2j ฟิกมิกส์ แลมด้า จำเป็นไหมกับกล่องหลอกหัวฉีด
 

2j gte ติดฟิกมิกส์ แลมด้า จำเป็นไหมว่าต้องติดตั้งกล่องหลอกหัวฉีด ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วกล่องมันทำหน้าที่อะไร ซึ่งบางเจ้าก็ติดตั้ง บางเจ้าก็บอกว่าไม่จำเป็น และหากถ้าไม่จำเป็น อยากทราบว่าหัวฉีดจะมีปัญหาหรือไม่ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกรึป่าว ว่าการติดตั้งฟิกมิกส์นั้น ปั๊มติ๊กน้ำมันจะถูกตัด แต่ไม่แน่ใจว่าหัวฉีดจะยังคงทำงานอยู่โดยไม่มีน้ำมัน หรือไม่ คือฉีดแต่ลมออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง หัวฉีดต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่มีน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด เราจึงควรติดตั้งกล่องหลอกหัวฉีดใช่ไหมครับ คือไม่รู้จริงๆ ว่ามันทำงานอย่างไรกันแน่ แต่กลัวรถพังอะ

ไม่จำเป็นต้องติดกล่องหลอกหัวฉีดครับ
แต่จำเป็นต้องตัดหัวฉีดไม่ว่าจะตัดด้วยวิธีใดก็ได้
สำหรับอู่ที่แนะนำให้คุณติดกล่องหลอกหัวฉีดแสดงว่าเค ้าคงหวังดีกับคุณอ่ะครับ (หวังเงิน) อิอิ
รถที่ใช้กล่องหลอกหัวฉีดก็คือรถรุ่นใหม่ๆที่เมื่อทำก ารตัดหัวฉีดแล้วจะไม่จ่ายไฟ

ขออนุญาติเสริมนะครับการตัดหัวฉีดสามารถช่วยให้การใช ้แก๊สทำงานได้สมบรูณ์ขึ้น
แต่การใช้กล่องหลอกหัวฉีดนอกจากจะสามารถช่วยให้การใช ้แก๊สทำงานได้สมบรูณ์ขึ้นแล้วยังสามารถช่วยให้กล่องส มองกลทำงานได้สมบูรณ์อีกด้วย คือจะลดข้อบกพร่องจากการทำงานของเครื่องในกล่องสมองก ล การใช้งานในระยะยาวจะทนกว่าไม่ใส่กล่องหลอกครับ
ยกตัวอย่างที่ผมวิเคราะห์หาอาการผิดปรกติของรถที่ติด แก๊สมา เป็นระบบ ฟิกมิกส์ แลมด้า 2JZ GTE จะมีข้อบกพร่องคือ
1.Injettor (หัวฉีด)
2.Idle Control (ตัวควบคุมรอบเดินเบา)
3.Igntion Advanced Angle (องศาจุดระเบิด)
4.O2 Sen Status (การทำงานของออกซิเจนเซนเซอร์) เป็นบางคัน

*คือในระยะยาวทำให้การใช้งานของกล่องสมองกลสั้นลงครั บ

อีกนิดครับ กล่องหลอกหัวฉีดควรเลือกยี่ห้อด้วย บางตัวหลอกได้ไม่ครบครับ

รถที่บ้านใช้เจไม่เคยติดกล่องหลอกหัวฉีดเลย ใช้มา 300000 กิโลเมตรล่ะ ใช้งานมา 3ปี ยังไม่เคยเจอปัญหากล่องพังเลยครับ แต่ถ้าเช็คด้วยคอมพิวเตอร์อ่ะไม่เคยครับ แต่ที่แน่ๆ 3ปีกับ 300000 กิโลอ่ะ ยังไม่เคยเจอปัญหา
แบบนี้คงต้องแล้วแต่เจ้าของรถแล้วล่ะครับว่าสมควรจะใ ส่หรือเปล่า ถ้าเงินเหลือซื้อใส่ไปก็คงไม่มีใครว่าอ่ะครับ แต่สำหรับผมเห็นว่าไม่จำเป็นครับ
ปล.คำตอบคงไม่ตรงใจใครบางคนนะครับ แต่ผมเองก็แค่มาแชร์ความเห็นก็เท่านั้นนะครับ

มาช่วยแชร์คับ เรื่องกล่องผมว่าแล้วแต่ชอบถ้าใช้กล่องนอกที่ดึงปลั๊ กเสียบไม่ต้องตัดสายได้ก็ okน่าทำครับ แต่ถ้าใช้กล่องแบบที่ต้องตัดสายผมก็ไม่แนะนำ ยังไงก้ต้องตัดสายผมเลือกตัดแบบไม่ใช้กล่องหลอกเลยเพ ราะ
-เรียบร้อยดีสายไฟไม่รก
-ไม่ต้องกังวลกับกล่องหลอกเสีย
-ไม่ต้องกังวลกับการที่เราไม่รู้ว่าหลอกได้จริงเปล่า เพราะค่าความต้านทานหัวฉีดแต่ละยี่ห้อมันไม่เท่ากัน
-เวลารถมีปัญหา ลดระยะเวลาและวิธีแก้ปัญหาได้เยอะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ความชอบครับ ถ้าชอบสวยงามผมก็เลือกที่ขะใช้กล่องแบบไม่ตัดสายดึงป ลั๊กเสียบแทนกันได้เลยแต่ก้ต้องชัวร์ว่าตัดได้สนิทจร ิงๆๆไม่ใช่ว่าตัดได้บ้างไม่ได้บ้างตัดแล้วแต่หัวฉีดย ังเปิดอยู่หน่อยๆๆ เราไม่รู้เลยระยะยาวก็อาจจะเสียได้คับ ช่วยกันแชร์ประสบการณ์ครับ

-ผมก็ไม่ใช่กล่องหลอก ไม่รู้จะหลอกไปทำไหมอ่ะกลัวแต่ช่างหลอกเรามากกว่า ใส่แต่ตัดหัวฉีดกะตัดปั้มติ้ก เช็คโค้ดก็ไม่ฟ้องอะไร
-โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า กล่องecu มันไม่ได้ทำงานหนักขึ้นหรอกครับ เพราะปกติมันก้ทำงานของมันตลอด ไม่มีเหตุผลอะไรที่กล่องมันทำงานหนักขึ้น และไม่น่ามีส่วนที่ทำให้กล่องอายุสั้นลง เห็นด้วยกะพี่ต่อ คอนหวันอ่ะ ผมใส่มาปีหนึ่งแย้ว วิ่งไปห้าหมื่นกว่าโล ยังปกติ

หัวฉีดเป็น L ครับ
ส่วนตัวหลอกหัวฉีดเป็น R ครับ

เมื่อได้รับแรงดันตกคร่อม :
L จะให้ผลลัพท์เป็น สนามไฟฟ้า หรือสนามแม่เหล็ก
ส่วน R จะให้ผลลัพท์เป็น ความร้อนครับ

สำหรับเครื่องตระกูล J ตัดหัวฉีด เป็นคำตอบที่ดีที่สุดและเป็นคำตอบสุดท้ายครับ

อย่างที่อาจารย์ bj กล่าวครับ อย่างไรก็ดี เครื่องเจตัดหัวฉีดครับ จะตัดด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ความเหมาะสมครับ