|
ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำของเพื่อนๆทุกท่านครับ
ตอนนี้รถเสร็จเรียบร้อยครับ อาการที่กังวลทั้งหมดหายเกลี้ยง พร้อมกับเบี้ยในกระเป๋าไป 24,400.- รวมทั้งหมดที่ทำ -เปลี่ยนเฟืองท้าย 1 ลูก (7200.-) -เปลี่ยนเพลากลาง 1 เส้น ได้ของ Vigo มาตัดต่อ+ถ่วง (5,200+1,500) -เพิ่มออยล์เกียร์ (1,800) -ยกเกียร์เพื่อเปลี่ยนซีลหน้าหลัง + ค่าแรงทั้งหมด (8,700) ตัวเบาเลย แต่ก็หายครับ รถตอนนี้วิ่งดีขึ้นเยอะ ไม่สั่น ไม่มีเสียงแล้วครับ |
อ้างถึง:
ถูกต้องครับผม ตอนนี้ผมก็ได้ใช้เฟืองแบบธรรมดาอยู่ครับ เฟืองเต็ดที่มากะรถ มันกลับบ้านเก่าไปแล้วเหมือนกัน |
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
พอดีมาช้าไม่ทันให้ข้อมูลพี่ครับ แต่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นๆ เล่าสู่กันฟังครับเอาเท่าที่รู้และจำได้นะครับ เกี่ยวกับสปอร์ดไรเดอร์ -สปอร์ตไรเดอร์ ขับสองเพลาจะมีช่วงยาว เพลาจะเป็นสองท่อนตั้งแต่ออกจากโรงงานเหมือนวีโก้ -สปอร์ตไรเดอร์ ขับสี่เพลาจะเป็นท่อนเดียวช่วงสั้นกว่าเพราะมีชุดเฟื องขับหน้าต่อจากท้ายเกียร์มาอีกทำให้ความยาวเพลากลาง มาเฟืองท้ายสั้นลงจึงเป็นเพลาท่อนเดียวได้โดยรถจะไม่ อีอาการสั่น (ไม่มีตุ๊กตากลางเพลา) แต่ปลายเพลาที่ต่อจากท้ายเกียร์จะมีข้อต่อสั้นๆ ประมาณ1ฟุตเป็นช่วงปลายของเพลา ขนาดท่อนเหล็กนี้จะเล็กกว่าเพลาหลักทั้งท่อนเล็กน้อย เพื่อให้สอดอยู่ในเพลาหลัก ยืดหยุ่นได้นิดหน่อยซักเข้าออกเหมือนลูกสูบผมจำชื่อไ ม่ได้ว่าเขาเรียกชื่อเพลานี้ว่าอะไรมันมีชื่อของมันอ ยู่ -รถวางเครื่องส่วนมากต้องทำเพลากลางเป็นสองท่อน เพราะเป็นการยากที่จะทำให้องศาระหว่างท้ายเกียร์กับเ ฟืองท้ายตรงกัน หรือไม่ต่างกันมากนักจึงต้องเป็นสองท่อนแล้วจะไม่สั่ น ถ้าท่อนเดียวขับไม่เกิน100 ก็สั่นและกระพือแล้วครับ โดยเฉพาะช่วงถอนคันเร่ง บางคนอยากวางเครื่องสวยไม่ให้หน้าเครื่องเชิดขึ้นแต่ ไม่สามารถกดเครื่องให้ลงต่ำๆ ได้ เพราะเป็นแคร้งหน้า (กดต่ำไม่ได้เพราะติดคันชักบังคับเลี้ยวซ้ายขวา ถ้าไม่ปาดแคร้งต้องเป็นแคร้งกลางหรือได้เป็นแคร้งหลั งจะดีที่สุดแต่แพงกว่า) ทำให้ท้ายเกียร์อยู่สูงกว่าระดับของเฟืองท้าย เพลากลางก็เลยอยู่ในต่ำแหน่งฝืนๆ องศาไม่ได้ บางคันก็งัดจนน้ำมันเกียร์หยดออกจากซีนท้ายเกียร์ ครับ จึงต้องตัดเป็นสองท่อนใส่ตุ๊กตาเพลากลางจะช่วยรองรับ มุมองศาที่ว่านี้ได้เยอะทีเดียว -หลังจากนั้นก่อนที่จะใส่เพลาเข้าไป ก็ถ่วงเพลาให้ได้ศุนย์ก่อน เท่านี้ก็ไม่สั่น ไม่กระพือแล้วครับ -เฟืองท้ายมากะรถจะมีสลิปลิมิเต็ด น้ำมันเฟืองท้ายก็ต้องแบบเต็ดครับ และส่วนมากจะเป็นขนาดอัตราทด4.5ครับ (คือ9/41 คือ 41หารด้วย9 เท่ากับ 4.5 ตัว41คือจำนวนเขี้ยวเฟืองบายสี 9 คือ เดือยหมู) ถ้าเปลี่ยนเป็น 8/39 (4.875)จะได้แรงออกตัวดีขึ้นครับ ปีนเขาได้ดีขึ้น แต่ปลายอาจจะไม่ไหลไปถึง180 กม/ชม. หรือเอาแรงต้นจัดๆ ก็ 8/41(5.1)อันนี้ต้นโค-ตร-แรงเลยครับปีนเขาสบายแต่ปลายก็หมดเร็วกว่า และจะเหมาะกับรถที่มีเพลาสองท่อนเท่านั้น ถ้าเพลาท่อนเดียวจะกระพือตั้งแต่ตอนที่ยังเหยีบไม่ถึ ง80ครับ ที่สำคัญมีแรงบิดต้านสะท้อนจากเฟืองท้ายย้อนกลับมาที ่เกียร์ทำให้เกียร์พังเร็วด้วยครับ เดือยหมู /บายสี = อัตราทด 8 /43 =5.38 8 /41 =5.13 8 /39 =4.88 8 /37 =4.63 9 /43 =4.78 9 /41 =4.56 9 /39 =4.33 9 /37 =4.11 10 /43 =4.30 10 /41 =4.10 10 /39 =3.90 10 /37 =3.70 เป็นเรืองปกติเฟืองที่มีอัตราทดมากกว่าจะแรงกว่า แต่มีทริกอยู่อันหนึ่งคือ ถ้าอัตราทดใกล้เคียงกันมาก ๆ ถามว่าอันไหนแรงกว่า เช่น 8/37 คือ 4.63 9/43 คือ 4.78 แทนที่จะเป็น 4.7 แรงกว่ากลับไม่ใช่ ตัวที่แรงกว่าคือ 4.6 ทริกก็คือ เฟือง8 จะแรงดีกว่าเฟือง9 ในกรณีนี้ให้ดูเดือยหมูเป็นหลัก เช่น เดือยหมู10 รถจะออกตัวอืดมากๆ ถ้าเป็นรถขนาดใหญ่น้ำหนักมาก แต่วางเครื่อง1 เจ ถ้าต้องการเฟือง 10 ต้องวาง 2เจโบ หรือ UZ สำหรับรถขนาดใหญ่ -เสียง วื้อๆ หรือวี๊ดๆ ยาวๆ เป็นเสียงหอนของเฟืองท้าย เสียงจะยืดยาวๆ หรือสั้นขึ้นอยู่กับการเร่งและถอนคันเร่ง บางคันเสียงหอนเกิดจากสลิปเต็ด ไม่ได้เกิดจากเฟืองเดือยหมูขบกันเฟืองบายสีครับ -เสียง ดังประมาณ ตรรรรรรรับ ๆ เป็นช่วง ๆ จังหวะถี่ๆ เท่าๆกันเป็นเสียงของยาง โดยเฉพาะยางดอกใหญ่ จะมีเสียงมากกว่าดอกละเอียด -เสียงดังกึก กัก หรือ ก้อกแก้ก ช่วงออกตัวหรือเข้าเกียร์เป็นเสียงของช่วงฟรีหรือการ ให้ตัวของระยะฟันเฟืองของเฟืองบายสีกับเดือนหมูในเฟื องท้าย -เสียงดังแกร็ก ๆ เป็นจังหวะเท่า ๆ กัน เป็นเสียงของลูกปืนเพลาข้าง (ติดกับดุมล้อ จานเบรก) -เสียงดังจี๊ด ๆ เหมือนเหล็กสีกัน คือเสียงผ้าเบรคที่แข็งแล้ว ขูดจานเบรคจนเป็นร่อง ถึงขั้นต้องเจียจานเบรคใหม่ก่อนที่จะเปลี่ยนผ้าเบรค บางทีเราคงเคยได้ยินเสียงนี้จากแท็กซี่คันที่วิ่งตาม หลังมาครับ เพราะเขาใช้ผ้าเบรคราคาถูก มีอีกหลายเรื่องครับน่าเล่าสู่กันฟังแต่ตอนนี้ขอตัวก ลับบ้านก่อนครับมืดแล้ว |
1jgte เกียร์ะรรมดา ใช้เบอร์ไรกันคับ ยาง 31 นะคับ
|
อ้างถึง:
:confused: :confused: |
อ้างถึง:
ลองหาข้อมูลในกระทู้เก่า หน้าเทคนิคดูนะครับ ผมเคยเห็น มีสูตรคำนวณด้วย รวมทั้งสูตรคำนวน วงรอบ-รัศมีของยาง และเกี่ยวกับแรงบิดของเครื่องก็น่าจะมีครับ |
อ้างถึง:
ร้านถ่วงเพลาส่วนใหญ่จะอยู่กทม.หรือปริมณทลครับ ว่าแต่ไปตัดต่อยอยแปดทิศที่ได้มาครับ ลองให้เขาแก้ไขให้ดีกว่าเพราะเราเสียตังค์ไปแล้ว ตามปกติตัดต่อเพลาจะส่งทำกันที่โรงกลึง เพราะเขาจะจับขึ้นแท่นกลึงหมุนในรอบต่าง ๆ กัน ถ้าเพลาตัดต่อมาไม่ได้ศูนย์มันก็จะสั่นให้เห็นตั้งแต ่อยู่บนแท่นแล้วล่ะครับ ถ้าเพลาเดิมเราได้ศูนย์ + โรงกลึงช่างมีประสบการณ์ตัดต่อมาได้ศูนย์ ก็ไม่จำเป็นต้องถ่วงเลย แต่จะเอาเข้าถ่วงเพลา เท่าที่ทราบก็สนามเป้าศูนย์ล้อ ธนายนต์ Auto Boy แยกสวนสมเด็จ ปทุมธานีครับ |
อ้างถึง:
ถ่วงเพลาร้านเงากลการก็มีอีกร้านหนึ่งครับ ร้านเดิมที่บางไผ่ เดี๋ยวนี้เห็นว่ามีสี่สาขาแล้ว หนึ่งในนั้นก็มีสาขาบางบัวทองด้วย ผมเองก็ต้องถ่วงเหมือนกัน สั่นที่ 120 ตัดต่อตอนเปลี่ยนเกียรมาแล้วไม่ได้ถ่วง |
ขอบคุณครับ เดี๋ยวไปแก้ไขตรงยอย 8 ทิศก่อน แล้วจะแจ้งให้ทราบนะครับ รถผมปัญหาเยอะ หมดจากนี้ก็ไม่รู้จะเป็นอะไรอีก ต้องรบกวนเพื่อนๆพี่ๆในเวปช่วยแก้ไขหน่อยนะครับ
ออ....อีกอย่างปัญหาความร้อนครับ ตอนนี้ใส่หม้อน้ำทองแดง 2 แถวครับ วิ่งที่ 100 ขึ้นไปความร้อนขึ้นครับ แต่พอเบาคันเร่งก็ลดลงครับ ผมว่าจะเปลี่ยนเป็นหม้อน้ำอลูมิเนียม พัดลมไฟฟ้า 2 สเตป จะช่วยได้ไม๊ครับ อีกอย่างผมใส่อินเตอร์ลูกเล็กครับ มันระบายไม่ทันรึป่าวความร้อนถึงขึ้นอะครับ แบบว่าเอาอินเตอร์ซ่อนในกันชนเหล็กแบบอ๊อฟโรด ไม่อยากโชว์อินเตอร์อะครับ |
อ้างถึง:
ที่สำคัญคือ ต้องตีบังลมและติดพัดลมแบบดูดตัวบาง 2 สเต็ปได้ยิ่งดีครับ วิ่งด้วยความเร็ว 100 แล้วความร้อนขึ้นเป็นไปได้ว่าหม้อน้ำอาจจะเล็กเกินไป ระบายไม่ทัน วิ่งด้วยความเร็วระดับนี้จะอาศัยลมปะทะหม้อน้ำมากกว่ าแรงดูดจากพัดลมครับ อินเตอร์เล็กเกินไปก็มีส่วนทำให้ความร้อนสูงกว่าปกติ ได้ ทดสอบโดยวิ่งติดบูสเมื่อจอดแล้วลองแตะท่ออินเตอร์ก่อ นเข้าท่อร่วมไอดีดู ต้องพออุ่น ๆ แตะได้ แต่ถ้าร้อนจนแตะไม่ได้ก็แสดงว่าอินเตอร์เล็กเกินไประ บายไม่ทันครับ หรือลองแตะเทียบกันระหว่างท่อที่ออกจากเทอร์โบ และท่อก่อนเข้าท่อร่วม อุณหภูมิต้องต่างกันพอสมควรครับ |
อ้างถึง:
|
คุณวุฒิ ครับ
ชุดเรือนไมล์รุ่นที่คุณวุฒิเปลี่ยน มันมีเสียงร้องของออดเตือนไหมครับ เช่น:- วิ่งเกิน 110 km/h ขึ้นไป ถอยหลัง ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย และเข็มวัดน้ำมันใช้ไม่ได้เพราะระบบลูกลอยไม่เหมือนแ บบเดิม ขอบคุณล่วงหน้าครับ |
อ้างถึง:
วิ่งเกิน 110 ไม่เตือน เข็มขัดนิรภัยเตือนเฉพาะด้านคนขับ เข็มวัดน้ำมันของผมไปใช้ลูกลอยแบบ 3 สามสายถึงขึ้น ตรงดีไม่มีปัญหาครับ |
รายงานผลครับ
1.หลังจากที่เปลี่ยนหม้อน้ำแบบ อลูมิเนียม 2 ช่อง แต่ใหญ่กว่าหม้อน้ำทองแดง 2 ช่อง พัดลมแบบดูด 2 สเตป ผลปรากฎว่า ความร้อนยังขึ้นเหมือนเดิมแต่ขึ้นช้ากว่าเดิมหน่อย คือวิ่งที่ 120 แช่ยาวๆ ความร้อนขึ้นประมาณ 110 องศาอะครับ ช่างบอกว่าต้องเพิ่มหม้อน้ำเล็กอีกลูกไว้ใต้ท้องแล้ว เอาพัดลมเป่าเอา 2.แอร์มันไม่เย็นเลย ยิ่งเหยียบก็ยิ่งไม่เย็นมีแต่ลมออกมา ทั้งที่ก่อนเปลี่ยนเครื่องมันเย็นเจี๊ยบเลยอะครับ มัเป็นเพราะอะไร 3.เวลาจอดได้กลิ่นน้ำมันเกียร์เข้ามาในเก๋ง กลิ่นแรงมากแรงจนมึนหัวเลยครับ มันเป็นเพราะอะไร ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับผม รถผมมันอยู่อู่นานเกินไปแล้ว อยากขับมากๆ |
ลองย้ายแผงแอร์ไว้ใต้ท้องดูซิคับจะได้ไม่บังหม้อน้ำก ็พอช่วยได้นะคับ:) ของผมกับเพื่อนก็ย้ายไว้ใต้ท้องเหมือนกันใช้แผงของรถ ตู้พัดลม2สปีดหนาวเลย ความร้อนขึ้นแค่80-85เองวัดจากเกจแยกเทอร์โมต่อตรงท่อน้ำบนหม้อนำเดิมพั ดลมเป่า2ตัว
สวนเรื่องแอร์ไม่เย็นคอมทำงานหรือเปล่าวหรือไม่ก็น้ำ ยารั่ว................. ส่วนน้ำมันเกียร์มันเดือดหรือเปล่าวออยระบายความร้อน ไม่ทัน รอพี่ๆท่านอื่นมาช่วยตอบดีกว่า ......................... ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไร:emo_toon24: |
อ้างถึง:
ตอนนี้ผมแก้ปัญหาเสียงโดยถอด Buzzer ออกไปก่อนเพราะวิ่งทางไกลมันดังตลอดทาง เกจน้ำมันต้องใช้ของเดิมมาแปลงเอา ไม่งั้นใช้ไม่ได้ เข็มความเร็วผิดไปประมาณ10% เฟืองไมล์ติดเกียรKZ เป็นเฟือง 31 ฟัน ผมเปลี่ยนเป็น 33 ก็ดีขึ้นมานิดหนึ่งได้ประมาณ 5-6% (เฟืองท้าย 4.5) ไว้มีเวลา ค่อยหาทางแก้ไขใหม่ ขอบคุณอีกครั้งครับ |
อ้างถึง:
1. ได้ลองวัดดูไหมครับว่า เวลาเติมน้ำได้ประมาณกี่ลิตร ถ้าจุอย่างระดับ 8-9 ลิตร น่าจะเอาอยู่นะครับ อีกอย่างคือกันชนหน้า ถ้าบังลมมากเกินไปลม ปะทะหน้าหม้อน้ำได้น้อยก็มีปัญหาได้ 2. เป็นได้ทั้งกำลังอัดคอมฯไม่ดี หรือไม่ก็แผงคอล์ยระบายความร้อนออกไม่ทัน ประเด็นนี้มีผลต่อเนื่องเรื่องความร้อนด้วยครับ คือถ้าแผงแอร์มันชิดกับหม้อน้ำมากเกินไป ก็จะทำให้ระบายความร้อนไม่ออก รวมไปถึงประสิทธิภาพการระบายความร้อนของหม้อน้ำด้วย ความจะเว้นระยะห่างระหว่างแผงคอล์ยร้อนกับหม้อน้ำประ มาณ 1 นิ้ว หรือไม่ก็ย้ายแผงแอร์ลงล่างเสริมหรือเปลี่ยนแผงคอล์ย ไปเป็นแบบที่รถตู้ใช้กันก็น่าดีขึ้น อีกทั้งช่วยเรื่องการระบายความร้อนของหม้อน้ำได้ดีขึ ้นด้วยครับ 3. ต้องก้มลงไปตรวจสอบดูครับว่ามีจุรั่วซึมตรงไหนบ้างหร ือเปล่า ชุดคอนโซลซุ้มเกียร์ได้กรุปิดไว้สนิทไหม เพราะมันจะทำให้กลิ่นและไอร้อนจากเกียร์เข้ามาในห้อง โดยสารได้ครับ |
- ได้ a/f meter มาตัวนึงครับ มีหลอดไฟ 9 ดวง เขียว 4 lean ส้ม 3 perfect แดง 2 rich เอาไปติดใน 1jz ge auto ฝาดำ lpg fix mix หม้อต้ม tomasetto ครับ มีสายไฟ 3 เส้น เขาบอกให้ต่อเส้นนึงเข้า + ที่สวิทซ์ อีกเส้นเข้ากราวด์ อีกเส้นไปต่อที่ o2 sensor ของผมเป็นแบบสี่สาย มีดำ 2 สองเส้น ขาว 1 เส้น และน้ำเงิน 1 เส้น ผมให้ช่่างต่อเข้าสีน้ำเงิน
- พอติดเสร็จ ยังไม่ได้จูนแก๊สใหม่ ลองวิ่งดู ปรากฎว่า ไฟมันวิ่งครับ ตอนใช้แก๊ส ตอนเดินเบามันติดเขียว 4 กับส้ม 3 ดวง แต่ตอนรถวิ่ง ขณะเหยียบคันเร่งไฟมันวิ่งลงจนดับหมด พอยกคันเร่ง ไฟมันก็วิ่งขึ้นมาติด 7 ดวงอีก เป็นอย่างนี้ตลอด แต่พอตอนใช้น้ำมัน ไฟมันวิ่งขึ้นลงเรื่อยๆ ตลอดเลยครับ ไม่ได้กระดิกเร็วแบบไฟดิสโก้นะครับ แต่มันขึ้นลงไม่สัมพันธ์กับคันเร่งเหมือนตอนใช้แก๊ส - สอบถามผู้ผลิต เขาบอกว่าที่ไฟวิ่งตอนใช้น้ำมันเพราะว่า o2 มันส่งสัญญาณไปที่กล่องเพื่อควบคุมการจ่ายน้ำมัน ไฟที่ a/f meter มันเลยวิ่งขึ้นลงตามที่ o2 ส่งสัญญาณไป ส่วนตอนที่ใช้แก๊สแล้วไฟมันวิ่งลงตอนเหยียบคันเร่งแล ะติดตอนยกคันเร่ง เพราะแก๊สบางไป ตอนเร่งมันเลยไม่ดูดแก๊สมา a/f meter เลยจับสัญญาณไม่ได้ ไฟก็ดับตอนเหยียบคันเร่งครับ - รบกวนผู้รู้ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ มันผิดปกติรึเปล่า ผมต้องแก้ไขอย่างไรไหมครับ |
อ้างถึง:
ของผมเป็นแก๊สแบบหัวฉีด เคยเอา A/F Meter ของ Auto Meter มาติด มันก็วิ่งขึ้นลงเหมือนกันทั้งแก๊สและน้ำมันครับ แต่มันอ่านค่าได้ไม่ละเอียดนัก ถ้าเหยียบคันเร่งลึก ๆ หน่อยมัน จะเข้าสู่ Open Loop A/F มันก็อ่านค่าไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันติด A/F แบบ WideBand อ่านค่าได้ตลอดทั้งรอบต่ำและรอบสูงครับ |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:14 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels