![]() |
เกียร์ถอยเข้าไม่ได้ ช่วยแนะนำด้วยครับ
1j bo auto ตอนเช้าหรือเวลาเครื่องเย็นเกียร์ถอยเข้าไม่ได้ครับ ต้องรอสักพักใหญ่จึงเข้าได้ แต่เครื่องร้อนหรืออุ่นๆใช้งานได้ดี ถามช่าง 2 ท่าน ท่านหนึ่งบอกว่า ผ้าเกียร์ถอยหมดหรือสึกต้องเปรียนใหม่ค่าซ่อม 12000 อีกท่านหนึ่งบอกว่าให้ลองเช๊กก่อนบางที่กล่องเกียร์อ าจจะเสีย
ท่านใดเคยประสพปัญหาเกียร์ถอยแบบผมบ้าง แนะนำด้วยครับ ว่าจะซ่อม หรือ เปลียนดีครับ เกียร auto ราคาประมาณ 4000-5000 นี้รึเปล่าครับ ขอบคุณครับ |
ผมเพิ่งเป็นมาหมาดๆเลยครับ อาการเดียวกันเลย สักพัก มันก็จะเดินหน้า ไม่ค่อยได้เหมือนกัน เลยลองไป ฟลัดชิ่ง น้ำมันดูอะครับ คือล้างระบบเกียร์แบบใช้เครื่องล้างอะครับใช้น้ำมันเ กียร์ไปสิบลิตรได้ หายเลยครับ แล้วก็ล้างกรองเกียร์ด้วยอะครับ ต้องเปิดอ่างออกมาล้างด้วยอะครับ บางทีกรองเกียร์ตันเพราะเศษเหล็ก น้ำมัน มันก็ไหลไปหล่อเลี้ยงระบบไม่พออะครับ ลองดูครับ :)
|
อ้างถึง:
ลองเช็คโค๊ตเกียร์ดูด้วยนะครับ เพราะเคยเป็นเหมือนกันฟลัชชิ่งแล้วก็หายได้ซักพักแล้ วมันก็กลับมาเป็นอีก ไปถามค่าซ่อม ราคา ประมาณนั้น ซื้อลูกใหม่ ยังถูกกว่า ลองดูครับ |
อาการเข้าเกียร์ถอยแล้วรถ ไม่เคลื่อนตัวนั้น เป็นอาการเริ่มต้นของเกียร์เสื่อม ซึ่งจะนำพาให้ต้องโอเวอร์ฮอลเกียร์ครับ แต่ว่า....
อาการของการเข้าเกียร์ แล้วรถไม่เคลื่อนที่ ตอนเครื่องเย็น แต่พอเครื่องร้อนแล้ว รถทำงานปกติ เป็นอาการของปริมาณน้ำมันเกียร์ไม่พอ ทั้งๆที่ตรวจเช็คปริมาณน้ำมันเกียร์ด้วยเหล็กวัดระดั บแล้ว พวกนี้ เป็นปัญหาจาก กรองน้ำมันเกียร์ตันครับผม เมื่อ 2 อาการ มารวมกันอยู่ อย่างเช่น รายคุณเจ้าของกระทู้ ให้มุ่งประเด็นไปที่ ย่อหน้าที่ สองครับผม ถอดก้นแคร้ง ล้างแม่เหล็ก ล้างก้นแคร้ง ล้างกรองเกียร์ เสร็จแล้ว ประกอบกลับ เติมน้ำมันเกียร์ลงไป (ให้ใช้เกรดคุณภาพเดิมที่เคยใช้อยู่) แค่นั้น รถคุณก็กลับมาสู่ภาวะปกติครับผม (เวลาเช็คระดับน้ำมันเกียร์ ให้ช็คตอนเครื่องร้อน และติดเครื่องอยู่นะครับ ระดับน้ำมันให้อยู่ที่ขีด Hot ครับ) ส่วนอาการเข้าเกียร์ถอยแล้วไม่เคลื่อนที่นั้น เป็นสัญญาณ บอกให้เจ้าของรถทราบว่า เกียร์ที่ใช้อยู่นี้ อาการเริ่มเสื่อมถอยแล้วนะครับ (ยังไม่พัง แค่เสื่อม เตรียมสะสมเงินไว้ครับ) |
อ้างถึง:
รบกวนสอบถามน้ามูนหน่อยครับ เกี่ยวกับอาการเกียร์ดังวู๊ด..... เสียงมาจากบริเวณทอล์ค เป็นช่วงเลี้ยงคันเร่งเวลาเดินทางรอบอยู่แถว ๆ 2800-3000 รอบ บางจังหวะที่เราเน้นคันเร่งเสียงก็ดังขึ้นมา พอผ่อนคันเร่งและค่อย ๆ กดไปใหม่เสียงก็ไม่ดังแล้ว ส่วนใหญ่อาการที่ว่าจะเกิดเวลาวิ่งทางไกลยาว แต่ถ้ากดคันเร่งเน้นไปเลยหรือคิ๊กดาว์นนี่ไม่ดัง ตอนก่อนนี้นาน ๆ เป็นที ช่วงหลังนี้เป็นบ่อยแต่เกียร์ยังใช้งานได้เป็นปกติดี ทุกเกียร์ครับ ล่าสุดเพิ่งถอดล้างกรองเกียร์ แต่อาการที่ว่าก็ยังเป็นอยู่ อาการที่ว่านี้รถผมอีกคัน CAMRY ปี 04 ACV30 ก็มีอาการคล้าย ๆ กันครับ |
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
|
1 ไฟล์แนบ
สืบเนื่องจากอาการน้ำมันเกียร์ซึมออกมา คาดว่าน่าจะมาจากซีลทอล์ค
ยังไม่อยากยกเกียร์ลงเพราะเป็นเกียร์ออโต้ขับสี่มันค ่อนข้างยาวและหนักกว่าปกติ และมันยังซึมออกมาไม่เยอะ ก่อนหน้านี้เคยเห็นน้ำยาสำหรับใส่ในกระปุกน้ำมันเพาเ วอร์ช่วยปรับสภาพซีลที่เสื่อมสภาพ ผมคิดว่าของเกียร์ออโต้ก็น่าจะมีเลยลอง search ข้อมูลของต่างประเทศดู พบน้ำยาที่ใส่ไปในน้ำมันเกียร์ช่วยปรับสภาพซีลที่แข็ ง ให้นิ่มและให้ตัวได้มากขึ้น ช่วยลดการั่วซึมของน้ำมันเกียร์ได้ ในต่างประเทศมีการใช้กันเยอะและได้ผลดี เลยไปลองหาซื้อดูได้มายี่ห้อนี้ครับ เป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ ลองใส่ไปเรียบร้อย ได้ผลยังไงจะมารายงานครับ แนบไฟล์ 38553 |
อ้างถึง:
|
เรียนถามครับ เมื่อเวลาจอดถ้าผม ถอยจอดเช้ามาเกียร์ถอยเข้าได้ครับผมลองมา 2 วันแล้ว แตถ้าเดินหน้า เช้ามาจะเข้าเกียร์ถอยไม่ได้ต้องรอสักพักเหมือนเดิมค รับ งง
ผมยังไม่ได้ทำการแก้ไขข้างต้นตามที่ท่านทั้งหลายแนะน ำเลยครับ ไม่มีเวลาบวกไม่มีสตางค์ ผมอยากรู้ว่า เพราะอะไร เมื่อจอด เกียร์ สุดท้าย R แล้วไป P เช้ามาเข้า P ได้ แต่ถ้า D ไป P เช้ามาเข้า R ไม่ได้ หรือผมคงต้องสะสมเงินโดยด่วนครับ ขอบคุณครับ |
อ้างถึง:
ยิ่งคุณแจกแจงข้อมูลชุดหลังมานี้ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นว่า เป็นเพราะว่า กรองเกียร์ตัน หรือว่า น้ำมันเกียร์ออโต้ น้อยเกินไป ครับ สาเหตุหลักๆ ก็คือ ว่า น้ำมันเกียร์น้อยนี่แหละครับ (กรองตัน ก็จะทำให้ เกียร์ได้รับน้ำมันเกียร์น้อยเช่นกันครับ) เวลาที่คุณใช้งานเกียร์สุดท้ายก่อนดับเครื่อง น้ำมันเกียร์ที่มีอยู่น้อยนั้น จะคงเหลืออยู่บริเวณเกียร์นั้น พอคุณมาสตาร์ทเครื่องยนต์ ถ้าเริ่มจากการใช้เกียร์นั้นเลย เกียร์ก็จะทำงานให้รถเคลื่อนตัวได้ แต่ว่า ถ้าไปใช้งานเกียร์อื่น ก็ต้องรอให้ น้ำมันเกียร์ หมุนเวียนครบเต็มเสื้อเกียร์ก่อน จึงจะทำงานได้ (โดยคุณคิดว่า ต้องรอให้เครื่องร้อน ซึ่งก็ใช่ครับ เวลาน้ำมันเกียร์ร้อนแล้ว จะขยายตัวได้อีกระดับหนึ่งครับ) ถึงแม้ว่า ตอนนี้ เกียร์ยังไม่มีปัญหาก็ตาม แต่ถ้าคุณยังไม่รีบแก้ไข (อ้างว่าไม่มีเวลา หรือ ไม่มีเงินทุน) คุณมีโอกาสจะต้องโอเวอร์ฮอลเกียร์ หรือ ซื้อเปลี่ยนเกียร์ออโต้ใหม่ ในเวลาไม่นานนี้ครับผม |
และถ้าคุณไม่มีเวลา ทั้งไม่มีทุน จริงๆแล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำวิธีแก้ไขชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกียร์ออโต้ สึกหรอเร็วไปมากกว่านี้ครับ
โดยการ ให้หาซื้อน้ำมันเกียร์ออโต้มาเตรียมไว้ (ถ้าขอแบ่งซื้อซัก 2 ลิตรได้ ก็ซื้อ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ต้องซื้อ 1 แกลลอนครับ) แล้วทำดังนี้ครับ ขณะที่สตาร์ทเย็นแล้ว อย่าดับเครื่องยนต์นะครับ ให้ใช้เท้าเหยียบเบรคไว้ แล้วเลื่อนคันเกียร์ จาก P ไป R ไป N ไป D ไป 2 ไป L โดย เลื่อนแต่ละจังหวะ 2 วินาที แล้วเลื่อนกลับ จาก L ไป 2 ไป D ไป N ไป R ไป P โดย เลื่อนแต่ละจังหวะ 2 วินาที จากนั้น ปล่อยขาที่เหยียบเบรค แล้วให้ชัก เหล็กวัดระดับน้ำมันเกียร์ ขึ้นมาเช็ดให้สะอาด แล้วจุ่มลงไปให้สุด จากนั้นชักขึ้นมา ให้ดูว่า ระดับน้ำมันเกียร์อยู่ที่ขีด Cool หรือไม่ ถ้าไม่ถึงขีด Cool ให้เติมให้ถึงครับ แล้วขับรถใช้งานประมาณ 2 ก.ม. แล้วหยุดรถ อย่าดับเครื่อง ให้ชัก เหล็กวัดระดับน้ำมันเกียร์ ขึ้นมาเช็ดให้สะอาด แล้วจุ่มลงไปให้สุด จากนั้นชักขึ้นมา ให้ดูว่า ระดับน้ำมันเกียร์อยู่ที่ขีด Hot หรือไม่ ถ้าไม่ถึงขีด Hot ให้เติมให้ถึงครับ หลังจากนั้นแล้วให้ลองใช้งานดูครับ คิดว่า ต่อจากนี้ น่าจะเข้าเกียร์ถอย ทำงานได้แล้วครับ แต่อย่าได้นิ่งนอนใจครับ รีบๆ เก็บเงินได้ซัก 1000 - 2000 บาท เข้าอู่ จ้างช่างถ้ายน้ำมันเกียร์ที่ก้นแคร้ง แล้วล้างก้นแคร้ง กรองเกียร์ แม่เหล็ก แล้วประกอบกลับ จากนั้นก็เติมน้ำมันเกียร์ลงไปประมาณ 3 ลิตร วิธีวัดระดับน้ำมันเกียร์ ก็ทำตามที่ผมแนะนำด้านบนครับ |
อ้างถึง:
เลยรื้อมาดูเพื่อให้มันหายข้องใจ รื้อออกมาก็เจอซีลข้อเหวี่ยงหลังเริ่มซึมเหมือนกันคร ับ ที่ข้างขวดเขาแจ้งว่าจะเริ่มเห็นผลเมื่อวิ่งได้ 100 ไมล์ ก็ประมาณ 160 กว่ากิโลเมตร แต่ผมยังวิ่งไม่ถึงครับ เพราะตัดสินใจรื้อเกียร์ลงมาก่อน น้ำยา 190 บาท/ขวด มีขายทั้งสำหรับเติมปรับสภาพซีลในกระปุกเพาเวอร์ ซึลเครื่อง ซีลเกียร์ธรรมดา และ ออโต้ครับ ท่านใดสนใจจะเอาไปลองดูมีขายที่ true Value ที่อื่นยังไม่เห็นเจอเป็นสินค้านำเข้าจาก USA และ UKครับ |
อ้างถึง:
เติมน้ำมันเกียร์ วัดระดับ เรีบยร้อย แต่ก็ยังไม่หายครับ ถ้าจะเปลี่ยนลูกใหม่ ควรจะพิจารณาอะไรเป็นพิเศษบ้างรึเปล่าครับ (ตัวเดิม กล่องแยกครับ) แล้วราคาลูกละประมาณเห่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ |
อ้างถึง:
ส่วนกรณี ซื้อเกียร์ตัวใหม่ ซึ่งปัจจุบัน เขาใช้กล่อง ECT ร่วมกับ กล่อง ECU ไปแล้ว (ไม่มีกล่องแยก) ถ้าจะให้แนะนำ ผมอยากแนะนำว่า ให้หาเกียร์ออโต้ ที่ตรงรุ่นกับเครื่องยนต์เดิม วึ่ง ถ้ามันเป็นรุ่นกล่องรวม ก็น่าจะหา ECU ที่ควบคุมเกียร์ออโต้ มาใช้เลยจะดีกว่าครับผม |
เรียนถามอีกครั้งครับ
ก่อนอื่นต้องขอประทานโทษที่ถามมากเรื่องครับ ไม่มีความรู้เลยครับพยายามศึกษาจากกระทู้ และข้อมูลต่างต่างอยู่ครับแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร ่ครับ 1jz gte auto 1. เรื่อง เกียร์ มีกล่องใบเล็กๆสีดำ ใช้ปากากเมจิก เขียนว่า 1JZ 6001708 เกียร์ มีปลั๊กใหญ่ มี 12 pin สีทองแดง 6 pin สีเงิน 6 pin และมีปลั๊กเล็กอีกข้างละตัว อยากถามว่ามันคือกล่องเกียร์รึเปล่าครับ หลายท่านบอกว่าเครื่อง j ใช้กล่องรวม ครับถ้าไม่ใช่แล้วมันคืออะไรครับ (ผมโพสรูปไม่เป็นต้องขอโทษด้วยครับ) 2. กล่อง ECU มีตัวเลข 36 (พอจะอ่านได้เท่านีครับตัวอื่นลางหายไปหมดแล้วครับ) ปลั๊กมีสีเทาไม่มีเหลืองครับอยากทราบว่า มันคือรุ่นอะไรครับ เหตุผลคือ ผมกำลังหาเกียร์ลูกใหม่ คุณ moonlight แนะนำว่าให้หาตรงกับเครื่อง ผมไม่รู้ว่าจะดูยังไงครับ อยากให้ เครื่อง กล่อง และ เกียร์ตรงกัน แต่ถ้าหาไม่ได้จะแปลงยังไงครับ ขอบคุณครับ |
อ้างถึง:
|
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ รายงานผลต่อเพื่อความต่อเนื่องของข้อมูลครับ
ผมมารายงานหลังจากเปลี่ยนซีลทอล์คเรียบร้อย เปลี่ยนเกรดน้ำมันเกียร์จากที่เคยใช้ DEXRON III มาเป็น DEXRON II ตามสเปคเดิมของเกียร์ ลองวิ่งจับอาการอยู่เกือบ 1 สัปดาห์เสียงดังวู๊ดที่เคยเป็นหายไป ผมไม่แน่ใจว่าเสียงที่เกิดนั้นเกิดจากซีลรั่ว หรือการใช้น้ำมันเกียร์ผิดเกรดด้วยหรือเปล่า แต่หลังจาก เปลี่ยนน้ำมันกลับมาเป็น DEXRON II รู้สึกได้ว่าเกียร์เปลี่ยนได้นุ่มนวลมากกว่าเดิม ลองไปค้นข้อมูลดูพบว่าน้ำเกียร์ DEXRON II จะมีค่าความหนืดน้อยกว่า DEXRON III ซึ่งเกียร์รุ่นก่อนปี 95 จำเป็นต้องใช้น้ำมันไปเลี้ยงระบบมากกว่าเกียร์รุ่นให ม่ ๆ ดังนั้น DEXRON II จึงเหมาะสมกับเกียร์รุ่นเก่ามากกว่า DEXRON III (เครื่องกับเกียร์ผมเป็นปี 94) มานึกย้อนกลับไปดู ก็ตรงกับข้อมูลเรื่องเกรดน้ำมัน เพราะตอนใช้ DEXRON III เกียร์เปลี่ยนค่อนข้างกระชากหน่อย ซึ่งผมเองก็นึกว่ามันน่าจะเป็นอาการปกติของเกียร์ 2JZ-GTE อาการกระชากที่เกิดขึ้นผมคิดว่าอาจเป็นเพราะว่าค่าคว ามหนืดของ DEXRON III ที่มากกว่า ดังนั้นด้วยความหนืดนี้เองทอล์คจึงปั่นสร้างแรงดันน้ ำมันเกียร์ในระบบได้เยอะกว่า DEXRON II และน่าจะถ่ายทอดแรงบิดของเครื่องได้ดีกว่าเช่นกัน แต่มันก็คงจะมีผลเสียอยู่เพราะเกียร์รุ่นเก่าต้องการ น้ำมันไปเลี้ยงระบบที่มาก ดังนั้นบางจังหวะที่เน้นคันเร่งน้ำมันเกียร์เข้าไปเล ี้ยงระบบไม่ทันก็ทำให้เกิดเสียงขึ้นได้ และระยะยาวคลัชเกียร์ก็จะสึกเร็วกว่าปกติ รวมถึงซีลต่าง ๆ ก็จะรั่วซึมเร็วกว่าปกติด้วยแรงดันน้ำมันเกียร์มากเก ินกว่าที่เขาออกแบบมา รายงานไว้เป็นข้อมูลเผื่อสมาชิกบางท่านเจออาการแบบผม ครับ ผิดถูกอย่างไรน้ามูนหรือท่านอื่น ๆ ช่วยเพิ่มเติมให้ด้วยครับ:) |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:43 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels