ในห้องเครื่อง เปิดแอร์แล้วมีเสียง ควันขาวท่วมเลย
 

เรื่องเป็นไงมาไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับบบ

คือว่ารถผมได้จอดอู่อยู่นานพอสมควร พอเอาออกมา แอร์ไม่เย็นครับ เมื่อวาน(13ธค)ก็เลยไปเติมน้ำยาแอร์ เติมเสร็จเย็นดีครับ ขับจากร้านมาถึงบ้าน แอร์ก็ไม่เย็น
พอลงมาดู อ่อ สายครัทช์คอมแอร์หลุด ก็จัดแจงต่อเรียบร้อย สองสตาร์ทดู เออคลัทช์คอมแอร์ทำงานปกติแอร์เย็นดี ก็นั่งตากแอร์ในรถสักพัก เท่านั้นแหละครับ
เอี๊ยดดดดดดด ยาวๆเลย มีควันขาวขึ้นมาด้วย(บริเวณฝั่งไอดี ็มองไม่ทันด้วยเพราะอยู่ในรถ)
ไอ้เราก็นึกว่าครัทช์คอมแอร์ไหม้ ก็กดปุ่ม A/C เพื่อปิดคอมแอร์ มันก็ยังไม่หายดังครับ เลยดับเครื่อง
พอเครื่องดับ เสียงมันยังดังต่ออีกประมาณ2-3 วิ แล้วมันก็หายไป ลองมาดููก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
ลองสตาร์ทอีกทีว๊ะ เอี๊ยดดดดด เหมือนเดิม ก็เลยดับเครื่อง มันมืดแล้วด้วย เลยโทรหาช่าง
เค้าบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เข้ามาดูให้
วันรุ่งขึ้น ลองสตาร์ทอีกที โอ้ววว มันเป็นปกติดีทุกอย่างครับ ลองออกไปขับดู มันด็ไม่ีอาการอะไร (พอดีช่างไม่ว่างเลยไม่ได้เข้ามา)


สรุปตอนนี้รถเป็นปกติแล้วครับ แต่ก็อยากถามผู้รู้ดูว่า
อาการดังกล่าวเกิดจากอะไรได้มั่งครับ เพราะอยู่ดีๆก็หาย ไอ้เราก็ขับรถแบบไม่สบายใจ กลัวมันจะกลับมาเป็นอีก
ปล.น้ำยาแอร์เยอะเกินมันFlowออกมานี่พอจะเป็นไปได้มั ๊ยครับ??

ตัวลูกปืนตรงลูกรอกดันสายพานหน้าเครื่องหรือเปล่า ถ้าลูกปืนตายลูกรอกจะไม่หมุนทำให้สายพานมันไหม้ก็ดัง ได้เหมือนกันในกรณีนี้ ถ้าให้สบายใจก็ลองเปลี่ยนลูกปืนลูกรอกตัวนี้ก่อนก็ได ้ครับตับละไม่ถึง 100 บาท

ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ เพราะดับเครื่องแล้วยังมีเสียงอยู่ อีกสักพักจึงหาย ถ้าเป็นที่ลูกลอกดันสายพาน พอดับเครื่องแล้วเสียงก็ต้องหายอ่ะครับ

:( ตอนแรกนึกว่าพัดลมครับ
ลองถอดเทอร์โมสวิชต์ออกแล้วonสวิทช์ให้พัดลมทำงานก็ป กติด

เดี๋ยววันว่างๆจะเข้าอู่ไปเช็คอีกทีเพื่อความสบายใจ

ผมเดาว่าน่าจะเป็นเกี่ยวกับสายพานหรือลูกปืนมู่เล่ย์ เหมือนข้างบน....สาเหตุที่ยังดังหลังจากดับเครื่องก็ เป็นได้ เพราะหลังดับเครื่อง เครื่องยนต์น่าจะยังหมุนต่อตามแรงเฉื่อยอีกนิดหน่อย ไม่น่าจะหยุดหมุนทันทีทันได...

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ เดี๋ยวจะลองเช็คดู

ขอบคุณทุกท่านครับ:emo_toon24:

1.อาการแรกน่าจะสายพานหย่อนเกินไป ทำให้ลื่นขณะเปิดแอร์ เพราะสายพานแอร์จะต้องตึงกว่าสายพานเครื่อง ขณะเครื่องยนต์ทำงานคองแอร์จะเป็นฝ่ายฉุดการทำงานจึง เกิดอาการลื่น แต่ถ้าเป็นสายพานเส้นเดียวใช้ทั้งหมดก็ต้องตั้งตีงกว ่าปกติ
2.ถ้าทุกอย่างปกติ ต่อไปคือ ลูกปืนรอกตั้งสายพานเสียชีวิตแล้ว คือ จะไม่หมุนเมื่อติดเครื่องยนต์สายพานจะถูไปบนรอกที่ไม ่หมุนตามก็จะเกิดความร้อนมากๆจนเกิดควันขึ้นได้ ความเห็นน่าจะเป็นที่ลูกปืนรอกนี้แน่แน่ เพราะเมื่อเย็นแล้วไม่เป็น แนะนำให้เปลี่ยนเพราะลูกปืนตัวนี้ทำงานหนักจริงๆ ทั้งรับแรงกดและหมุนรอบตัวเองเท่ากับรอบของเครื่องยน ต์ที่หมุนคงจะทนไม่ไหว
3.ถ้าปกติทั้ง 2 ข้อ ต่อไป คอมแอร์
3.1 ลูกปืนหน้าคลัชแตก ถ้าปกติ
3.2 เติมน้ำยาแอร์เกินมาตรฐาน หรือผิดชนิด ถ้าปกติ ไม่ผิด
3.3 ลูกปืนคอมแอร์แตก สำหรับคอมแอร์มี 2 ยี่ห้อ คือ
3.3.1 เวลาเสียจะส่งเสียงหอนจนน่ารำคาญ แต่ไม่พัง เสียงร้องคล้ายๆเสียงหวอเบาๆ
3.3.2 เวลาเสียไม่พิรี้พิไร น๊อกเลย แนะนำถ้าเป็นคอมแอร์เสียให้เปลี่ยนอย่าซ่อมไม่คุ้มเส ียอารมย์:emo_toon07:

อาการนี้ผมเคยเป็นครับ
น่าจะมาจากแรงดันน้ำยาในระบบเกินมาตราฐาน
ซึ่งสาเหตุมาจากหลายตัวแปรนะครับ
ของผมให้พี่ทรัพย์(ช่างแอร์ตัวจริงผู้โด่งดัง-เสียชีวิตแล้ว)
ทำการตรวจซ่อม-พบว่าระบบระบายความร้อนของน้ำยา
ไม่ดีพอ ทำให้น้ำยาที่จะผ่านช่วงดรายเออร์ยังมีความร้อน
สะสมอยู่มาก(มือจับแทบไม่ได้)
ยิ่งถ้ารถวิ่งไปแล้วเกิดเจอสถานการณ์รถติดนานๆตอนบ่า ยๆแดดร้อนๆ ซักพักเดียวแหละครับ..
จะมีเสียงร้องวี๊ด..ด.. และควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากใต้ฝากระโปรงรถ..ดูเป็นท ี่น่าตกใจกับคนรอบข้าง
นั่นคือ น้ำยาถูกดันทิ้งผ่านทางซีลข้อต่อ(ที่ไม่ดี)
หรือทางจุ๊บลูกศร(แรงดันเกิน)
เมื่อดับเครื่องยนต์หรือปิดแอร์แล้วก็ยังคงมีเสียงขอ งแรงดันน้ำยาอยู่อีกสักพักหนึ่ง จนแรงดันลดลงเองจึงหยุด
ของผม..หลังจากเปลี่ยนพัดลมระบายความร้อนเป็นของVolv o แล้วยังเอาไม่อยู่..พี่เขาจัดการย้ายแผงแอร์ไว้ใต้กร ะบะ แล้วจัดการไล่ระบบน้ำยาใหม่
..คราวนี้..หนาวแบบสบายใจจนบัดนี้เลยครับ
ลองดูนะครับ..อาจจะเป็นอาการเดียวกัน..
ขอให้หายไวๆครับ

:emo_toon08:

ได้ความรู้เยอะจริงๆเลยครับ

ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะครับ :emo_toon24: