1jzฝาดำติดมิกซ์หรือ หัวฉีดแบบไหนดีกว่าแล้วต่างกันยังไง
 

แบบไหนดีกว่ากันครับบบบบช่วยด้วย

ระบบดูด ความแรงหายไปพอสมควรเพราะมีมิกซ์มาขว้างทางอากาศไว้ ราคาถูกกว่า
ระบบหัวฉีด ความแรงเหมือนเดิม ราคาแพงกว่า

หัวฉีดวิ่งดีกว่า ปรับจูนได้ละเอียดกว่า ราคาสูงกว่า
ดูด ปรับจูนง่าย ราคาถูกกว่า


หลายคนที่เคยติดระบบดูดแล้วเปลี่ยนมาเป็นหัวฉีดจะพูด เป็นเสียงเดียวกันว่า "รู้งี้ติดหัวฉีดตั้งแต่แรกแล้ว" หรือไม่ก็ "รู้งี้เปลี่ยนเป็นหัวฉีดไปตั้งนานแล้ว"

เป็นหนึ่งคน ตามที่กล่าวข้างต้น:emo_toon01:

MIXER ข้อดีคือราคาถูกกว่า ระบบไม่มีความซับซ้อนจึงมีปัญหาน้อยกว่า และปรับจูนง่าย ข้อด้อยคือค่าที่จูนไว้จะเปลี่ยนแปลงตามสภาพกรองอากา ศ ซึ่งส่วนใหญ่แก็โดยใช้กรองเปลือย กำลังน้อยกว่าเพราะมีMixer และECU ที่แสนฉลาดไม่สามารถควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงในระบบน้ ได้
ระบบหัวฉีดระบบควบคุมจะเหมือนน้ำมัน ข้อเสียคือซับซ้อนขึ้นถ้ามีปัญหาต้องพึ่งช่าง ถ้าสารถจูนเองได้ก็จะดีมาก ส่วนราคาตอนนี้ราคาถูกกว่าเมื่อก่อนมาก
ถ้าไม่ติดเรื่องราคาหัวฉีดน่าใช้กว่าครับ

เรา...รักรถของเรา...ถ้า...สู้ไหว...หัวฉีดครับ

เชียร์หัวฉีดครับ ไม่มี แบ๊คไฟล์ :emo_toon14:

ผมมองปัจจัยเป็นหลักน่ะครับ มีตัวแปรหลายตัว เรื่องเงิน เรื่องความแรง การบำรุงรักษา สรุปหัวฉีดเหมาะกับความมันส์ มิกช์เซอร์เน้นประหยัด:redface:

:emo_toon01:

แบบมิกซ์มีข้อดีคือไม่ต้องเสียเงินค่ากล่องปลดล็อคต่ างๆและราคาในการติดตั้งที่ถูกกว่าแบบหัวฉีด

ส่วนแบบหัวฉีดจะตรงกันข้ามกันหมดเลยน่ะสิคัฟ มีดีคือประหยัดกว่า:emo_toon11: :emo_toon11:

หัวฉีดประหยัดกว่า แรงกว่าก้อจริง

แต่ มิกเซอร์ วิ่งทางไกลประหยัดกว่าหัวฉีดครับ

ผม คนนึงที่เคยใช้ ทั้ง 2 ระบบ

เริ่มจากมิกเซอ ก่อน แล้ว อัพมาเปนหัวฉีด

แต่หัวฉีด แรงสั่งได้

มิกเซอ ต้องยืนพื้นเท่านั้นถึงจะประหยัด

เพราะการสั่งได้นั่นแหละครับ มันจึงทำให้ประหยัดน้อยกว่าหัวฉีด แต่หลาย ๆ ท่านคงประหยัดเพราะการขับขี่อาจจะไม่โหดร้าย :rolleyes:

ในลักษณะการขับขี่ที่เหมือนกัน ระยะทางเท่ากัน ความเร็วเท่ากัน ผมว่าหัวฉีดประหยัดกว่านะ แต่ที่ติดหัวฉีดแล้วไม่ประหยัดก็เพราะ "แรงสั่งได้" เนี่ยแหละ

ถ้าจะเอาประหยัดเงินตอนติดตั้งเอามิกเซอร์เถอะครับรา คาแตกต่างกันมากโขอยู่ ของผมติดมิกเซอร์มา 3 ปีไม่เคยเกิดแบ๊คไฟร์ ซักครั้งเดียวขับได้ดีมาก ด้วยความที่อยากติดหัวฉีดมั้งก็เลยซื้อมาติดตั้งกับเ ขาราคาก็หมื่นกว่าบาท(หัวฉีด Ag) เสียเวลา 2 วัน ภาพโดยรวมแล้วเซมๆนะผมว่า

แตกต่างกันแค่ราคา
 

-มิกเซอร์ ราคา 18000-20000 บาท
-หัวฉีด ราคา 40000-45000 บาท
-หัวฉีด ประหยัดกว่า 10-15 % แล้วแต่การขับขี่(เฉพาะในเมืองและทางใกล้ส่วนทางไกลไ ม่แตกต่าง)เฉลี่ย 0.1บาท/กม.แล้วราคาค่ติดตั้งต่างกัน 20,000 บาท ฉะนั้นท่านต้องใช้รถ 200,000 กม.จึงจะคุ้มทุนเท่ากับติดแบบมิกเซอร์
-มิกเซอร์ แรงม้าลดลง 10-15% ที่ 6000 รอบ/นาที
-ท่านเลือกแบบไหนแล้วแต่การใช้รถ ถ้าเอาไปแข่งขันติดหัวฉีดอัดได้เต็มที่กว่าน้ำมันแต่ เครื่องยนต์รับไม่ไหวลูกสูบทะลุเอาง่ายๆ แต่ถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน ความเร็ว 3000 รอบได้ความเร็ว 120 กม./ชม. อยากแรงบ้างบางครั้ง 180 เหยียบขึ้นทันตาเห็น(ถ้าเร็วกว่านี้ท่านต้องลองเองแล ้วเพราะผมใจไม่กล้าพอ) กระบะป้ายแดงใหม่ๆทุกยี่ห้อกินขาด แต่อย่าเผลอไปลองไปเทียบชั้นกับรถเก๋งเจ้านายพวกรถยุ โรปหรือ camry accord เข้าหล่ะ เดี่ยวต้องเอาปี๊ปคลุมหัว
ปล.รถผมกระบะ Ford วาง 1JZ GE เครื่องเดิมๆไม่แต่ง ติด LPG แบบมิกเซอร์

ถูกต้องครับ สำหรับการเปรียบเทียบรายละเอียดมิกช์กับหัวฉีด ต้องพิจารณากันยาว ๆ หน่อย การเกิดแบ็คไฟท์ของเครื่องยนต์บางตัว (เจโบ และพวกวีวี) พวกนี้ต้องคิดให้หนักหน่อย เพราะแค่หัวเทียน หรือสายหัวเทียนมีปัญหาหน่อยก็แบ็คฯได้แล้วสำหรับมิก ช์ แต่ถ้าเป็นหัวฉีดโอกาสแบ็คฯ 0.01% ครับ ซึ่งถ้ามันแบ็คฯ มันก็ไม่รุนแรงครับ ปัญหาพวกนี้ที่หลาย ๆ ท่านหันมาติดแบบหัวฉีดมากขึ้นครับ:emo_toon02: