ความร้อนมันเพี้ยนๆอ่าทำงายดี
 

เครื่อง1 เจโบ ในบอดี้ E36 คือว่าไปภูเรือมาความร้อนขึ้นตอนดันเนินยาวๆๆอ่าถามเ ลยละกาน
1.คือว่า ความร้อนODB ขึ้น103องศา ถือว่าความร้อนฮีตมัยอ่า แต่เกร์ความร้อนขึ้นครึ่งเดียว (เชื่อไหนดีอ่า)
2.หม้อน้ำใช้ของ 3 s ดีมั้ยอ่า หรือต้องเปลี่ยน:( :confused:
ผู้รู้ช่วยตอบที

103 ยังไม่ถือว่า ฮีตครับ แค่เกือบพัง

ตอนนี้ใช้ระบบระบายความร้อนแบบไหนล่ะครับ
ไฟฟ้า ไฮโดรลิค หรือ ฟรีปั้ม

แล้วหม้อน้ำเป็นแบบไหนครับ

3s มันเป็นของเครื่อง 4 สูบคครับ ถ้าตามความเห็นผมไม่น่าจะพอ
แต่ผมก็เห็นใส่กันอยู่บ้าง ใช้งานปรกติ ไม่มีปัญหาครับ

ระบายความร้อนผมใช้พัดลมไฟฟ้า 2ตัว คับ
แล้วผมควรดูความร้อนตัวไหนเปงหลักอ่าคับ ระหว่าง obd กับเกร์ความร้อนที่หน้าปัดอ่าคับ
:confused:

พื้นฐานเครื่อง 3S มันแค่ 4 เม็ด และมีแค่ 2000cc. เองนิครับ :)

ผมว่ายังไม่ร้อนนะครับ เพราะ OBD มันอ่านค่าจาก sensor จากท่อน้ำออกมันมีสองตัวไม่รู้ว่าอ่านจากตัวไหน
ของผมเทียบไมล์ความร้อนซึ่งเป็นของ Toyota New SURF เบนซิน ดูเทียบกับ OBD1
103 องศายังเข็มความร้อนอยู่ระดับปกติครับ 105 เข็มความร้อนอยู่กึ่งกลางพอดี 107 จะเกินครึ่งไปหน่อย
คิดว่าถ้าแตะ ๆ ขีดแดงด้านบนน่าจะ 110-115 องศา ของผมเคยร้อนมากสุด 107 องศาตอนขึ้นดอยอ่างขางเลยจอด
ให้ความร้อนลงก่อนแล้วค่อยขึ้นต่อ เครื่อง 2J BO หม้อน้ำ J BO พร้อมพัดลมไฮโดรลิคครับ :)

OBD1 อ่านค่าความร้อนจาก ECU ซึ่ง ECU ก็ได้มาจาก เทอร์มิสเตอร์ของสวิทช์วัดอุณหภูมิน้ำในเครื่องยนต์ค รับ ซึ่งโดยปกติแล้ว เกจ์หน้าปัดรถ ก็น่าจะรับสัญญาณจาก สวิทช์ตัวนี้เช่นกันครับ ยกเว้นแต่ว่า ช่างจะนำสัญญาณจากสวิทช์วัดอุณหภูมิจากจุดอื่นมาต่อใ ส่ให้ครับ ส่วนถ้าเป็นเกจ์วัดอุณหภูมิที่ต่อแยกออกมานั้น ส่วนใหญ่จะติดตั้งสวิทช์ ที่ท่อน้ำบน ครับ

ถ้าถามว่า จะเชื่ออันไหนดี สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อ OBD1 ครับ เพราะว่าให้ค่าความร้อนที่ละเอียดกว่า และเป็นค่าความร้อนที่ ECU นำไปใช้งานครับ

ส่วนในกระทู้ที่ถามว่า ขึ้นทางลาดนานๆ แล้วความร้อนขึ้นถึง 103 องศาเซลเซียสนั้น จะเป็นอันตรายมั้ย ต้องขอตอบว่า ยังครับ แต่ก็จวนเจียน (110 องศาเซลเซียสขึ้นไป จึงเข้าเกณฑ์อันตราย)

ทำไมจึงร้อนจัด?
เพราะว่าอะไรจึงว่า จวนเจียน?
และมีวิธีแก้ไขอย่างไร?

การที่เราขึ้นเนินทางลาดนานๆ เป็นการใช้กำลังเครื่องมาก เพราะว่าเครื่องกำลังหนีแรงดึงดูดของโลก ยิ่งน้ำหนักรถ สัมภาระและผู้โดยสาร มากเท่าไหร่ เครื่องยนต์ยิ่งใช้แรงหนีแรงดึงดูดมากเท่านั้น จึงเกิดความร้อนจากกำลังที่สูญเสียไปส่วนหนึ่ง การหนีแรงดึงดูดของโลก เมื่อต้องใช้แรงเยอะ ก็จะผกผันกับความเร็ว (ชันมาก - ออกแรงเยอะ - วิ่งช้า) จึงทำให้่แรงลมที่ช่วยระบายความร้อนของหม้อน้ำระบายค วามร้อน จึงได้จากพัดลมหม้อน้ำเสียส่วนใหญ่ ทำให้น้ำในหม้อน้ำระบายความร้อนได้ช้าลง จึงเป็นแรงบวกที่จะเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องยนต์ไปด้ว ย ประกอบกับ รถที่ขึ้นทางลาดนานๆ น้ำมันเครื่องที่ก้นแคร้ง ถูกระบายความร้อนไม่ทัน เพราะว่า น้ำมันเครื่องเอียงไปด้านเดียวตลอด (น้ำมันเครื่องนอกจากช่วยหล่อลื่นแล้วยังเป็นตัวช่วย ระบายความร้อนของเครื่องด้วย) นี่คือที่มาของเครื่องร้อนจัด

แล้วเครื่องร้อน ถึง 103 องศาเซลเซียส ทำไมผมถึงว่า จวนเจียนเข้าเกณฑ์อันตราย (ยังห่างอีกตั้งเท่ากับหรือมากกว่า 7 องศา) ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ฝาปิดหม้อน้ำ โดยปกติส่วนใหญ่รับแรงดันอยู่ที่ 0.9 บาร์ ซึ่งอุณหภูมิของน้ำขนาดนี้ สปริงวาล์วน่าจะเปิดแล้วครับ มันจะโบล์วออกไปที่ถังพักน้ำ เพื่อลดแรงดัน การที่น้ำโบล์วออกไปนั้น จะทำให้ปริมาณน้ำในเครื่องและหม้อพักน้ำลดลง ถ้าเป็นเช่นนี้นานๆ อุณหภูมิเครื่องยนต์ จะร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว (สาเหตุจากเครื่องยนต์ออกแรงขึ้นทางลาดจึงสะสมความร้ อน ดังนั้นที่คิดว่า ห่างตั้ง 7 องศากว่าๆนั้น อาจจะขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึงได้ครับ) นี่คือที่มาของการบอกว่า จวนเจียน

งั้นเราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร? ถ้าทุกๆท่านสังเกตุให้ดีๆ ทุกๆที่ ที่เป็นทางลาดชันยาวๆ จะมีข้างทางให้เป็นจุดพักรถเสมอ ไม่ใช่พักสำหรับคนรถนะครับ ไม่ใช่ที่สำหรับพักการวิงเวียนออกมาอาเจียนข้างนอกคร ับ แต่เป็นที่พักเครื่องพักรถจริงๆ การพักเครื่องนั้น ห้ามดับเครื่องทันทีนะครับ ให้จอดในที่ราบชิดขอบทางให้มากที่สุด แล้วปล่อยให้เครื่องเดินเบาซักพัก จนเห็นว่า ความร้อนเครื่องลดลงมาในเกณฑ์ปลอดภัยแล้ว ค่อยดับเครื่องครับ ถ้าทุกๆท่านทำเช่นนี้แล้ว ก็สามารถนำรถไปไหนๆก็ได้ทั่วประเทศครับ