สมาชิกท่านใดมีวิธีปิดท่อน้ำหลังเครื่องให้แน่นสนิทไ ด้บ้างครับ
วันนี้ผมขับรถไปธุระที่ รังสิต วิ่งบนโทลเวย์ 160 เพลินๆ อยู่ๆมีสัญญาณเสียง ปี๊ปๆๆๆๆ... เตือน จึงมองไปที่หน้าปัดรถ เห็นไฟแดง รูปความร้อนเครื่องยนต์ ขึ้น จึงมองไปที่เกจ์ความร้อน ขึ้น 97 องศา จึงรู้ได้ทันทีว่า น้ำในหม้อน้ำแห้ง (ผมใช้หม้อพักน้ำของรถยุโรปที่มีลูกลอยในหม้อพัก พอน้ำลด จะส่งสัญญาณไฟมาที่หน้าปัดรถ และผมก็ต่อพ่วงเข้าสัญญาณเสียงเตือนให้ดังเวลาน ้ำลด วันนี้ เจ้าลูกลอยตัวนี้ ช่วยผมให้รู้ตัวก่อนที่ชาร์ปจะละลาย หรือ ฝาสูบโก่งครับ) ผมจึงชะลอความเร็วลง ขณะชะลอก็ดูเกจ์ความร้อนไปด้วย มันเริ่มขึ้น จาก 97 เป็น 100 อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขึ้น เป็น 110 เป็น 116 ... ผมรู้ทันทีว่า แย่แล้ว ท่อแตกแน่ แต่อยู่บนโทลเวย์ ไม่ควรจอดรถ เพราะว่าจอด ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แน่ มองไปข้างหน้าเป็นทางลง ปทุมธานี จึงปิดแอร์ เปิดไฟฉุกเฉิน ค่อยๆคลานลงทางลง หาที่จอดที่ไม่เกะกะชาวบ้าน แล้วจึงดับเครื่อง ควันลอยออกมาจากขอบฝากระโปรงรถ (ยังคิดในใจเลยว่า สงสัย คงต้องได้รบกวนคุณแจ๊ค ที่อยู่ตลาดไทแน่เลย :))
พอเปิดฝากระโปรงรถ... โอ้.... จะเป็นลม.... เครื่องผมเลอะเคลอะไปด้วย น้ำยาหล่อเย็น เต็มทั่วเครื่องยนต์และฝากระโปรงรถไปหมด (เวลานั้น ไม่ค่อยตกใจหรอกครับ แต่อารมย์นั้น เสียดาย น้ำยาหล่อเย็นที่แสนจะแพง ที่เพิ่งเติมมา 55555) มองไปที่เครื่องยนต์ ก็เห็นไอน้ำร้อนพุ่งขึ้นมาจากท่อน้ำหลังเครื่อง จึงรู้ทันทีว่า ลูกยางขาโต๊ะ (ลูกยางปิดท่อ) หลุดกระเด็นหายไป สิ่งแรกที่ทำคือ เปิดฝาหม้อพักน้ำ ค่อยๆเติมน้ำเข้าไป (พอดีในรถมีน้ำดื่มเหลือเยอะ) รู้ทั้งรู้ว่า เติมเข้าไป อย่างไรก็คงพุ่งออกมาทางท่อน้ำหลังเครื่องหมด แต่ก็ต้องเติมครับ เพื่อเป็นการระบายความร้อนครับ เติมหมดไป 6 ลิตรอย่างรวดเร็ว เติมไปเท่าไหร่ ก็ออกมาเท่านั้นครับ จึงไปขอน้ำข้างๆทาง มาค่อยๆเติมลงไปอีก คิดว่า ต้องการระบายความร้อนให้เย็นลงซักหน่อย แล้วจะเดินไปที่วินมอเตอร์ไซค์ จ้างเขาให้ไปซื้อลูกยางขาโต๊ะ กับ เข็มขัดขัดท่อ มาใส่กลับเข้าที่เดิมครับ พอดีมีรถคันหนึ่งมาจอดข้างหน้า คนขับเดินลงมาถามว่า รถเป็นอะไร ผมก็บอกสาเหตุไปครับ เขาบอกว่า เขาเป็นช่างเครื่องยนต์ ตอนนั้นในใจผมตอนนั้น ยังคิดว่า ช่างเครื่องก็อย่างนั้นแหละ ใครจะมีติดลูกยางขาโต๊ะทิ้งไว้ในรถล่ะ แต่ที่ไหนได้ เขากลับบอกว่า เขาลองรื้อหาในรถดูก่อน บางทีอาจจะมี สรุปก็มีจริงๆครับ มีเข็มขัดรัดด้วย งั้นก็สบายผมเลยสิ ช่างคนนั้นบอกว่า การที่เอาลูกยางขาโต๊ะปิดและใช้เข็มขัดรัดท่อไว ้ แค่นี้เอาไม่อยู่หรอกครับ (หมายความว่า ใช้ชั่วคราวได้ แต่ใช้งานจริงรับแรงดันไม่ได้) ถ้าผมไม่คิดว่าจะติดตั้งแก๊ส กลับไปให้หนีบท่อให้แบนแล้วเชื่อมปิดไปเลยจะดีก ว่า หรือ ไม่ก็ใช้วิธีเหลาไม้ยาวซักคืบ ตอกอุดลงไปเลย แล้วเอาลูกยางขาโต๊ะปิดอีกที แต่วิธีการที่ช่างบอกผมมานั้น ผมไม่อยากทำครับ เพราะคิดว่า เป้นการทำที่ตัดหนทางถอยของตัวเอง ถ้าอีกหน่อยผมจะใช้งานท่อนี้เข้าจริงๆขึ้นมา แล้วผมจะแก้ไขอย่างไรครับ หลังจากปิดท่ิอเรียบร้อย ช่างก็บอกว่า รถผมมีสิทธิฝาสูบโก่งได้ เพราะดูจาก น้ำที่ใส่ลงไป มันดันออกมาทางหม้อพักน้ำ ผมก็คิดในใจว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะว่า ขณะนั้น น้ำในเครื่องยนต์แทบไม่มี และเครื่องยนต์ยังร้อนจัดอยู่ จึงมีโอกาสจะเกิดแรงดันความร้อน พอเราเติมน้ำลงไป แรงดันความร้อนภายในเครื่อง จะต้องดันออกมา (ทีแรกที่ไม่ดัน เพราะว่า มีท่อหลังเครื่องเปิดอยู่ มันจึงดันไปที่ท่อหลังเครื่อง พอปิดท่อหลังเครื่อง มันก็จะต้องดันออกมาทางหม้อพักน้ำอยู่แล้ว) ช่างก็ยืนยีนว่าฝาสูบโก่งแน่ ให้เบอร์มือถือผมไว้ บอกว่า มีปัญหากลางทางให้โทรบอกเขา เขาจะมาช่วยลากไปจัดการให้ ผมก็คิดในใจว่า ไม่น่าเป็นอะไรหรอก และถ้าโก่งจริง ผมก็คงทู่ซี้ขับกลับไปบางขุนเทียนอย่างนี้แหละ กะว่า ถ้าโก่งก็จะเปิดฝาสูบวัดเอง ไสฝาสูบเองแหละ จากนั้น ขับไปได้สัก 500 เมตร เสียงสัญญาณว่า น้ำในหม้อพักน้ำไม่มี ก็ดังขึ้นอีก คราวนี้ผมรู้แล้วว่า วาล์วน้ำเปิดให้น้ำเย็นเข้าเครื่องทำให้หม้อพักน้ำลด ลง จึงจอดข้างทาง แล้ว เติมน้ำกลับเข้าไปจนเต็ม แล้วจึงขับไปทำธุระจนเสร็จ แล้วขับกลับบ้านครับ โดยเลี้ยงรอบเครื่องเอาไว้ไม่ให้เกิน 2500 รอบ เพราะกลัวว่า ลูกยางขาโต๊ะที่ปิดท่อเอาไว้จะหลุดอีก (ที่กลัวเช่นนั้น เพราะว่า ตอนที่ช่างใส่ปิดให้นั้น เป็นตอนที่เครื่องร้อนจัด โอกาสที่ช่างจะขันเข็มขัดได้แน่นนั้นค่อนข้างยา ก และถ้าขับด้วยรอบเครื่องจัดๆ แรงดันจากความร้อน และแรงดันจากใบพัดปั๊มน้ำที่หมุนต่มรอบเครื่องจะช่วย ส่งให้ เกิดแรงดันสูงจนลูกยางขาโต๊ดกระเด็นหลุดหายไปอี ก กลัวเดือดร้อนอีกหนครับ) ********************************************* ที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนั้น เป็นประสพการณ์จริงที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ เล่าเพื่อเป็นความรู้ประสพการณ์เสริมให้แก่สมาชิกทุก ๆท่านครับ คราวนี้ ถึงประเด็นคำถามครับ ผมอยากทราบว่า ใครมีวิธีเด็ดๆ ที่จะทำการปิดท่อน้ำหลังเครื่องได้สนิทดี โดยที่ใช้เครื่องยนต์ได้อย่างสบายใจ (มั่นใจว่าไม่มีหลุดแน่) และต่อไปถ้าต้องการติดตั้งแก๊ส ก็สามารถถอดออกมาใช้งานได้บ้างครับ? |
ลุงมูนครับ ผมว่า ใช้วิธีเอาไม้อุด ไม่หลุดแน่นอนครับ แล้วถ้าจะเอาออก ก็เอา สะหว่าน ไชๆๆๆ ตรงไม้ ให้มันแหลก แล้ว ใช้น้ำดัน เศษไม้ พุ่งออกมาหมด อะครับ :) เพราะตอนวางเครื่องมาผมโดนไม้ตอกไว้แน่นเลยครับ ไปติดแก๊ส ที่อู่พี่เค ลูกน้องพี่เค เอาออกให้ครับไม่ยากเลยครับ แต่...ผมทำเองไม่ได้ อิอิ เสียเป๊ปซี่ไป2ถุง:emo_toon08: แม๋ๆ ถ้ารถลุงมูนเสียจริงๆละแย่เลย นี่ผมกลับมาอยู่ชลบุรีเป็นอาทิตย์แล้วครับ มาบ้านแฟน(เมีย) น่ะครับ :) เลื่อนมาเสียวันอังคารหรือวันพุธ นี่อยู่ตลาดไทนะครับ เพราะอยากเจอลุงมูน มากๆเลย อิอิ
|
อะโห......น้ามูนครับ เหมือนเอฟเฟคในหนังเลย ผมก็เคยมาแว้ว ตอนใช้เครื่อง GE ครับ
ผมขับๆอยู่ก็..... ปุ้งงงงงงงง ควันขึ้นจากหน้ารถเลยครับ(เวลาเกือบๆเที่ยงคืน อุอุ) ตอนนั้นแก้โดยเอาไม้ตอกอุดไว้ แล้วเติมน้ำ ค่อยๆขับกลับบ้าน **เพราะยางขาโต๊ะอุดท่อตัวละ 10บ.เท่านั้น ใครใช้แบบนี้อยู่ก็หมั่นคอยดูคอยเปลี่ยนนะครับ และอาการเตือนก่อนเกิดเหตุคือ ความร้อนขยับๆขึ้นๆลงๆมาเป็นเดือน แต่หาจุดไม่เจอครับ หลังจากนั้น ให้อู่บีบท่อแล้วเชื่อมตายไว้เลยครับ (เจโบผม ตอนนี้ก็ทำแบบนั้นครับ) แต่กับเครื่องตัวนั้น ผมก็ขับๆใช้มาได้อีกราวๆเดือนฝ่าๆ แล้วมีอาการ น้ำหาย+ร้อนครับ พอไปอู่เปิดฝาดู ทีแรกคิดว่าปะเก็นรั่ว แต่แล้วปรากฏว่าฝากร่อนไป น้ำเข้าลูกสูบได้ จมน้ำไป2ลูกเลี้ยงปลาได้เลยครับ(แต่ยังขับไปอู่ได้ JZเจ๋งจริงๆครับ55) **ถ้าน้ามูลมีเวลาก็เช็คส่วนนี้ไว้ก่อนเลยก็ดีครับ :) |
อ้างถึง:
อ้างถึง:
ส่วนเรื่อง เหลาไม้ตอกเข้าไปในท่อนั้น เป็นความคิดที่ดีครับ แต่ผมอยากให้เป็นวิธีที่หาหนทางอื่นไม่ได้แล้วก่อนคร ับ อ้างถึง:
ก่อนไปเขายังถามผมเลยว่า ตัวรถไปทำที่ไหนมา ทำได้สวยจัง วางเครื่องก็วางได้สวย 55555 ถ้าเขารู้ว่า ตัวถังรถ ผมตีขึ้นมาเอง เครื่องยนต์ผมก็วางเอง คงจะไม่กล้าออกความเห็นเรื่องฝาสูบโก่งแน่เลย 55555 |
อ้างถึง:
เรื่องเหลาไม้อุด หรือบีบท่อแล้วเชื่อมตายนั้น ผมคงจะยังไม่ทำ จนกว่า จะหาวิธีอื่นไม่ได้แล้วครับ สมาชิกท่านใด มีวิธีพิเศษๆ อื่นใด ช่วยมาแบ่งปันกันด้วยนะครับ |
ผมมีความคิดหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่า
คือ ตัดแผ่นเหล็กขนาดเท่าปากท่อ แล้วใช้ทองเหลืองแต้มเชื่อมปิดไว้เป็นจุดๆ จากนั้น ใช้ลูกยางขาโต๊ะสวมปิดอีกที แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อเอาไว้ เผื่อว่า อีกหน่อยถ้าจะใช้ท่อนี้ แต่เจียรหรือใช้ไฟเป่ารอยที่แต้มเชื่อมปิดไว้ออ ก ก็ใช้ได้แล้ว แบบนี้ ท่านสมาชิกคิดว่า จะอยู่แบบถาวรมั้ยครับ |
อ้างถึง:
|
ลูงมูนเกือบมีงานเข้าซะแล้ว ของผมตอนที่ยังไม่ติดแก็สช่างเค้าใช้น๊อตตัวผู้ขนาดท ี่สามารถสอดเข้าไปในรูของท่อยางได้พอดี แล้วใช้ซิลิโคน หรือกาวอะไรสักอย่างเนี่ยแหละครับอัดเข้าไปอีกรอบ
แล้วก็ใช้เหล็กรัดๆอีกรอบนึงผมใช้มาหลายเดือนเหมือนก ัน ก่อนจะติดแก็สอ่ะครับ ลองพิจารณาดูครับว่าใช้ได้เปล่า เส้นนี้ผมก็ใช้บ่อยเหมือนกันครับโทลเวย์ขาลงปทุม-นครนายก :) |
น้ามูนครับ หรือจะเลือกวิธี ต่อ-วน ท้ายเครื่องกับฝาสูบ โดยใช้ท่อแป๊บทองแดงหรือมิเนียม(แบบท่อเดินแอร์) มาดัดให้เข้าทางอ่ะครับ แต่จุดเชื่อมต่อก็อาจยังต้องใช้ท่อยาง+เข็มขัดรัดนะค รับ
|
อ้างถึง:
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
อ้างถึง:
อ้างถึง:
พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะต้องไม่ลนครับ ต้องคิดลำดับเหตุการณื และต้องเดาให้ออกว่า เกิดอะไรขึ้น อย่างเหตุการณ์ด้านบนนั้น ผมเดารู้ว่า ท่อน้ำแตกแน่ ขณะนั้น ขับอยู่ 160 กม./ชม. บนทางโทลเวย์
เหมือนกับวันนี้เช่นกันที่บนทางด่วน ผมเห็นรถปิคอัพคันหนึ่ง ยางล้อหน้าระเบิด (ย้ำว่ายางเรเดียลล้อหน้าขวาระเบิด ครับ) ถ้าคนขับคนนั้นประหม่า ลน ตกใจ แล้วเหยียบเบรคกระทันหัน บอกได้เลยครับว่า รถคว่ำแน่ นอกจากอาจจะทำให้ตนเองบางเจ็บหรือถึงตาย ก็อาจจะทำให้ผู้โดยสารในรถเจ็บหรือตายได้ครับ หรือ อาจจะทำให้รถที่อยู่ใกล้เคียงได้รับอันตรายไปด้วยครั บ แต่เนื่องจากคนขับไม่ลน ตกใจ ใช้กำลังแขนขืนพวงมาลัยเอาไว้ ค่อยๆชะลอรถ ดดยแตะเบรคเบาๆแล้วปล่อย วนแตะเบาๆแล้วปล่อย แบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถนำรถจอดข้างทางได้ครับ ยกตัวอย่างอีกกรณีหนึ่ง เรื่องความรู้จากประสพการณ์ เช่น เกิดปัญหาอยู่กลางป่า หรือกลางทาง เฟืองท้ายพัง ขับต่อไปไม่ได้ จำเป้นต้องเอาเฟืองท้ายมาเปลี่ยน การเปลี่ยนไม่ยากเท่าไหร่ ถ้ามีเครื่องมือ แต่บังเอิญเปลี่ยนแล้ว ลืมเอาเครื่องปั๊มน้ำมันเฟืองท้ายมา คราวนี้จะทำอย่างไร เฟืองท้ายอยู่ต่ำมาก น้ำมันเฟืองท้ายก็หนืดๆ ยกเทก็ไม่ได้ เพราะอยู่ต่ำมาก น้ำมันแค่ลิตร 2 ลิตร เชื่อมั้ยว่า ถ้าคนไม่มีประสพการณ์จะจนปัญญาที่จะเทน้ำมันเฟืองท้า ยเข้าไปได้ครับ วิธีง่ายๆสำหรับคนมีประสพการณ์นะครับ คือ หาถุงพลาสติคมา 1 ใบ เทน้ำมันเฟืองท้ายตามปริมาณที่ต้องการลงในถุงครับ จากนั้นยัดปากถุงเข้าไปในรูใส่น้ำมันเฟืองท้าย แล้วค่อยๆบีบถุง รีดน้ำมันเข้าไปในเฟืองท้ายให้หมด จากนั้นก็ขันน๊อตปิดรู แล้วก็ขับต่อไปได้ครับ ดังนั้น ผมจังบอกว่า เราต้องเก็บเกี่ยวความรู้ และประสพการณ์เอาไว้เยอะๆครับ มีสมาธิ ไม่ประหม่า ไม่ลน แล้วทุกอย่างก็จะจบด้วยดีครับผม |
เชื่อมเกลียวใส่เลยดีไหมครับ พอจะใช้ก็หมุนออก ไม่ใช้ก็ใส่ปลั๊กอุด ทำเป็นเกลียวในหรือเกลียวนอกก็ได้ครับ แล้วใส่ ปลั๊กอุดทองเหลืองของแอร์ แหล่มแน่นอนครับ :emo_toon10:
|
ลุงครับ กรุณาต่อวนเถอะครับ อย่าไปทำวิธีอื่นเลย สงสารเครื่องมันครับ ผมว่าทุกวันนี้สูบ 5 กะสูบ 6 มันคงอยากจะลาตายแล้วล่ะครับลุง :emo_toon05:
|
อ้างถึง:
ผมทำแบบที่คุณว่าอ่ะครับ 2 ปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นรั่วซึมหรือมีปันหาเยยครับ :) |
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
ขอบคุณครับ ถ้าทำได้ก็อยากจะทำครับ เพียงแต่ขนาดความหนาของท่อเหล็กนั้น ไม่อำนวยให้ทำการต๊าปเกลียวครับ :) อ้างถึง:
อ้างถึง:
อ้างถึง:
พอดีได้ไอเดียจากคุณเดช ใน Reply บนๆ ให้ใช้ท่อแป๊ป ดัดเข้ารูป แล้วใช้ท่อยางประกบยึด รัดด้วยเข็มขัด น่าจะเป็นไอเดียที่ดีครับ อ้างถึง:
|
ใช้ไม้ตอกอุดไว้ชัวร์ที่สุดครับ เวลาเอาออกก็ไม่ยากหรอกครับไม่เป็นรอยดัดแปลงอะไรเลย
ดีกว่าต้องมาขับไปเสียวไปครับ |
3 ไฟล์แนบ
อ้างถึง:
สรุปจบแล้วครับ จากเมื่อเช้า หลังจากที่ผมตอบคุณเค ไปแล้ว ก็เดินเข้าไปใน สโตร์ หาอุปกรณ์ทันทีครับ ได้สายถักแสตนเลส ขนาดความยาวฟุตเศษๆมาหนึ่งเส้น กะคร่าวๆดูแล้วสามารถ มั่นใจว่าใส่ได้แน่ๆ จึงจัดการถอดลูกยางขาโต๊ะออกมาครับ (ดูรูปลูกยางขาโต๊ะครับ) จากนั้น ก็จัดการใส่สายถักเข้าไปแทนครับ ยากอยู่เหมือนกันครับ กว่าจะข่มขืนสวมเข้าไปได้ เพราะว่า มีเนื้อที่แคบ จำกัดแรงส่งเอามากๆครับ กว่าจะใส่เสร็จ ทำเอาหมดแรงครับ (ดังรูปครับ) ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่ช่วยออกความคิดเห็น ช่วยจุดประกายความคิด และมาเป็นกำลังใจให้ผมนะครับ คงต้องลองใช้ดูอีกสักพัก จึงจะมั่นใจว่า สายถักแสตนเลส รับแรงดันไหวมั้ย แต่ในความคิดผมแล้ว ผมคิดว่า แรงดันจะต้องลดลงเพราะว่า เราต่อท่อน้ำวน ทำให้แรงดันหันเหไปตามท่อน้ำวนครับ อายจัง ภาพห้องเครื่อง เลอะเทอะไปหมดเลยครับ เพราะว่า เมื่อวานน้ำดันพุ่งออกมาเลอะห้องเครื่องไปหมดเล ยครับ เช้ามาสนิมเลยเกาะเป็นหย่อมๆครับ |
สวัสดีครับลุงมูน
รถผมก็เครื่องร้อนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แล้วก็มีน้ำพุ่งใต้เครื่อง ผมเดาว่าน่าจะเป็นจุกยางขาโต๊ะอุดท่อเดียวกับที่ลุงม ูนบอกแน่เลย กระทู้ผมครับ http://www.clubjz.net/showthread.php?t=30265 พอดีไม่ได้อ่านกระทู้ของลุงมูนก่อน ไม่งั้นผมจะได้ไม่ต้องตั้งกระทู้ใหม่ อาศัยมาตอบในกระทู้ลุงมูนเลย เพราะอาการเดียวกันเลยครับ แต่ของผมดีที่มันยังไม่หลุดออกมาเพราะไม่ได้ขับแรงคร ับ เพียงแต่ว่า รถติด เครื่องร้อน ห้องเครื่องมันแคบด้วย เลยระบายอากาศไม่ทัน ผมว่าหน้าร้อนนี้คงมีปัญหานี้เกิดกับอีกหลายๆ คนแน่เลย ลุงมูน อยากถามลุงมูนว่า ต่อท่อแบบลุงมูน กับไม่ต่อ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันยังไงครับ เพราะของผมยังไม่ได้ต่อเลย แล้วคงต่อยากด้วย ห้องเครื่องแคบมากๆ |
อะโห......ใช้เป็นสายถัก สวยเลยครับน้ามูน
แต่หลังจากนี้ ขับๆไป น้ามูนหมั่นมองเกจ์วัดความร้อน หรือน้ำหายอ่ะครับ คือมันไม่แน่ กลัวจะเหมือนของผมอ่ะครับ / โชคดีนะครับ อ้างถึง:
|
มาตอบช้าไป....
ต่อวนเป็นวิธีที่ถูกแล้วครับ ของผมเจโบก็ต่อวนอยู่ครับ หายห่วง... |
อ้างถึง:
ถ้าอุดท่อไว้ แบบเอาลูกยางขาโต๊ะปิดไว้นั้น ข้อดีคือ ทำง่าย จบงานเร็วครับ ข้อเสียคือ
|
อ้างถึง:
|
ผมสงสัย จังครับว่าท่อวนมันช่วยระบายจริงเหรอครับ เพราะเวลาผมซื้อเครื่องมา(ยกมาทั้งหัว) มันจะมีวาล์วน้ำคอยเปิดปิดไปที่ฮีตเตอร์ภายใน เวลาไม่ได้ใช้มันก็จะปิดแล้วลักษณะมันเป็น 2 ทางด้วยนะครับไม่ใช่ 3 ทางอย่างที่หลายๆคนบอก(เวลาไม่เปิดฮีตเตอร์มันก็จะปิ ดเอาไว้ ก็เท่ากับอุดอ่ะครับ) ไม่เหมือนพวกตระกูลนิสสัน ที่ทั้งคอมแอร์และฮีตเตอร์ทำงานตลอดแล้วใช้ ประตูลมตู้แอร์ด้านในแบ่งอุณภูมิเอาไงครับ(คอมแอร์ทำ งานพร้อมฮีทเตอร์ตลอดเวลา) เอาไว้ว่างๆจะถ่ายรูปมาให้ดูครับผมเลยสงสัย ว่าต่อกับไม่ต่อแบบไหนจะดีกว่ากันครับ เพื่อนๆสมาชิกมีความเห็นยังไงบ้างครับเพราะตอนนี้ผมก ็อุดอยู่ครับ เคยต่อวนแล้วแตกบ่อยอ่ะครับ แล้วมันก็แคบมากๆๆ เลยครับตรงนั้น อ่ะ:emo_toon10:
|
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
อ้างถึง:
เดิมทีแล้ว ถ้าเครื่องมาจากเมืองนอก ท่อน้ำหลังเครื่องด้านบน จะต่อไปทางท่อน้ำเข้าฮีทเตอร์ ครับ ซึ่งถ้ามีวาล์วน้ำก็จะมีตรงจุดนี้ครับ ซึ่งจุดนี้เองครับ สามารถต่อแบบสามทางเป็นบายพาส ไปท่อน้ำหลังเครื่องด้านล่างได้ครับ ซึ่งถ้าเป็นฮีทเตอร์ บางยี่ห้อ จะมีวาล์วน้ำอยู่ในห้องโดยสาร และมีสามทางเป็นบายพาส ต่อไปทางออกของฮีทเตอร์ มาเข้าท่อน้ำหลังเครื่องท่อล่างครับ ถ้าเป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่า เราจะยกเครื่องออกมา เราก็จะไม่เห็นท่อสามทางที่เป็นบายพาส มาที่ท่อน้ำล่างครับ เห็นแต่ท่อน้ำโด่ๆ อยู่ 2 ท่อครับ (จริงๆแล้ว มีสามทางเป็นบายพาส และวาล์วน้ำ อยู่ที่ฮีทเตอร์ในห้องโดยสารครับ) สรุปก็คือว่า ท่อน้ำนี้ ก็จะวนอยู่ดีครับ ถ้าความร้อนยังไม่ถึง ก็จะกักไว้จนถึง โดยวาล์วน้ำ และวาล์น้ำ ก็จะเปิดปิดตามอุณหภูมิที่ต้องการ แล้ววนผ่านเข้า ฮีทเตอร์ จากนั้นก็ออกมาทางท่อน้ำล่างหลังเครื่องครับ |
1 ไฟล์แนบ
เอาภาพมาให้ดูครับ น่าจะใช่วาล์วน้ำสำหรับฮีตเตอร์ครับ ผมได้ติดมากับเครื่องเจโบครับ บางคนอาจไม่มีมาเพราะเซียงกงอาจถอดออกไปครับ ดูจากภาพแล้วใช้แวคคั่มในการเปิดปิดวาล์ว ว่าง ๆ ผมก็หยิบมาดูเล่นหมุนไปหมุนมาแล้วคิดว่า จะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรดี อิอิ :)
|
อ้างถึง:
โดยคิดว่าจะทำแบบ หัวเกลียวทั้งท่อบนและท่อล่างครับ จะต่อท่อทัให้น้ำวนหรือจะปิดท่อ สามารถทำได้อย่างสะดวกครับผม |
สวัสดีครับลูุงมูล เสียใจด้วยครับที่รถมีปัญหาครับ เเต่ก็ดีใจที่คนไทยอย่างเราที่มีน้ำใจช่วยเหลือครับ ผมไม่มีประสบการณ์เรื่องน้ำรั่วเเต่ผมขอเเนะนำเกี่ยว กับท่อยางที่ใช้ต่อวนหลังเ ครื่อง สำหรับคนที่กำลังคิดที่จะเปลี่ยนจากการอุดมาเป็นระบบ ท่อน้ำวนหลังเครื่อง ผมเเนะนำท่อน้ำของยี่ห้อบริสโตนครับ เพราะเป็นท่อยางเกรดดีเเละทนทั้งความร้อนเเละเเรงดัน เป็นอย่างดีครับ อาจจะหาซื้อยางเเละราคาสูงเเต่ผมคิดว่าการใช้งานนั้น คุ้มค้าครับ....:) :)
|
อ้างถึง:
ท่อยางยี่ห้อบริทสโตนนี้ ผมเคยใช้เป็นท่อแรงดันสูงและแรงดันต่ำของท่อแอร์ครับ (ในรถตอนนี้ก็ใช้อยู่ครับ) ขอยืนยันด้วยอีกครับว่า ใช้ดีจริงครับ เพียงแต่ว่า มันจะมีรุ่นงอโค้งเข้ารูปหรือครับ? เพราะการที่จะต่อเป็นท่อยางเพื่อเป็นท่อน้ำวนนั้น ต้วท่อยางจะต้องยาวประมาณ 1 ฟุตเศษๆ โดยที่ปลายทั้ง 2 ด้านงอโค้ง เป็นรูปตัว U โดยท้องตัว U จะยาวประมาณ 1 ฟุต ครับ |
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
|
ของผม เจโบ ใช้วิธีเชื่อมปิดตายเลย
เพราะว่าท่อน้ำหลังเครื่องของผม มันอยู่ลึกมาก กลืนเข้าไปกะตัวถังรถเลย เพราะหน้ารถมันสั้น เลยได้ทุบเข้าไปลึกหน่อย เลยเชื่อมอุดตั้งแต่เครื่องอยู่ข้างนอก ตัดปัญหาระยะยาวไปเลย รู้ว่าถ้าจะเซอร์วิส คงลำบาก ต้องยกเครื่องลงมาเซอวิสข้างนอกแน่ๆ ส่วนน้ำที่ใช้เลี้ยงหม้อต้ม ผมใช้จุดอื่นแทน เอาจากจุดใดก็ได้ที่มีน้ำร้อนวิ่งวนครับ ผมเอาท่อน้ำที่อยู่แถวๆใต้ปากลิ้นเร่ง โดยขยายท่อจากท่อประมาณ 2 หุน ให้เป็น 5 หุน เพื่อสวมเข้ากะท่อน้ำเลี้ยงหม้อต้มได้พอดีครับ ใจจริงก็อยากต่อวนครับ แต่มันติดที่การเซอวิสในอนาคตนี่แหละ ต้องดูความสะดวกแก่การเซอร์วิสด้วยว่าเราจะเลืกใช้วิ ธีไหน |
ผม 1jbovv มีไหมครับอยู่ตรงไหนเหรอ ช่วยลงรูปให้ดูหน่อยครับ ช่วงนี้น้ำหายยังหาไม่เจอเลยเซ็งๆๆๆ
|
กระทู้ดีครับ
ได้ความรู้ แต่ตอนนี้ ผมนึกไม่ออกว่า พูดกันถึงตรงไหนของเครื่องยนต์ ขับอย่างเดียว เรื่องเครื่องยนต์ไม่พยายามศึกษาเลยอ่ะ ผม ยังดี ที่เปิดดูน้ำ เติมน้ำมันต่างๆ ถอดเปลี่ยนยางเป็น ผมว่า ต่อวน น่าจะดี ใช้สายสวยๆ ผมเน้นความสวยงาม ส่วนการซ่อมบำรุง ช่างรับไว้เองแล้วกันนะครับ :emo_toon24: |
อ้างถึง:
อ้างถึง:
อ้างถึง:
ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับผมในกระทู้นี้เป็นต้นครับ ตอบคุณ nong99 ครับ ว่ารถที่ผลิตใช้งานมาจากเมืองนอก (ญี่ปุ่น) จะมีท่อน้ำหลังเครื่องอยู่ทุกคันครับ ไม่ว่า จะเป็น JZ หรือ ยี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ไม่ว่าจะมีเทอร์โบ หรือไม่มีเทอร์โบครับ เพราะว่าท่อน้ำหลังเครื่องนี้ มีไว้ต่อเข้าไปในห้องโดยสาร เพื่อนำน้ำร้อนนี้ เข้าไปช่วยทำให้ห้องโดยสารร้อนขึ้นครับ ("ฮีทเตอร์" โดยใช้น้ำร้อนจากเครื่องยนต์เป็นตัวทำความร้อน) โดยต่อวนกลับออกมาอีกท่อน้ำหนึ่งเพื่อวนเข้าเครื่องย นต์ต่อไปครับ แต่เป็นเพราะว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน จนถึงร้อนที่สุด จึงไม่ได้ใช้ระบบ ฮีทเตอร์นี้ ทำให้เหลือท่อน้ำส่ง และท่อน้ำรับ เอาไว้ครับ ถ้าไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์ใด ก็ควรต่อท่อเข้าหากันเพื่อให้เกิดการวนของน้ำไปมา ทำให้ ส่วนปลายของเครื่องยนต์ คือ สูบที่ 6 ได้รับการระบายความร้อนโดยการวนของน้ำระบายความร้อนอ อกไปส่วนอื่นแล้วนำน้ำที่ร้อนน้อยกว่าเข้ามาแทนที่คร ับ แต้ถ้าเกิดมีปัญหา เช่น ไม่สามารถซ่อมบำรุงได้ในโอกาสต่อๆไปในภายภาคหน้า ดังเช่น Reply ของคุณปังปอนด์ (cpservice) ช่างจึงใช้วิธีอุดท่อน้ำทั้ง 2 ท่อนี้แบบถาวรไปเลยครับ หรือบางคนอาจจะใช้วิธีนำลูกยางขาโต๊ะมาปิดท่อเอาไว้ค รับ ดังเช่นรถของผม แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ ดังปัญหาที่รถผมเกิดขึ้นแล้วครับ ถ้าคุณได้อ่านกระทู้ตั้งแต่ต้น ไล่อ่านมาเรื่อยๆ คุณสามารถเห็นรูปที่ผมลงไว้ให้ดูครับ รูปที่ผมใส่ท่อสายถักแสตนเลสที่อยู่หลังเครื่องยนต์ นั่นแหละครับ คือท่อน้ำบนครับ ส่วนช่างที่จะติดตั้งแก๊ส ซึ่งต้องการ น้ำร้อนจากเครื่องยนต์ เอาไว้อุ่นแก๊ส (หม้อต้มแก๊ส) ก็จะใช้ประโยชน์จากท่อน้ำบนล่างที่ไม่ได้ใช้นี่แหละค รับ ต่อเข้าไปที่ หม้อต้มแก๊สครับ |
สวัสดีครับลุงมูน
ก่อนอื่นต้องขอบคุณลุงมูนอีกครั้งที่เข้ามาตอบกระทู้ เรื่องท่ออากาศที่หลุดจากกล่องกรองอากาศแทนคณเคเมื่อ ช่วงต้นเดือนตอนคุณเคไปน่านครับ คือรถผมเพิ่งวางเครื่องเสร็จเมื่อวันที่ 1 ก.พ. นี่เองครับที่อู่คุณเค ตอนนี้กำลังอยู่ในระยะทดสอบและตรวจสอบครับ อยากทราบว่าท่อน้ำวนใช่ท่อน้ำตามรูปที่แนบมาหรือเปล่ าครับ ขอบคุณครับ
http://upload.sodazaa.cc/viewer.php?...fzma2m0mnj.jpg |
อ้างถึง:
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:43 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels