย์จะพบภรรยา กรรมการนโยบายพลังงานบางคนถือหุ้นบริษัทน้ำมันด ้วย

5. ควรเปลี่ยนสูตรราคาขาย ณ โรงกลั่นเป็นอย่างไร
ตอบ : ควรกำหนดสูตรราคาขายน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่น เท่ากับราคาที่สิงคโปร์ลบ (-) 2 บาทต่อลิตร

บริษัทโรงกลั่นทั้งหมดกลั่นน้ำมันประมาณ 900,000 บาร์เรลต่อวัน ขายในประเทศวันละมากกว่า 700,000 บาร์เรล อีกเกือบ 200,000 บาร์เรล ใช้ส่งออกไปขายต่างประเทศ สิงคโปร์ฯลฯ

ดังนั้นการตั้งราคาในประเทศต้องตั้งให้ต่ำกว่าราคาที ่สิงคโปร์ 1 - 2 บาทต่อลิตร เพราะเมื่อบวกกำไร ค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง ไปสิงคโปร์อีก 1 - 2 บาทต่อลิตร ก็ต้องไม่สูงกว่าราคาตลาดสิงคโปร์ (ที่ผ่านมาน้ำมันส่วนที่ได้ส่งออกไปขายต่างประเทศราค าถูกกว่าขายในประเทศ)

ถ้าทำให้สูตรราคาดีเซลลดลง 3 บาทต่อลิตร คูณด้วยการใช้ทั้งประเทศ 19,000 ล้านลิตรต่อปี กำไรของกลุ่มบริษัทจะลดลงเพียง 57,000 ล้านบาท บริษัทก็ยังคงเหลือกำไรอีกมากกว่า 110,000 ล้านบาทต่อปีอยู่ดี

6. ใครมีอำนาจเปลี่ยนสูตรราคาให้คนไทยพ้นหายนะ
ตอบ : นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติตามก ฎหมาย

7. ข้อมูลที่ควรทราบเพื่อไม่ให้ถูกหลอก

1. อย่าเพิ่งเชื่อพ่อค้าที่ได้กำไร ข้าราชการบางคนที่ได้เงินบริษัท นักวิชาการที่ถูกจ้างมาพูดเท็จ

2.1 เหรียญต่อบาร์เรล เมื่อคูณ 0.2 จะเป็นราคาบาทต่อลิตร

3. ราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศ 120 -130 เหรียญต่อบาร์เรล ที่พ่อค้าพูด เป็นราคาอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ไม่เป็นเหตุผลให้ขึ้นราคาพรุ่งนี้ บางบริษัทได้กำไรเฉพาะจากเอาสต๊อกถูกมาขายแพงมา กกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี

4. สูตรราคาน้ำมัน ไม่จำเป็นต้องอิงราคาแพงในสิงคโปร์ ตัวอย่างเช่น LPG เราใช้อิงราคาต่ำกว่าราคา LPG ที่ตะวันออกกลางมานานแล้ว

เรื่องนี้เป็นหน้าที่รัฐบาล(มานานแล้ว) ครับ...








__________ NOD32 2047 (20070208) Information __________

This message was checked by NOD32 antivirus system.
http://www.eset.com
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 1.jpg (16.1 KB, ดาวน์โหลด 246 ครั้ง)
ชนิดของไฟล์: gif 2.gif (23.4 KB, ดาวน์โหลด 248 ครั้ง)
ชนิดของไฟล์: gif 3.gif (14.1 KB, ดาวน์โหลด 248 ครั้ง)
Mr.bobby is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม