![]() |
อ้างถึง:
|
toyota tiger d4d cap หลังคาแครี่บอย 1jz vvt-i เฟืองท้ายเดิม NGVหม้อต้มLANDI RENZO มิก30mm สนามหลวง2-ถ.ปู่เจ้าฯ สำโรงใต้ 2วันเติมที เติมที่ปั๊มบางจาก ถ.ปู่เจ้าฯ 145 บาท วิ่งได้ประมาณ 190-200 กม. ความเร็ว80-150กม./ชม.ใช้มาประมาณ70000โลแล้ว
|
แล้วแรงหายไปเยอะไหมครับ? ไม่แคร์ความเร็วปลาย แต่สำคัญต้องออกตัว+ขึ้นภูเขาหรือเนินดีๆ แต่กลัวที่สุดก็ Backนี่แหละครับ.......
เคยมีประสบการณ์กับ Lpg ดูด ไอ้คุ้มมันก็เกินคุ้ม แต่แรงที่หายไป กับ Back เนี่ยสุดเซ็งเลยครับ แล้วไม่ต้องใส่ Tapกันเหรอครับ? ขอบคุณครับ :emo_toon05: |
ติด lpg แรงไม่น่าหาย และเครื่องก็จะไม่น่าร้อนขึ้น เพราะมันติดไฟเผาไหม้เร็วเท่าๆ น้ำมัน
แต่ ngv ตามทฤษฎีแรงจะหายเนื่องจากติดไฟช้ากว่าน้ำมัน มันจึงจุดระเบิดช้ากว่า เผาไหม้นานกว่า จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้ประสิทธิภาพของการระเบิด และเครื่องจะร้อนขึ้นด้วย เพราะว่าช่วงการเผาไหม้จะสัมผัสกับพื้นผิวกระบอกสูบน านกว่า การติด tap นั้นเพื่อทำการเลื่อนองศาจุดระเบิดให้เพิ่มขึ้น ต้องมีกล่อง tap และต่อวงจรเพิ่ม ความเห็นผมว่า lpg ไม่จำเป็นต้องติดก็ได้ เพราะว่ามันจุดระเบิดได้เร็วเทียบเท่าน้ำมันอยู่แล้ว แต่ ngv ควรติด ถ้าขี้เกียจตั้งไฟ หมายถึงตั้งไฟให้แก่ขึ้นกว่าวิ่งน้ำมัน ปกติจะปรับที่จ่านจ่าย ไฟแก่หมายถึงเพิ่มองศาจุดระเบิด เช่นจากเดิมจุดระเบิดประมาณ 12 องศาก่อนศูนย์ตายบน ก็ปรับเป็นสัก 17 องศาก่อนศูนย์ตายบน การเผาไหม้ก็จะดีขึ้นได้แรงเพิ่ม เครื่องจะร้อนลดลง แต่ขณะเดียวกันถ้ากลับมาวิ่งน้ำมัน เครื่องอาจเขกได้ง่ายๆ การติด tap ก็จะทำให้เราสบายขึ้น เวลาวิ่งน้ำมันมันก็จะไม่เปลี่ยนค่าองศาจุดระเบิด แต่เวลาวิ่งแก๊ส มันก็จะปรับให้โดยอัตโนมัติ ส่วนเครื่อง vvt-i ผมว่าไม่จำเป็นต้องติด tap เพราะเครื่องมันตั้งองศาจุดระเบิดได้เอง ตามปริมาณออกซิเจนที่เหลือในไอเสีย คือถ้าออกซิเจนยังมากอยู่ มันก็จะเพิ่มเชื้อเพลิง/เพิ่มองศาจุดระเบิด อันนี้ผมคิดเองนะ ไม่รู้จริงป่าว เพราะดูจากเครื่อง obd1 แล้วบางทีมันไปจุดระเบิดที่ 30 องศายังเคยเห็นเลย จากปกติวิ่งน้ำมันไม่เคยเห็น ส่วนเครื่อง ge ธรรมดา ผมไม่แน่ใจว่าเครื่องมันจะปรับองศาจุดระเบิดให้หรือป ่าว เพราะได้ยินแต่ว่าให้ปรับที่จ่านจ่าย เครื่องมันคงปรับได้แค่ปริมาณเชื้อเพลิง ส่วนระบบดูดถ้าจูนดีๆ จะไม่มี backfire เลยนะครับ ของผมเคยเกิด backfire เป็นเพราะตัวชดเชยรอบเลี้ยวไม่ได้ต่อท่อให้ดูดเอาแก๊ สเข้าไปด้วย เวลาวิ่งมาเร็วๆ จี้ท้ายคันหน้า เหยียบเบรคแล้วหักพวงมาลัยแซงต่อ (ตามสไตล์ขับต่างจังหวัด) ช่วงจังหวะปล่อยคันเร่งแล้วเหยียบเบรคนั้นลิ้นปีกผีเ สื้อจะปิด แก๊สจะผ่านแต่ลิ้นมอเตอร์รอบเดินเบา ซึ่งมันผ่านได้น้อย ยิ่งพอหักพวงมาลัยซึ่งมีแต่อากาศเข้า ไม่มีแก๊ส ปริมาณแก๊สในท่อร่วมไอดีจะบางมาก มันเลยจุดระเบิดได้เอง แต่พอผมต่อเอาแก๊สเข้าตัวชดเชยรอบเลี้ยวด้วยแล้วยังไ ม่เคยเกิด backfire เลยครับ และของผมตอนนี้คิดว่าจูนดีพอได้แล้ว วิ่งยังไงก็ไม่มี backfire แถมอัตราเร่งถือว่าใกล้เคียงน้ำมันมากๆ เลยครับ หมายเหตุ ต้องขอโทษนะครับ หากความเห็นของผมขัดแย้งกับท่านอื่นๆ แต่ที่เขียนมานี่ผมเองไม่ได้มั่ว และก็ไม่ได้รู้เองหรอกนะครับ แต่ได้เคยไปอบรมมากับอาจารย์ ม.เกษตร ท่านหนึ่ง ที่ในวงการถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้าน ngv เลยทีเดียว ท่านก็พูดไว้ประมาณนี้แหละครับ ผมถึงเอามาเขียนต่อได้ ซึ่งหลังจากอบรมสักพัก ผมก็ตัดสินใจเอารถไปติด ngv เลย |
ขอบคุณครับ
เดี๋ยวจะลองเข้าไปคุยกับอู่ดูครับ Tapควรติดนะครับ.......จะได้ถามทีเดียวเลย |
สนับสนุนประโยคนี้ครับ "ของผมเคยเกิด backfire เป็นเพราะตัวชดเชยรอบเลี้ยวไม่ได้ต่อท่อให้ดูดเอาแก๊ สเข้าไปด้วย" เพราะว่าผมเคยเจอเองมาแล้ว ขับมาตั้งนาน ไม่เคย Back ซักที พอมาหลังๆ เกิด Back บ่อยมาก มัวแต่ไปแก้ปัญหาตรงจุดอื่น ก็ไม่หาย Back จนมาสังเกตเห็นปลายท่อชดเชยรอบที่ต่ออยู่กับมิกเซอร์ ปลายมันแตก มันเลยไม่ได้ดูดอะไรเข้าไป ก็เลยตัดแล้วเสียบใหม่ อาการ Back หายเลยครับ
|
อ้อ....K.หนุ่ม การเติมNgvวิ่งหมดถังแล้วเติม กับวิ่งครึ่งถังแล้วเติม แตกต่างกันนะครับ
ส่วนตัวเคยรู้สึกว่าคิดไปเอง แต่ถามใครใครก็บอกแบบเดียวกันครับ |
ผมจะวิ่งจนเกือบหมดแล้วค่อยเติมครับ
วันนึงวิ่งประมาณ 40 กิโล วิ่งได้ 4 วัน เติมครั้งนึงก็ประมาณ 150 บาท วิ่งโชคชัย 4 - รัชโยธิน - บางกรวย รถติดพอสมควร ตกกิโลละ 90 สตางค์ครับ ส่วนที่วิ่งจนเกือบหมดถังแล้วค่อยเติม เพราะว่าถังเค้ามีกำหนดอายุการใช้งานเติมแก๊ส กี่ครั้งผมจำไม่ได้ ถ้าเติมบ่อยไปกลัวอายุมันจะสั้นหนะครับ เพราะเติมทุกครั้งถังก็ขยายตัว แล้วร้อนมากด้วยครับ |
แล้วก็อีกอย่างนะครับ ผมเพิ่งสังเกตุได้เมื่อไม่นานนี้เอง
เวลาจูนแก๊ส แรกๆ ผมลองจูนเองอย่างที่เคย Post ไว้ จะตั้งรอบจูน peak ที่ 2000 รอบ ไม่กล้าเร่งมาก ซึ่งมันน้อยไปนะครับ เพราะมันหมายความถึงถ้าเร่งเครื่องเกิน 2000 รอบ เครื่องจะไม่มีกำลัง มันจะเร่งไม่ขึ้นเลย และกินแก๊สด้วย ตอนจูนช่วงนั้น กินกิโลละ 1.3 บาท ตอนหลังผมมาลองจูนใหม่ที่ 3000 รอบ ซึ่งได้ผลต่างกันมาก เครื่องเร่งดีขึ้นแล้วก็ประหยัดแก๊สด้วย ส่วนการจูนที่รอบสูงกว่านี้ผมไม่รู้ว่ามีใครเขาทำหรื อป่าว อีกอย่างรถผม 3000 รอบ ก็วิ่งได้เกือบ 140 km/h แล้วหนะครับ เคยวิ่งสูงสุด 150 km/h รอบได้ 3400 รอบ แต่วิ่งน้ำมันนะครับ แก๊สยังไม่เคยลอง [วัดจาก obd1 นะครับ เข็มไมล์เดิมไม่ได้ต่อ เลยไม่รู้เพี้ยนด้วยหรือป่าว] |
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:01 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels