![]() |
ระหว่างออยเกียร์แยก กับ ออยเกียร์ร่วมหม้อน้ำ
ว่าด้วยเรื่อง OIL GEAR
หลายท่านที่ใช้ GEAR AT จำเป็นต้องมี!! ถูกต้อง (แล้วตรูจะบอกเค้าทำไมเนี่ย):redface: แต่ความสงสัยผมมันไม่หยุดแค่นี้ ระหว่าง oil gear แยกคือเป็นแผง oil แยกออกมาตากลมชมวิว กับ oil gear ที่ใช้ร่วมกับหม้อน้ำ อย่างไหนคือวิธีที่ถูกต้องที่สุด แล้วพี่ๆน้องใช้แบบไหนมากกว่ากัน |
อ้างถึง:
|
ถ้าถามว่าอย่างฝังใช้ได้ไหม...ตอบว่า ได้ครับ แต่ถ้าถามผมๆ แยกดีกว่าครับ เพราะถ้าใช้แบบฝังโอกาศที่แผงออยเกียร์ที่อยู่ในหม้อ น้ำจะผุ... น้ำมันเกียร์+น้ำถ้าเจอกันบรร_ัย..ครับ เกียร์พัง แล้วการที่เราแยกมันยังช่วยให้ระบายความร้อนของน้ำมั นเกียร์ดีกว่าแบบฝังอีก บ้านเราเมืองร้อนนะครับ...... ลองเข้าไปดูครับลุงมูลอธิบายไว้ครับ http://www.clubjz.net/showthread.php?t=39750:emo_toon24: :emo_toon24: :emo_toon24:
|
อ้างถึง:
ฉะนั้น ผมตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ยังไงๆ ออยส์ใช้ร่วมกับหม้อน้ำย่อมดีกว่า เสมอ ทุกสภาวะอากาศ ถ้าร้อน ตอนกลางวัน ก็ยังมีพัดลมหม้อน้ำ ช่วยลดความร้อนลง หรือถ้าอากาศเย็นน้ำในหม้อน้ำก็จะช่วยอุ่นน้ำมันเกีย ร์ ไม่ให้น้ำมันเกียร์เย็นเกินไป สรุป หม้อน้ำ อุณหภูมิจะนิ่งกว่า ครับ |
อ้างถึง:
จะเกิดอะไรขึ้น มีผลอะไรมั้ย แล้วพัดลมที่ไม่มีกระบังลมล่ะ เพราะหลายๆคันก้อใช้พัดลมเป่า:) |
อ้างถึง:
สรุปง่ายๆ ถ้าระบบระบายความร้อนของคุณติดตั้ง ดีและถูกต้อง ทั้งเครื่องและเกียร์คุณจะปลอดภัยแน่ๆ ครับ ยังไงก็ไม่พัง ปล ผมก็ใส่ ออยส์แยกครับ แต่ผมใส่ เน้นเท่ มากกว่า ทั้งๆที่รู้ว่า ออยส์ใช้ร่วมกับหม้อน้ำจะรักษาอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ไ ด้ดีกว่าก็ตาม http://www.clubjz.net/showthread.php?t=38209 |
ผมก็ใส่แบบแยกนะครับ 11 ปีแล้ว เกียร์ยังไม่เป็นไรเลยอ่ะครับ เคยมีช่างแนะนำให้ต่อวนในหม้อน้ำเหมือนกันแต่ผมไม่เอ า เพราะแบบเดิมมันใช้งานมาก็ไม่เห็นเป็นไรเลยอ่ะ สรุปผมชอบแบบแยกมากกว่าครับ....:redface: :redface:
|
ผมว่าจะลองใส่มันทั้ง2แบบเลย เข้าหม้อน้ำก่อนแล้วออกมาเข้าออยล์5555ไม่รู้จะดีป่า ว:redface:
|
ได้โปรด อย่าหลงประเด็น เรื่องการใช้ ออยคูลเลอร์แยกจากหม้อน้ำนะครับ
จุดประสงค์หลักๆ ของการใช้ออยคูลเลอร์แยก นั้น คือ การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ที่จะทำให้ น้ำมันเกียร์และน้ำระบายความร้อน ผสม กันเอง จนทำให้เครื่องยนต์และเกียร์ พัง ครับผม และเกียร์ออโต้ ใช้ประโยชน์ของ ออยคูลเลอร์ (ไม่ว่าจะแยกหรือไม่แยก) คือ การรักษาความร้อนของน้ำมันเกียร์ ให้คงที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่เป็นการทำให้เย็นตัวลงนะครับ ความร้อนของน้ำมันเกียร์ออโต้ (ที่อุณหภูมิ 70 - 80 องศาเซลเซียส) จะสร้างประสิทธิภาพสูงสุดให้กับการทำงานของเกียร์ออโ ต้ครับ |
อ้างถึง:
ปกติอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์นั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่อ่ ะครับถ้าไม่ใส่ออย แล้วจะเกี่ยวกับประเด็นที่ติดแก็สหรือไม่ติดแก็สด้วย เป่าครับ ว่าความร้อนจะส่งผลมาที่เกียร์ด้วยอ่ะครับ ของผม1จฝาดำเกียร์ออโต้ |
อ้างถึง:
ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สนั้น เนื่องจากว่า แก๊สมีอ๊อกเทนสูงกว่า น้ำมันเบนซิน การเผาไหม้จึงหมดจดกว่า ความร้อนจึงสูงกว่ารถที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพล ิง ดังนั้น ความร้อนที่เกิดจากเครื่องยนต์ ซึ่งปกติแล้ว มีโอกาสถ่ายเทรังสีความร้อนผ่านเข้าทางตัวเสื้อของเก ียร์อยู่แล้ว เป็นปกติ ไม่ว่า จะใช้ระบบเชื้อเพลิงอะไรก็ตาม แต่ว่า ผลกระทบที่เกิดจากเครื่องยนต์ที่ร้อนกว่า ย่อมต้องมีมากกว่าเป็นธรรมดาครับ ยิ่งถ้าไม่มีออยคูลเลอร์ด้วยแล้ว ยิ่งมีผลกระทบมากยิ่งขึ้นครับผม |
งานเข้า!!!
ผมไปส่องดูห้องเครื่องไม่เห็นมีเลยอ่ะครับ มีรูปให้ดูใหมครับ อันที่อยู่ในหม้อน้ำอ่ะ นึกไม่ออก ถ้าแยกพอจะหาเจออยู่ครับ :( |
อ้างถึง:
สังเกตุอีกอย่างคือ ก้มลงมองจากเกียร์ออโต้ ด้านขวา (ใต้ที่นั่งคนขับ) จะมีท่อต่อไปหน้าเครื่องยนต์ 2 ท่อ ลองไล่ท่อที่ต่อออกไปดูครับว่า ไปที่ไหน? แล้วคุณจะหา ออยคูลเลอร์เจอครับผม |
อ้างถึง:
ออยคูลเลอร์เกียร์ เป็นตัวควบคุมให้เกิดความร้อนค่อนข้างคงที่นะครับ ไม่ใช่ตัวช่วยการระบายความร้อน ดังนั้น ถามว่า เป็นไปได้มั้ยที่จะไม่มีออยคูลเลอร์ จึงต้องตอบว่า เป็นไปได้ครับ และเกียร์ก็ยังทำงานได้เช่นกันครับ เพียงแต่ว่า ระบบการทำงานของเกียร์ อาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง เนื่องจากความร้อนที่ควบคุมไม่ได้ครับ สังเกตุให้ดีๆ เวลาเครื่องยนต์ที่ยังร้อนไม่ถึงระดับ เกียร์ออโต้จะทำงานไม่ได้เต็มที่ นั่นก็เป็นเพราะเรื่องความร้อนของน้ำมันเกียร์ ยังไม่ถึงจุดที่สร้างประสิทธิภาพครับ แต่ถ้าร้อนเกินไป ก็มีปัญหาเช่นกันครับ ดังนั้นจึงต้องตอบว่า เกียร์ออโต้ จะทำงานได้ประสิทธิภาพไม่คงที่ครับ ถ้าไม่มีระบบออยคูลเลอร์ ดังนั้น ถ้าไม่มีออยคูลเลอร์ ก็ไม่ควรใช้รถใช้เกียร์ออโต้ ทำงานนานๆ หรือหนักๆ เช่น ขึ้นลงเขาสูงชัน ครับผม |
พยายามลดชิ้นส่วนต่อโยงให้เหลือน้อยที่สุดนั่นแหละคร ับ เป้นวิธีที่ดี เพราะ พวกนี้ยิ่งมีการต่อหลายต่อ มันก็มีโอกาสรั่วได้มากขึ้น ฉะนั้น เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึงก็เพียงพอครับ....
ก่อนที่รถยนต์จะวางตลาด วิศวกรเขาทำการแก้ไขแล้วแก้ไขอีกจนได้วิธีที่ดีที่สุ ดสำหรับรถใช้งานทั่วไปมา เขาจึงนำมาใส่ในรถยนต์ที่วางขาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ถ้าอยากรถรถเราทนทาน ให้อิงวิธีที่รถตลาดๆ เขาทำกันนั่นแหละครับ ไม่ต้องคิดมากไปถึงรายละเอียดของมันหรอก :? ถ้ารถ 95% ใช้ออยล์คูลเลอร์เกียร์ร่วมกับหม้อน้ำ แสดงว่ามันก็ต้องมีดีสิครับ มิเช่นนั้นคงไม่ได้เห็นกันมากมายขนาดนี้ เราก็ใช้ตามนั้นแหละ เพียงพอแล้ว อ่าไปคิดถึงรายละเอียดมันมากครับ คิดแล้วปวดหัว |
ปัญหามันอยู่ที่ วิศวกรยานยนต์ ไม่ได้ทดสอบการใช้งานเครื่องยนต์ เป็นเวลา นานหลายๆปีครับ ส่วนใหญ่ จะอนุมานว่าใช้งานทั่วๆไป ประมาณ 3 ปีครับ ซึ่งในระยะ 3 ปี สำหรับรถใหม่ที่เริ่มใช้งานตั้งแต่ออกจากโรงงานผลิต เชื่อมั่นได้เลยครับว่า ประสิทธิภาพของหม้อน้ำ + ออยเกียร์ ต้องคงสภาพดีแน่นอนครับ
แต่ตามความจริง ใช้งานจริงของคนไทย โดยเฉพาะคนที่ใช้รถเปลี่ยนเครื่องยนต์อย่างชาว JZ เรานั้น เปอร์เซนต์การใช้งานนานกว่า 3 ปี (โดยเฉพาะหม้อน้ำ) แน่นอนครับ พวกเราจึงคิดเรื่องล้อมคอกก่อนวัวหาย ถึงแม้ว่า ประสิทธิภาพของออยคูลเลอร์เกียร์แยก จะสู้ออยคูลเลอร์ในหม้อน้ำ ไม่ได้ (ยืนยันอีกเสียงครับ) แต่ว่า การบำรุงรักษา ยาวนานกว่าแน่นอนครับ การติดตั้งออยคูลเลอร์แยกนั้น ไม่จำเป็นต้องวางในจุดที่รับลมปะทะจากหน้ารถนะครับ เนื่องจากว่า เราต้องการควบคุมการระบายความร้อนของน้ำมันเกียร์ให้ คงที่มากที่สุด จึงไม่จำเป็นต้องใช้ลมเย็นที่ปะทะมาจากความเร็วรถ เข้ามาช่วยระบายความร้อนครับ เพียงแค่อากาศรอบออยคูลเลอร์ ก็เพียงพอแล้วครับผม สรุปว่า ออยคูลเลอร์แยก จะทำให้ น้ำมันเกียร์ออโต้ ร้อนช้ากว่า และช่วงกว้างของอุณหภูมิความร้อน กว้างกว่า (ความร้อนสูงมากกว่าและนานกว่าครับ) เมื่อเปรียบเทียบกับ ออยคูลเลอร์ในหม้อน้ำครับผม แต่ว่า ออยคูลเลอร์แยกจะทนทานกว่า ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการเกิดกับเครื่องยนต์หรื อ เกียร์ออโต้ ได้ดีกว่าครับผม |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:22 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels