กล่องอีมาเนจ กับ F-con ใส่แล้วต่างกันมากมั้ย
เครื่ือง 1เจโบ เกียร์ M/t มีโบเดี่ยว บูสท์ 1.3 บาร์ หัวฉีด 550
ใส่กล่องอีมาเนจ กับ F-con v อัพ โปร จะได้ความแรงต่างกันมากมั้ย แล้วกล่อง วี อัพ โปร ใช้ไปแล้วจะมีปัญหารึป่าวครับ ช่วยแนะนำด้วยว่าจะเล่นกล่องอะไรดี สำหรับเครื่องเสต็ปข้างต้น ขอราคาพร้อมจูนด้วยนะครับ และเล่นตัวไหนคุ้มกว่ากัน |
-----อยู่ที่คนจูนครับ แต่เรื่องความละเอียด เอฟ คอน ละเอียดกว่า-----
|
อ้างถึง:
1. E-mange นั้น ออกแบบมาเป็นกล่อง Piggy ที่ไม่ไต้องให้สัญญาณ Cam + Crank ครับ รับแต่สัญญาณสั่งจุดระเบิด IGT การปรับแต่ง จะต้องอ้างอิงสัญญาณเดิม เช่น สัญญาณจุดระัเิิ บิด สัญญาณสั่งฉีดน้ำมัน ข้อดีก็คือ สะดวก ในการติดตั้ง และปรับจูน เราเพียงเข้าใจว่า จะบวกเพิ่ม หรือลดลง จาก สัญญาณเดิม ตามความเร็วรอบเครื่อง ถ้าจะไม่จูนในช่วงนั้น ๆ ก็ใส่ 0 ลงไป ง่าย ๆ ข้อเสีย ก็คือเป็นการปรับ บวก หรือ ลด สัญญาณเดิม ความแม่นยำ อาจจะไม่ดีมากนัก อ้างอิง จากสัญญาณเดิม ซึ่ง สัญญาณเดิมก็ไม่ได้ละเอียดมากนัก และยังเจอปัญหา จากการต่อต้าน การเปลี่ยนแปลงของกล่องหลัก เช่น เพิ่มน้ำมัน จากสัญญาณหัวฉีด กล่องตรวจเจอ ก็จะลด สัญญาณฉีดน้ำมัน เป็นการ "ดึงกันไป ดึงกันมา" จูนเนอร์บอกว่า จูนไม่ได้ A/F ไม่เปลี่ยนกล่อง หลัก ดึงคืน หรือเรียกว่า ติด Close loop 2. F-Con V Pro มีความสามารถ รับสัญญาณ Cam + Crankได้ ดังนั้น จึงสามารถจูนแบบ Stand alone คือส่งสัญญาณจริง ๆ ไม่อ้างอิงสัญญาณ จากกล่องหลัก ไปคุมเครื่องได้ ทุกอย่างที่ต้องการ ข้อเสีย ติดตั้งยากอ่ะครับ เพราะ สัญญาณ Cam + Crank ก็มีหลายแบบ แต่ละรุ่น ยี่ห้อ ก็ต่างกัน มือใหม่ เอาแค่ ติดเครื่องให้ได้ ยังไม่จูน ก็หืดแล้ว และก็คงจูนยากอ่ะครับ จะต้องเข้าใจถ่องแท้ เพราะ Stand alone ต้องจูนทั้งหมด จะปล่อย Default แบบ E-manage ไม่ได้ แต่ Tools ต่าง ๆ ที่โปรแกรมมี ผมว่าน่าจะเข้าใจและจูนได้ไม่ยาก อ้างถึง:
3S-FE ขับหลัง คันนี้เคยไปติด F-con แต่ใช้ไม่ได้ เพราะ F-con อ่านสัญญาณ Crank Cam ไม่เข้าใจ อาจจะต้องปรับเปลี่ยน ระบบการวัด Crank Cam ใหม่ ก็งานใหญ่ิอีก ดังนั้น ใช้งานทั่วไป + ขับแรง ๆ บ้าง Ultimate + ปลด Close loop น่าจะ Work สุดแล้ว ของคุณ retro_boy ละเอียดยิบเลย ชัดเจนมากเลยครับ อ้อ ผมเช็ค วงจรของ E-manage มาแล้ว เขาใช้ CPU ของ Renesas (เดิมเป็น ฮิตาชิ) ตระกูลใหม่ 32 ิbits CPU แรงพอสมควรครับ ตามความคิดส่วนตัวผม ถ้าเขา เพิ่้มวงจรเสริมนิดหน่อย และทำโปรแกรมดี ๆ ทำให้เป็น Stand alone ได้คิดว่า คงแรงไม่น้อยหน้า F-con แต่ ต้นทุน Software ก็จะต้องแพงกว่านี้อีกเยอะ อาจจะต้องบวกราคาขายไปอีก ซัก 100% ทีเดียว E-manage คงพอใจในตลาด Piggy back เพราะ ถ้าขายได้่เยอะ ๆ จะได้ได้กำไรงากว่า Stand alone ใบแพง ๆ ครับ อีกนิดครับ E-manage ใช้วงจรส่วน Driver ของส่วนจุดระเบิด และคุมหัวฉีด ง่าย ๆ ครับ อะไหล่ ซื้อบ้านหม้อได้ทั้งหมด ถ้ายัง connect กับ กล่องได้ ซ่อมได้ไม่ยาก ส่วนใหญ่ที่เห็น วงจรคุมจุดระเบิดพัง เปลี่ยน IC 1 ตัวใช้งานได้แล้วครับ เบอร์ IC เป็นเบอร์ญี่ปุ่น ถ้าจะไปซื้อบ้านหม้อ จะต้องเทียบเอา เพราะบ้านเราเอามาตราฐานเบอร์ฝรั่ง |
ผมก็จะลองเล่นดูคับ E-manage เครือง2j โบ holset เกียร์25 เครืองเดิมหมด กะบูส 1.1บาร์
น่าจะได้ 400+นะคับ อีกคัน1j โบt78 แคม264 หัวฉีดได้แค่ 750 กล่อง E-mamage อาติม่า กะไว้ 700+ กล่องมันหัวฉีดใหญมากไม่ได้คับ เวลาติดเครืองใหม่ติดยากๆ หัวเทียนใช้เย็นมากไม่ได้ เดียวจูเส็ดรจะเอากราฟมาให้ดูนะคับถ้าไม่มีปัญหาอะ ตัวผมว่ามันคุมค่า เงินละคับ กล่อง+สายไฟ+จูน ประมาณ10000 ถ้าเป็นv-pro ตก 20000+เอาเงินทีเหลือไปอัพพวกหัวฉีดได้เลย][/size] |
อ้างถึง:
อ้างถึง:
|
ผมก็ขออนุญาตสงสัยด้วยคนครับ
กรณีที่รถคันเดียวกันทุกอย่างเหมือนกันปรับบูสต์เท่า กันสมมติ 1.2 bar 1.ใส่ E-manage จูนค่าไว้ ณ.รอบที่มีแรงม้าสูงสุดสมมติ 6800 rpm ค่าน้ำมัน = A , ค่าไฟ = B , อากาศ = C 2.ใส่ FCON up pro หรือกล่องอื่นๆ ณ.รอบที่มีแรงม้าสูงสุด สมมติ 6800 rpm ค่าน้ำมัน = A , ค่าไฟ = B , อากาศ = C ถ้าทุกอย่างสมมติจูนได้เท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากๆ อย่างนี้แรงม้าสูงสุดจะได้ไม่เกือบเท่ากันเหรอครับ รบกวนผู้รู้ด้วยคนครับ |
ไม่รู้นะครับ วู่า อีมะเนหงกจะจูนเม้นียนๆ ม้า 600-700 ไาด้แาหร่มหรือเ ปล่า
รู้แต่ว่า พอจะจูนให้ม้ามาหลายๆครอก เห็นจูนเนอร์เค้าแนะนำแต่ F con กล่องทองกันทั้งน้านนน คงต้องให้จูนเนอร์อาชีพ ผู้มีโปรแกรมจูน มาแนะนำต่ออีกดอกนึง อิอิ ผมขาดการศึกษาและการจดจำเรื่องกล่องครับ ว่าไงก็ว่าตามกัน บานแหกไปตามเรื่อง เอิ้กๆๆๆ |
----จริงอย่างที่พี่ retro boy บอกเลยครับ เช้าๆ หรือตอนเครื่องเย็น เซ็งสุดๆ น้ำมันท่วม ต้องคอยเร่ง ไม่งั้นดับ ของผมต่อเป็น stand alone เลยครับ คนใส่เอากล่องของ โรตารี่ มาใส่ให้อ่ะ แต่สงสัยยังจูนไม่ค่อยเก่ง เลยไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เด๊ยวสักพักคงจะเอาไปจูนเก็บใหม่ ให้คนจูนหาประสบการไปก่อน ของผมค่าใส่กับจูน เค้าคิด 8000 จูนครั้งต่อไปก็ ขอแค่ค่าเสื่อมเซ็นเซอร์ + ค่าล่วงเวลาลูกน้องนิดหน่อยเท่านั้น คุยง่ายด้วยไม่เรื่องมาก ไม่ค่อยหวงวิชา
|
อ้างถึง:
ผมขอเกริ่นๆแบบเข้าใจง่ายๆก่อนนะครับว่าการจูนกล่อง( ตามที่ผมเคยใช้และลองจูนเอง)...ที่เขาเรียกว่า"เค้น"คืออย่างนี้ครับ 1.รถจะวิ่งได้ดีหรือไม่องศาจุดระเบิดเป็นตัวแปรหลักๆ เลยนะครับ...ไฟแก่..รอบจะกวาดดีแรงม้าและแรงบิดสูงแต ่....มากเกินไปก็จะน็อคครับ(ชิงจุด) 2.ส่วนผสมของอากาศและน้ำมันต้องพอเหมาะ 14.7 คือค่าที่ดีที่สุดครับแต่....เรามักจะคิดกันว่าน้ำมั นหนาๆจะวิ่งดี(รถดีเซลอาจใช่นะครับ)....แต่สำหรับเคร ื่องเบนซินยิ่งบางยิ่งดีครับ(ลื่น..รอบกวาดไวเบาคันเ ร่ง)...แต่บางมากไปก็จะน็อคครับ(อีกแล้ว) ออกเทนน้ำมันยิ่งสูงมากๆจะยิ่งปรับให้ไฟแก่ได้มากขึ้ นและจุดที่จะน๊อคก็สูงขึ้นเช่นกันครับ(กำลังอัดสูงขึ ้น) สังเกตุมั้ยครับว่า"น๊อค"เป็นอาการที่เรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดของเครื่องยนต์โ ดยหลีกเลี่ยงไม่ได้....เพราะฉะนั้นการ"เค้น"คือการที่"จูนเนอร์"ดึงเอาความสามารถที่เครื่องตัวนั้นจะผลิตออกมาได้... โดยทั้งไฟและน้ำมันถูกปรับมาแบบ"เฉียดน๊อค"โดย"จูนเนอร์"จะสามารถรู้ได้จากประสบการณ์และเครื่องมือนะครับ(ควา มแม่นยำของเครื่องมือที่ใช้+ซอร์ฟแวร์+ประสบการณ์).. .ดังนั้นรถทั่วไปที่ไม่เน้นแข่งขัน"จูนเนอร์"จะเผื่อไว้ค่อนข้างเยอะครับ มาถึงตรงนี้เริ่มสงสัยแล้วใช่มั้ยครับว่า..มันแตกต่า งยังไงเราลองมานึกภาพดูนะครับว่ามีอะไรที่จะทำให้เคร ื่องเกิดอาการ"น๊อค"อย่างที่กล่าวมาบ้าง 1.ปั๊มติ๊ก...อันนี้สำคัญมากๆครับเพราะอย่าลืมถ้าแรง ดัน 3 บาร์น้ำมันตั้งไว้ +20 ผลที่ได้คือ AF 1/1 = 14.7 ใช่มั้ยครับ...แล้วถ้าแรงดันเกิดตกล่ะครับ เหลือ 2.5บาร์/น้ำมัน +20 ทีนี้มันไม่ 1/1 แล้วสิครับมันเป็น1/0.7-0.8 ผลที่ได้คือ AF บางครับ 15-16/1พอบางแล้วยังก็ไงเหรอครับก็ "น๊อค"สิครับทีนี้เพราะไฟก็บวกไว้แก่แล้วแถมบูสท์มาอีก...ท ีนี้ก็พังสิครับ(น๊อคแบบรุนแรงในรอบสูงๆ) 2.หัวเทียนครับอันนี้ไม่ต้องเอ่ยครับ....สภาพไม่ดีน๊ อคเอาง่ายๆครับ(ไม่ขอพูดถึงนะครับ..)เรพาะจุดระเบิดไ ม่ตรงตามที่ตั้งองศาเอาไว้ เล่ามาซะยาว...คงพอเข้าใจได้บ้างนะครับ....แต่สรุปได ้ดังนี้ครับ 1.กล่องที่มีความละเอียดมากๆ สามารถจูนได้..."เฉียดพัง"...หรือสามารถเค้นสมรรถนะเครื่องตัวนั้นออกมาได้เต็ม ที่..รวมถึงความไวในการประมวลผลจึงทำให้การตอบสนองที ่ดีกว่าครับ...ดังนั้นในรอบที่เท่ากัน..โหลดเท่ากัน. .บูสท์เท่ากัน(น้ำมัน-ไฟ ยังไงก็ไม่เท่านะครับเพราะเป็นความแตกต่างของซอร์ฟแว ร์)ยังไงก็ดีกว่าครับ......(รถแรงไม่ได้มีแต่แรงม้าน ะครับ..."แรงบิด"คือหัวใจเลยนะครับ) 2.ฟังค์ชั่นครับ...อันนี้แตกต่างกันเห็นๆครับ...สามา รถช่วยให้"จูนเนอร์"จูนได้เนียนขึ้นครับ....ยิ่งเนียนยิ่งดี..ยิ่งลื่นคร ับแตกต่างกับกล่องที่มีความสามารถต่ำกว่าจึงทำให้แรง ม้าและแรงบิดแตกต่างกันมากครับ คร่าวในการจูนก็คือ.....ไฟแก่ที่สุด("เฉียดน๊อค")...น้ำมันบางพอเหมาะ(ส่วนผสมน้ำมัน/อากาศ)...บูสท์พ อดีกับสภาพอุปกรณ์ของเครื่อง(ของแต่งโดยรวม)...ลองคิ ดดูก็แล้วกันครับว่า"จูนเนอร์" ไม่ได้จูนกันง่ายๆครับ.....รถวิ่งต้องปรับทั้งไฟ..แล ะน้ำมัน..และไหนจะบูสท์อีก หูก็ต้องฟังน๊อค(เครื่องฟัง)..ตาก็ต้องมองส่วนผสมที่ AF meter คิดดูก็แล้วกันครับว่า "ง่าย" หรือ "ยาก"....แล้วเครื่องที่ทำมาบางตัวเป็นแสน-ล้านครับ จูนผิดจบลงตรงนั้นเลยครับ..... โดยรวมๆแล้วมีอีกเยอะ...ว่างๆจะเอามาเล่าให้ฟังอีกนะ ครับ:) |
คือ ผมเองก็ไม่รวยครับ
อาศัยค่อยๆทำไปเหมือนกัน อยากแรง แต่ถามใครก็ให้ใช้แต่ F Con ก็เลยใช้ ต อนนี้ กล่องอีแมเนจ ก็วางทิ้งไว้ที่อู่ ขายไม่ออกซักที เพราะงั้น เลยสนใจกระทู้นี้ ยิ่งถ้าอีแมเนจ จูน ได้ หกเจ็ดร้อยม้า ยิ่งดี จะลอกแบบเลย เพราะสเตปที่ผมใช้งานตอนนี้ ก็สูตรสำเร็จ โบ กล่อง แคม หัวฉีด หัวเทียน แคม เหมือนๆๆๆๆๆๆๆ คนอื่นทั้งนั้น ไม่อยากจ่ายแพงหรอกครับ แต่ พับผ่าเถอะ จูนเนอร์ของผมก็ให้ใช้แต่ F Con อ่ะ ถ้าจะเอาม้าเยอะๆfight มึนไปเลย กระเป๋าแหกไปตาม F Con ด้วยประการฉะนี้ |
:emot02: ส่วนใหญ่ที่เครื่องพังๆกันมาจากอุปกรณ์ร่วมอื่นๆไม่พ ร้อมซะมากกว่าครับ
-สเต้ปใช้งานรถบ้าน ไม่ควรเค้นกำลังเครื่องยนต์มากครับเเละส่วนใหญ่ จะจูนเเบบเหนียวๆไว้ก่อนคือ ช่วงซัดอาจจูนหนานิดนึงเผื่อเเป้ก เเละ้ที่ลูกสูบเเตกกัน ส่วนใหญ่ที่เห็นคือเรื่องเเรงดันน้ำมัน เช่นปั้มติ้กถอย ไม่พอ น้อค ช่วงซัดซะมากกว่า ส่วนช่วงเดินเบาเเรงดันปั้มติ้กไม่ค่อยเกียวเท่าไรคร ับ บางคันถ้าใส่FPC ก็อาจอยู่ที่2.5-2.7บาร์ ส่วนคันที่ถอดออก ก้ 3บาร์ เท่าที่จับประเด็นได้ คือ ช่วงบุ้ทสูงๆเเรงดันน้ำมันต้องเหลือๆเเละเเรงดันต้อง ไม่ตก ครับ ;เป็นความเห็นส่วนตัว ครับ :emot02: |
สำหรับเครื่อง na เดิมๆ ใส่แล้วคุ้มหรือไม่คุ้ม ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้อะไรจากการใส่กล่องจูนครับ
ถ้าคิดว่าใส่แล้วมันจะแรงกว่าเดิม ก็ไม่คุ้มหรอกครับ เพราะมันจะแรงกว่าเดิมได้ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าคิดว่าใส่เพื่อปรับให้มันเรียกสมรรถนะที่ดีที่ สุดเท่าที่เครื่องยนต์มันจะทำได้ออกมา ก็พอจะคุ้มบ้างครับ :) เครื่องยนต์เดิมๆใส่กล่องจูนเข้าไปโดยไม่ได้มีการปรั บแต่งอะไรเลย ส่วนใหญ่จะดีขึ้น"ไม่เกิน" 8% เท่านั้นครับ ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่อง ส่วน 8% จะได้กี่แรงม้า ก็ลองคิดเทียบดูจากแรงม้าเดิมของเครื่องยนต์เอาครับ ถ้าคิดได้แล้วจะรู้ว่าทำไมเครื่องยนต์เทอร์โบใส่กล่อ งจูนมันถึงเห็นผลได้มากกว่า na |
ขอถามเพิ่มครับ
ระหว่าง f con v ธรรมดา กับ f con s ถ้านำมาใช้แบบ piggy back ทั้งคู่ ความสามารถจะแตกต่างกันยังไงครับ ผมเห็นใจกระทู้นี้ ขาย f con s ตรงรุ่นสำหรับ 1j gte vvti มันสามารถคุม vvti ได้ไหมครับ ขอบคุณครับ |
ไหนๆก็ใส่กล่องแล้ว F-Con ไปเลยน่าจะดีกว่าครับ กล่องเดียวได้หลายสเต็ป จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกล่องเพื่อเพิ่มสเต็ปอีก ถ้าถามจูนเนอร์เค้าก็ต้องให้เครดิต F-Con แน่นอนครับ
|
จากประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะครับ
รถอัลติสเซ็ทโบบูส 0.5 ใช้กล่องฟ้า ซัดหนักๆ แช่ที่เกียร์ 2 ( ตอนนั้นแข่งกับ honda stream ครับ ) ผลคือก้านคตครับ ต้องยกเครื่องครับ หลังจากนั้นเลยลองเปลี่ยนกล่องเป็น F-con v 3.1 เคยลองซัดแข่งกับ subaru impressa ที่เป็น5 ประตู มาแล้วครับ ซัดกันเต็มที่ครับ ตีนต้นสู้ไม่ได้ครับ ปลายยาวๆ ตามได้ครับ เครื่องไม่มีปัญหาเลยครับ |
อยากรู้ ว่า
กล่องเงิน F con V up pro กล่องเงิน F con v pro แท้ แตกต่างกันยังไง และสามารถ ทำมาใส่ได้ไหม คับ:? :? |
อ้างถึง:
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
น้ำมันบ้านเราออคเทน 95 แต่ LPG มัน 105 จูนไฟเพิ่มได้เยอะ ได้แรงบิดเพิ่มมากขึ้นพอสมควร แต่จะได้เนียนดีแค่ไหน ก็ต้องดูที่หม้อต้มด้วยว่ามันสามารถจ่ายแก๊สได้ทันหร ือเปล่าครับ ที่สำคัญคือถ้าจูนไฟไว้สำหรับแก๊สเลย เวลากลับมาวิ่งน้ำมันก็จะเขกกระจายเลยล่ะครับ ปัจจุบันผมก็พ่วงกับ e-manage อยู่รู้สึกได้เลยว่ารอบต้น ๆ แก๊สมันวิ่งได้ดีกว่าน้ำมัน แต่รอบปลายยังสู้น้ำมันไม่ได้น้ำมันยังวิ่งเนียนกว่า ครับ ไม่ใช่ว่าหม้อต้มมันจ่ายแก๊สไม่ทันนะครับ แต่มันคุมการจ่ายเชื้อเพลิง ความหนาบางให้ได้แม่นยำใกล้เคียงกับน้ำมันค่อนข้างยา ก เพราะ ECU แก๊สมันยังไม่ฉลาดเท่าน้ำมันครับ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:08 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels