รายงานผลการใช้ air charger กับเครื่องเจครับ
 

ผมใช้ volvo 264 วาง 1j ge ฝาดำครับ เฟืองท้าย 3.7 ที่ผ่านมาวิ่งเส้นทางเดิมตลอดคิดแล้วกินน้ำมันประมาณ 6 โล/ลิตร บวกลบนิดหน่อย

ต่อมามีเพื่อนมาแนะนำให้ลอง air charger ดูเพราะรถเค้า (Stream) ใส่แล้วประหยัดขึ้นลิตรละ 1 กิโล ผมเลยหาซื้อมาลองมั่ง ผลคือประหยัดขึ้นจาก 6 โล/ลิตร เป็นประมาณ 7.4 โล/ลิตรครับ ทั้งนี้ ลองวิ่งไปแค่ถังเดียว ยังต้องปรับจูนไปเรื่อยๆ ก่อนเพื่อจับเอาจุดที่จูนแล้วประหยัดที่สุดอีกที แล้วจะมารายงานผลให้ทราบต่อไปครับ

หมายเหตุ
ในแง่การขับขี่ ผมว่ามันเร่งดีขึ้นกว่าเดิม (ในความรู้สึก คิดว่ามากกว่าการเปลี่ยนเฟืองท้ายจาก 3.54 เป็น 3.7 ครับ) เหยียบคันเร่งน้อยลงกว่าเดิมแต่รถตอบสนองดีกว่าเดิม แบบรู้สึกได้ค่อนข้างชัดพอสมควรครับ ที่แน่ๆ ดีกว่าเปลี่ยนกรองเปลือยครับ

ผมใช้ air charger ของ e spec เป็นของใหม่ซื้อต่อมาจากเพื่อนราคา 3000 บาทครับ

หน้าตามันเป็นยังไงเหรอครับแสดงรูปให้ดูได้ไหมครับ หรือลิงค์ไปดูรูปที่webอื่นก็ได้ครับ ขอบคุณ

ตามนี้เลยครับ air charge http://www.cm-club.com/vb/showthread.php?t=15278

thank you ,sir

โอ๊ว..พระเจ้ามันคือตัวอะไรครับ ถ้าให้เดามันน่าจะเป็นตัวที่ช่วยให้อากาศไหลเข้าได้อ ีกทางของเครื่อง n/a หรือป่าวครับ:confused: :D

มันมีหลักการทำงานยังไงครับ ช่วยอัดอากาศได้แค่ไหน แล้วมีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต่ยังไงบ้างครับ ช่วยอธิบายหน่อยครับเพื่อเป็นความรุ้แก่เพื่อนๆ

ผมอยากให้คุณลอง ปรับไมล์ก่อนสักรอบนะ แล้วค่อยวัดการกินน้ำมันใหม่

3.54 ไป 3.7 เนี่ย เฟืองท้ายสูงขึ้น ล้อต้องหมุนมากขึ้น ระยะทางบนเลขไมล์ก็จะมากขึ้นครับ มันเหมือนกับว่า ไมล์อ่อนกว่าเดิม สมมุติว่าคุณขับไปทำงานไปกลับเนี่ย มะก่อน 3.54 วิ่งไป 50 กิโล แต่พอใส่ 3.7ไป คุณอาจวิ่งไป 58 กิโล ก็ได้ครับ

ตอนนี้เลขไมล์ยังเชื่ออะไรไม่ได้มาก นอกจาก คุณจะใส่เฟืองท้ายเดิมกลับเข้าไป แล้วลองเทสแบบเดิมครับ แต่ผมว่าได้อัตราเร่งที่ดีกว่าเดิมก็คุ้มแล้วนะ

ว่าแต่เครื่องโบใส่ได้ป่าวเนี่ย อยากได้มั่ง

คอนเซ็บมันน่าจะเหมือนกรองเปลือย แต่เป็นกรองเปลือยแบบไฮเปอร์หน่อย เพิ่ม High-Flow Intake อากาศมาก แต่น้ำมันเท่าเดิม มันจะแรงได้จริงหรือครับ เดี๋ยวคงมีเพื่อนๆพออธิบายได้ ผมตามไปอ่านห้องอัลฟ่า กับห้องแจ๊ซ มีคนซื้อไปใช้เหมือนกัน บางคนบอกว่าชอบออกตัว ต้นจัดดี แต่ปลายไม่แตกต่างเท่าไร

ผมว่าถ้าท่านมีหอยเป็นตัวดูดอยู่แล้ว ก็น่าจะดีกว่า คงไม่ต้องเสียเงินซื้อหรอก สามพันซื้ออะไรได้หลายอย่างน่ะครับ

ข้างล่างก๊อปปี้มาจากห้องแจ็ซ

air charger ตัวที่ลงในรูปเลยครับ ใส่แล้ว รอบต้นให้ความรู้สึกดึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ส่วนรอบปลายๆก็งั้นๆครับ
แต่เวลาจอดรถไว้ในขณะเครื่องติดอยู่นี่รอบเครื่องมัน จะไม่นิ่งคับ มันจะโดดไปโดดมา ขึ้นๆลง ครับ แล้วเวลาออกตัวมันจะกระตุกครับ(คือรถผมเป็นเกียร์ธรร มดาครับ) ส่วนที่บอกว่าประหยัดน้ำมัน มันคงไม่มีผลอะไร
ข้อสรุปหลังจากที่ผมไปติดมานะครับ
รถทำความเร็วต้นได้ดีขึ้น ออกตัวดีขึ้น ( คือมันจะมีเกลียวให้เราปรับอากาศครับว่าจะเปิดกี่รอบ )
เห็นได้ชัดจากความเร็ว 402 เมตร ไม่เปิด air charger ทำเวลาได้18 ปลายๆ แต่พอเปิดแล้ว ทำได้ 18 ต้นๆ ก็เห็นผลครับ
แต่ซัดความเร็วปลายก้อเท่าเดิมครับ ก็อยู่ราวๆ180-190 ปกติครับ
ถามถึงความคุ้มค่าผมว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ครับ มันก้ไม่ต่างกับการใส่กรองเปลือยเลยครับ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ความพอใจของทุกคนอ่ะครับว่าเห็นสมคว รยังไง
ป.ล. คือผมอยู่ขอนแก่นครับ มันมีสนามให้ลองก็เลยลองทดสอบรถดุอ่ะครับ

อยากเห็นรูปที่ใส่ในเครืองเจ ดูว่าต่อตรงไหน

แล้วอากาศมันจะเข้าเยอะกว่าใส่กรองเปลือยได้มั๊ยครับ หรือว่ามันจะกรองฝุ่นได้มั๊ยครับ (ไม่รู้จริงๆครับ)

ขอโทษครับ พิมพ์ผิด เครื่องผมเป็นฝาขาว แบบ 4 ปลั๊กครับ

หลักการทำงานมันคือเป็น bypass อากาศเข้าเครื่องโดยไม่ผ่านลิ้นผีเสื้อครับ ตัวที่ว่ามันจะมีสกรูให้หมุนจูนปริมาณอากาศเข้า แต่แปลกคือถึงปรับมากๆ แต่รอบเดินเบาไม่ได้สูงขึ้นตามครับ รถผมต่างไปจากที่ คห 8 บอกคือรอบเดินเบานิ่งเหมือนเดิม ไม่ได้แกว่งแต่อย่างใดครับ วิธีต่อก็ง่ายๆ คือต่อท่อแว็คคั่มจาก air charger เข้าที่ท่อไอดีครับ ในชุดจะมีสายแว็คคั่มและตัวต่อ 3 ทางมาให้ครับ ไม่ต้องต่อสายไฟแต่อย่างใด ผมเดาเอาเองว่ากรณีของผมอาจต่างไปจากท่านอื่นเพราะเฟ ืองท้ายของผมมันต่ำมากเกินไป จึงทำให้เร่งไม่ค่อยออกเหมือนเครื่องเจของคนอื่นที่เ ฟืองท้าย 3.9-4.3 พอมีอุปกรณ์เสริมมาช่วย เลยทำให้เห็นผลที่ค่อนข้างชัดมากกว่ารถคันอื่นๆ ที่สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว

เฟืองท้ายผมเปลี่ยนจาก 3.5 ไป 3.7 มาได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้วครับ อัตราการกินน้ำมันที่ว่า ผมวัดกับเฟืองอันใหม่คือ 3.7 เนี่ยแหละครับ ไมล์ไม่อ่อนลงมากนักเพราะที่ระยะทางเท่าเดิม เฟืองเดิม 3.5 วิ่งประมาณ 12.0 โล เฟืองท้าย 3.7 ได้ประมาณ 12.2-12.3 โล แต่รถผมอาจไมล์แข็งไปกว่ารถคันอื่นเพราะเท่าที่เคยขั บไปตจวกับเพื่อน รถเพื่อนผม (yaris) วิ่งที่ 100 โล/ชม รถผมไมล์อยู่ที่ 80 โลเองครับ ยาง 205/65 15 ครับ หรือเทียบระยะทางบ้านไปที่ทำงาน ผมขับเทียบกับรถคันอื่นๆ ในบ้านก็พบว่าคันนี้เข็มบอกระยะทางขึ้นน้อยกว่าคันอื ่นประมาณ 15-16% ครับ แสดงว่าไมล์มันแข็งกว่าคันอื่นนิดหน่อย

ใช้กับเครื่อง N/A หรือครับ หรือว่าเทอร์โบด้วย

ไปถามมาแล้วครับ มันใช้ได้แต่เครื่อง n/a ครับ เทอร์โบใช้ไม่ได้ครับเพราะลมอัดจากโบมันแรงก่าลมดูดม ันเลยไม่มีผลอะไรกับเครื่องโบ มันเป็นตัวที่ช่วยให้อากาศไหลเข้าได้มากขึ้นตอนเรากด คันเร่งมีแรงดันแว๊กคั้มเข้ามาผาวาว์ลก็เปิดลมก็เข้า แค่นี้เองครับ

ก็แสดงว่าเหมือนมีการเปดลมผ่านเข้าห้องไอดีอีกทางโดย ไม่ผ่านลิ้นเร่งเหรอครับ....เข้าใจคิดนะ..

งืมๆ ก็น่าสนใจดี

-เป็นความเชื่อหรือเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ผมว่าไม่น่าต่างจากกรองเปลือย มันสืดอากาศได้มากขึ้น นะ ว่าแต่ว่ามันเอาลมจากที่ไหนไปเพิ่มแรงดันครับ
-ลองจับข้อมูลเปรียบเทียบดีๆ นะครับ

แหะๆ ไอ้ตัวนี้ ผมเคยศึกษาและลองทำใช้เองอยู่พักนึงอะครับ หลักการก็ง่ายๆครับ คือ มันจะเป็นตัว one way valve อะครับ อากาศเข้าได้ แต่ ออกไม่ได้ การติดตั้งก็เอาไป ติดไว้ที่ท่อ แวคคั่มอะครับ หลังลิ้นปีกผีเสื้อครับ คล้ายๆ กับ ท่อแวคคั่มรั่วอะ แต่ในที่นี้คือ ลมเข้าได้อย่างเดียว แต่ออกไม่ได้ และมันก็จะมีตัวหรี่ ให้อะครับ ว่าจะให้ดูดมาก หรือ ดูดน้อย ตามขนาดความจุ ของเครื่องยนต์ ถ้าเปิดมากเกินไป เดินเบาก็จะเปลี่ยนอะครับ เพราะ อากาศเยอะไป แต่ น้ำมันเท่าเดิม อาการก็จะรอบขึ้นๆ ลงๆ ต้องหรี่ให้มันดูดน้อยๆอะครับ รอบถึงจะนิ่ง ....ส่วนคนไหนที่อยากลองทำเอง ก็ทำได้ง่ายๆๆๆๆอะครับ ไปซื้อ one way valve ของ หม้อลมเบรกมาอะครับ ตัวละ 50 ท่อสามทางอีกตัวละ 10 แล้วก็ต่อให้ถูกคือ ลมดูดได้ แต่ออกไม่ได้ ถ้าต่อถูก ตอนเดินเบา ไอ้ตัว oneway นี้ก็จะดูด เสียงดังเลยอะครับ ดังฟ้อดดดดดเลย รอบจะสูงขึ้นด้วย และถ้าเอาไปขับตอนนี้คงไม่ work แน่ๆ ก็หาวิธีหรี่ รูอากาศให้มันเล็กๆอะครับ ให้รอบมันปกติอะ และยังดูดผ่านรูเล็กๆนั่นได้อะครับ แต่จะใช้วิธีไหนมาหรี่ก็ว่ากันไปครับ จะหาอะไรมายัด หรือ ซื้อวาวล์ หรี่ลม ตัวละ 100 มาใส่ก็ดูสวยดีครับ... ก็ประมานนี้ครับ DIY air charger ครับ .....ส่วนที่ผมทำเอง วิ่งออกมาก็ไม่ได้ผลตามที่ ข้างบนเค้าบอกอะครับ เพราะ รถผมเป็นเครื่อง เทอร์โบอะ กดคันเร่งที่ มันก็ไม่ดูดแล้วครับ แต่จะได้ผลดีตอนขับทางไกล ที่เราไม่บูสต์อะครับ มันก็จะทำงานได้ คือ ดูดๆๆ แต่ผมก็ไม่เคยวัดอัตราการกินนะครับ ว่าแตกต่างเท่าไรอะ และตอนนี้ ก็ถอดออกเราเรียบร้อย เพราะ เวลาซัดมาหนักๆ กดเบรกมันจะถื่อๆครับ อันตรายอะ ขนาดรูดูดผมเล็กเท่ารูเข็มอะ ที่จิงก็คงแก้ไขได้โดยให้รูมันเล็กก่านี้ แต่ก็ถอดออกดีกว่า ....

ก็ตามนั้นครับ ใครอยากลองดู ก็เอาไปทำกันได้ครับ งบไม่เกิน 100 ครับ ส่วนใคร งบเยอะ อยากได้รูปแบบเท่ๆ ไว้ประดับในห้องเครื่อง ก็หาซื้อได้ครับ แบบเจ้าของกระทู้ ก็สวยดีครับ แต่หลักการทำงานก็แบบเดียวกันหมดอะครับ เพราะ ผมติดตามมานานอะครับ ไอ้อุปกรณ์ตัวนี้อะ ตั้งแต่เป็นสินค้านำเข้าจนพี่ไทยก็มาเลียนแบบเปลี่ยน ก็แค่รูปลักษณ์กันไปต่างๆนาๆ (วรจักรมีเยอะครับ ลองเดินดูกันได้ ถูกด้วย ถ้าอยากทำเอง ก็ซื้ออุปกรณ์ที่นั่นเลยก็ได้ครับ) ตอนนี้รู)แบบของนอกก็ ไฮโซ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้แนวสุดก็เป็น Blow off และ ในอนาคต อาจจะมีเป็น ตัวเทอร์โบ เล็กๆ แน่ๆครับ เวลาดูดใบพัดก็หมุนๆๆๆ คงเท่น่าดูครับ :D

ข้อมูลเจ๋งครับ

diy ครับ